“ประยุทธ์” แจง เหตุไม่ลง ปาร์ตี้ลิสต์ รทสช. เรื่องของผม รธน.ไม่ได้กำหนด

“ประยุทธ์” แจง เหตุไม่ลง ปาร์ตี้ลิสต์ รทสช. เรื่องของผม รธน.ไม่ได้กำหนด

“นายกฯ”​ เผย มีเหตุผลส่วนตัว ไม่ลงปาร์ตี้ลิส รทสช.​ แจง รัฐธรรมนูญ​ ไม่ได้บังคับ​ ยัน​ อยู่ประคับประคองพรรคร่วมรัฐบาล​มา​ 4ปี ไม่เคยใช้อำนาจเต็มที่​ ลั่นไม่ขอพูด​ หลังสื่อฯถามข้อเสนอยงยุทธ กลืนเลือดคนละก้อน​ ปม ทักษิณ​ ประกาศกลับประเทศรับโทษ​ แจง ผมไม่ใช่ตัวขัดแย้ง

พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าถึงกรณี วันที่ 4 เมษายนนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปร่วมการรับสมัครส.ส. แบบบัญชีรายชื่อหรือไม่ว่า ตนขอคุยกับทางพรรครวมไทยสร้างชาติก่อน เนื่องจากขณะนี้พรรคกำลังดำเนินการหลายอย่าง ทั้งเรื่องการประชุมและจัดลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ และหลังจากนั้นจะมาหารือกับตนอีกครั้งหนึ่ง ในเรื่องการเลือกตั้ง พร้อมกับระบุว่าตนไม่อยากมาพูดในวาระตรงนี้ เพราะบทบาทตนอยู่ตรงนี้ อยู่ในทำเนียบรัฐบาล พร้อมยืนยันว่าเราต้องช่วยกันให้ประเทศไปรอด ขออย่าคิดว่ามันง่ายนักในการทำงานอะไรต่างๆ ดั่งใจที่คิด มันไม่ง่ายมากนักหรอกในวันนี้ โลกกำลังจับตามองทุกอย่าง​ ส่วนดีๆเราก็เยอะอยู่แล้ว 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายยงยุทธ​ ติยะไพรัช ที่ปรึกษาพรรคเพื่อชาติ เสนอทางออกประเทศแก้ความขัดแย้ง โดยระบุว่าให้กลืนเลือดกันคนละก้อน หลังนายทักษิณชินวัตร​ อดีตนายกรัฐมนตรี​ ประกาศเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อมารับโทษ​ นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ ก็พูดไปเถอะ เขาก็พูดไป ตนยังไม่มีความเห็น ทุกคนก็คิดเอาก็แล้วกัน ทั้งหมดผมไม่ได้เป็นตัวความขัดแย้งอะไรทั้งสิ้น ผมก็เข้ามาแก้ไขความขัดแย้ง ก็เห็นอยู่แล้วนี่ เพราะฉะนั้น ใครจะพูดอะไรก็พูดไป ซึ่งประชาชนจะเป็นผู้แยกแยะเอง ขอสื่อฯ ช่วยด้วยก็แล้วกันหากนำทุกคำพูดมาเป็นประเด็นก็ทะเลาะกันทั้งวันแหละโต้กันไปมา ผมไม่พูดเสียดีกว่า

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี​ยังชี้แจงถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความบิดเบือนในสังคมออนไลน์​ ถึงการนับถือศาสนาของพลเอกประยุทธ์ หลังจากที่เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอดเดือนรอมฎอน วานนี้​  ว่า​ พูดอย่างนี้ไม่ได้ มันทำให้เสียหายต่อประเทศ และตนก็ยืนยันว่าตนนับถือศาสนาพุทธมาตั้งแต่เกิด ตั้งแต่ปู่ย่าตายายก็นับถือศาสนาพุทธมาโดยตลอด ทั้งตนและครอบครัวญาติพี่น้องก็นับถือศาสนาพุทธ แต่ยืนยันว่าตนเคารพทุกศาสนา ซึ่งเราก็ต้องเคารพซึ่งกันและกัน ขอสื่ออย่าไปขยายความให้เขาแล้วกัน

เมื่อถามถึงสาเหตุการตัดสินใจไม่ลงส.สในระบบบัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ พลเอกประยุทธ์ปฏิเสธการตอบคำถาม โดยระบุว่าเป็นเหตุผลส่วนตัวของผม ซึ่งมีไม่มีข้อกำหนด​ จะลงก็ได้หรือไม่ลงก็ได้ รัฐธรรมนูญกำหนดว่าอย่างไรก็เป็นเช่นนั้น มันเป็นเรื่องของผม แต่ผมยืนยันว่า ผมไม่ได้ใช้อำนาจอย่างเดียวเสียเมื่อไหร่​ อยู่มา 4 ปีใช้อำนาจเต็มที่เสียที่ไหน ผมสามารถประคับประคองพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ทำงานได้ในทุกกระทรวง 36 คน ผมใช้อำนาจบังคับเขาตรงไหน ผมรู้กาลเวลา​ รู้กาลเทศะ ในการทำงานของตน บทบาทและหน้าที่

โดยในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี​ ยังระบุอีกว่า ขอให้ทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือ อะไรที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งก็ขอให้เบาๆลงหน่อย โอกาสมันจะหายไปหมดทุกอย่าง ไม่ใช่เฉพาะว่าตนจะอยู่หรือไม่อยู่ เรื่องการเมืองเป็นเรื่องของผมก็ว่ากันไป แต่ท้ายที่สุดประเทศชาติจะต้องอยู่นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

เมื่อถามย้ำว่าในวันพรุ่งนี้ช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีจะเดินทางเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่นายกรัฐมนตรีระบุว่าเดี๋ยวขอเช็คอีกที