"พปชร." พบสื่อเครือเนชั่น ชู นโยบาย ซื้อใจคนกรุง ยัน ไร้ดีลลับ ไม่จับมือคนโกง

แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายอุตตม สาวนายน ประธานคณะกรรมการจัดทำนโยบายพรรคพลังประชารัฐ นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะหัวหน้าทีมกทม. พรรคพลังประชารัฐ และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นำผู้สมัครส.ส.กทม. ทั้ง 33 เขต ของพรรคพลังประชารัฐ พบปะสื่อเครือเนชั่น พร้อมนำเสนอนโยบายและแนวทางการหาเสียงเลือกตั้ง 

โดยนายอุตตม เปิดเผยว่า ขอให้มั่นใจนโยบายพรรคพลังประชารัฐทำได้ตามที่หาเสียงแน่ทำได้จริง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้ประกาศแล้วว่าเต็มที่ มั่นใจทีมงานทุกคนในอดีตการเมืองเปลี่ยนแปลง ความเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค บางอย่างเสนอแล้วอาจไม่ได้ทำทั้งหมด และยังเจอปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด สิ่งที่จะทำจึงดีเลย์ออกไป ครั้งนี้คนละเรื่องกันแล้ว นโยบายพรรควันนี้ยึดโยงกัน โดยกทม.จะเป็นหัวขบวนพัฒนาประเทศ ยึดโยงกับพื้นที่อื่นๆ การพัฒนาต้องทำเต็มรูปแบบ เพื่อให้ตอบโจทย์การมุ่งสู่โอกาสที่จะดีขึ้น

นายอุตตม กล่าวว่า มี2-3ปัจจัยที่จะทำให้พลังประชารัฐ ผลักดันนโยบายให้เกิดขึ้นจริงคือ1.บุคลากรผู้สมัครของพรรค 2.นโยบายตอบโจทย์ และ 3.ทีมงาน นำโดยพล.อ.ประวิตร ซึ่งสถานการณ์วันนี้ และวันหน้า พล.อ.ประวิตร มีความเหมาะสมที่สุด เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งร่วมพัฒนาประเทศ วันนี้บ้านเมืองอยู่ในจุดพลิกผัน ต้องการผู้นำที่เด็ดขาด ระดมคนเข้ามาช่วยงานได้ คุณสมบัติเหล่านี้พร้อม 

ขณะที่นายสกลธี กล่าวว่า ผู้สมัคร กทม.ของพรรค ผสมผสานทั้งอดีตส.ส. อดีตส.ก. และอดีตประธานสข. ซึ่งมีความคิดร่วมกันในการพัฒนาประเทศ เรามีทีมนโยบายเศรษฐกิจเป็นคนมีชื่อเสียงหลายคน มีแนวทางแก้ปัญหาปากท้องแน่นเอี๊ยด ตามโจทย์ของพล.อ.ประวิตร เช่น กองทุนประชารัฐ 3 แสนล้าน ที่จะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ เพิ่มย่านการค้า พัฒนาระบบขนส่งมวลชน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยเฉพาะในกทม. แต่กทม. จะโตเพียงจังหวัดเดียวไม่ได้ ต้องบวกอีก5จังหวัดรอบกทม. ได้แก่ สมุทรปราการ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี และฉะเชิงเทรา ที่ต้องโตไปด้วยกันทั้งเรื่องการขนส่งสาธารณะ การกระจายถิ่นที่อยู่อาศัย 

นายสกลธี กล่าวถึงความมั่นใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถึงแม้อดีตส.ส.กทม. ของพรรคจะย้ายไปหลายคนว่า เรื่องนี้ไม่กังวล ปี62 เราเริ่มจากศูนย์ ไม่มีส.ส.มาก่อนเลย เรายังได้ส.ส.มา 12 คน ปีนี้เราเหลืออดีตส.ส. อยู่1คน มากกว่าเดิม และต้องมองว่า กทม.เป็นสนามที่ไม่ใช่บ้านใหญ่ หรือแชมป์เก่าแล้วจะการันตี จะได้กลับมา มันมีโอกาสเปลี่ยนได้ตลอดเวลา มันเป็นเรื่องตัวบุคคล30-40% กระแส 60-70% เพราะฉะนั้น วันนี้จึงตอบยาก ต้องมองสัปดาห์หรือ2สัปดาห์สุดท้าย 

"ผมมองว่าผู้นำอย่างพล.อ.ประวิตร ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเองทุกอย่าง การเลือกคนให้เหมาะกับงาน คงไม่มีผู้นำคนไหนที่ทำทุกเรื่องและเก่งหมดทุกเรื่อง แต่ผู้นำที่ดีที่สุดคือรู้จักใช้คนที่เหมาะกับงานนั้น พล.อ.ประวิตร คือคนนั้น" นายสกลธี ระบุ 

ในส่วนของนางนฤมล กล่าวว่า ความโดดเด่นของพรรคพลังประชารัฐ คือนโยบายลดค่าครองชีพ โดยทีมเศรษฐกิจได้หารือ ในเรื่องของการเน้นลดค่าครองชีพ ลดค่าน้ำมัน ค่าพลังงาน ค่าไฟฟ้า จะทำอย่างไร ด้วยวิธีการใด ซึ่งมองไปถึงระยะยาว รวมไปถึงพลังงานสะอาดในอนาคตและการจัดหาแหล่งทำกินให้ประชาชน มีพื้นที่ค้าขาย เสริมทักษะการประกอบอาชีพ จัดหาแหล่งทุน ซึ่งอยู่ในชุดนโยบายของพรรค 

นางนฤมล กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืน ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 62 โดยเรายึดมั่นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เรามีผู้แทน ทุกปัญหาต้องจบในสภาไม่สนับสนุนการสร้างความขัดแย้ง และไม่ทำให้ประชาชนต้องลงถนน พรรคเราไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร และไม่ได้หมายความว่าเราจะจับมือกับใครก็ได้ เป็นความเข้าใจผิด ดีลลับไม่มี เราไม่ร่วมกับพวกทุจริตคอร์รัปชั่นแน่นอน