33ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เพื่อไทยพบสื่อเครือเนชั่น-ชี้คว้าเกิน20ที่นั่ง
33ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เพื่อไทยพบสื่อ“เนชั่นกรุ๊ป” “ฉาย” หวังเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนพรรคการเมือง “ชลน่าน” ไม่สนกระแสแคนดิเดตนายกฯ ถูกแซง เชื่อคะแนนโดยรวมยังนำ “มาดามนครบาล” มั่นใจได้เกิน 20 ที่นั่ง นโยบายดี-ทีมเศรษฐกิจแข็ง
พรรคเพื่อไทย นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย นำว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้ง 33 คนเข้ามาเปิดตัว และแนะนำตัวกับสื่อมวลชนในเครือเนชั่นกรุ๊ป
โดยมีนายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น กรุ๊ป (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารให้เครือให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น รวมถึงบุคลากรทุกคนของเนชั่น กรุ๊ป ต่างรู้สึกยินดีที่ได้ต้อนรับทุกพรรคการเมือง
นายฉาย กล่าวในฐานะเครือเนชั่น กรุ๊ป เป็นองค์กรสื่อมวลชนที่มีความเป็นกลาง เรายินดีเปิดพื้นที่ให้กับทุกพรรคการเมืองเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดกัน ซึ่งหลังจากนี้เชื่อว่าจะมีตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยได้เข้าไปทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรหลายคน จึงอยากขอประเทศไทยไว้ด้วย ส่วนหากในอนาคตมีอะไรที่พอจะสามารถช่วยได้ เครือเนชั่น กรุ๊ปเองก็ยินดี
ด้านนายดนุพร กล่าวบนเวทีช่วงหนึ่งว่ามีความมั่นใจในตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม. ของพรรคทั้ง 33 คน เข้าใจว่าพื้นที่ กทม. หลายพรรคการเมืองต้องการปักธงแย่งชิง แต่จากการเลือกตั้งสมรภูมิเล็กอย่าง ส.ก. ที่ได้มาถึง 20 จาก 50 ที่นั่ง คงพิสูจน์แล้วว่าพรรคเพื่อไทยมีกระแสตอบรับที่ดี เรามีจุดเด่นที่นโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย “ทำได้เร็ว ทำได้จริง”
เมื่อถามถึงผลโพลล่าสุดกับกระแสแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคการเมือง พบว่านายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล มีคะแนนนำประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายแพทย์ชลน่าน มองว่าหากดูตามคะแนนจริงๆแล้ว พบว่าพรรคเพื่อไทยยังมีกระแสตอบรับที่ดีกว่าทั้งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แบบเขต รวมถึงแบบบัญชีรายชื่อ
ส่วนยุทธศาสตร์ในการดึงคะแนนนิยมนั้น นายแพทย์ชลน่าน ขอให้ดูจากแนวทางการทำงานที่ผ่านมา ซึ่งมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะถึงเป้าหมาย โดยเฉพาะพื้นที่ กทม. และเชื่อว่าประชาชนอยากออกจากวิกฤตที่ถูกสะสมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ส่วนกระแสข่าวเพื่อไทยเปิดชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่สามแล้วนั้น นายแพทย์ชลน่าน ขอรอรายชื่ออย่างเป็นทางการซึ่งคาดว่าจะชัดเจนได้ภายในสิ้นเดือนนี้ “เชื่อว่าโค้งสุดท้าย แรงเหวี่ยงจะมาที่เพื่อไทยแน่นอน”
ขณะที่นายภูมิธรรม เชื่อว่าปัญหาในสังคมไทยตอนนี้คือทุกคนรู้สึกเบื่อหน่าย ที่พบเจอแต่ความยากจน มองไม่เห็นอนาคต ฉะนั้นการทำให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นจริงคือยุทธศาสตร์ ระบอบพลเอกประยุทธ์นั้นมีต้นทุนเสียงสมาชิกวุฒิสภาอยู่ 250 เสียง จึงขอให้ “เลือกแบบชัดเจน เลิกเลือกแบบแบ่งใจ” สุดท้ายจะได้ประยุทธ์กลับมาอีก ทุกคนต้องเลือกตั้งด้วยสติ ประชาชนคือคนเปลี่ยนแปลง พรรคเพื่อไทยเป็นเพียงกลไกหนึ่งเท่านั้น
ด้านนางพวงเพ็ชร ย้ำเป้าหมายสนาม กทม. ได้เกิน 20 เสียงขึ้นไปอย่างแน่นอน เพราะกระแสตอบรับพรรคเพื่อไทยดีมากขึ้นด้วยนโยบายที่ดี “พรรคเพื่อไทยเท่านั้น เพราะเรามีทีมเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง”
ส่วนว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ต่างขึ้นมาบอกถึงนโยบายพื้นที่ กทม. อาทิ นโยบายทวงคืนอากาศสะอาด แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 - การกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล - ยกเลิกเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนมาเป็นแบบความสมัครใจ - ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ลดราคาทันที - ค่าแรงขึ้นทันที - ทุกครอบครัวไม่จนอีกต่อไปกับรายได้ไม่น้อยกว่า 20,000 บาทต่อเดือน