"ปชป." ปิดดีลสายเลือด ดึง "สุวัฒน์" ร่วมทัพม่วงศิริ หวังชนะใจคนฝั่งธนฯ

"ปชป." ปิดดีลสายเลือด ดึง "สุวัฒน์" ร่วมทัพม่วงศิริ หวังชนะใจคนฝั่งธนฯ

"สุวัฒน์" ร่วมทัพ ปชป. พร้อมลงเเลือกตั้งส.ส.กทม. เขต26 จับมือ คนตระกูลม่วงศิริ สู้เลือกตั้ง "เฉลิมชัย" ย้ำเป็นดีลทางสายเลือด ด้าน "นฤมล" เชื่อพปชร.ไม่กระทบ จ่อหาคนลงแทน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เมื่อ 15.00 น. นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์  รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายสากล  ม่วงศิริ , นายสาคร ม่วงศิริ, นายสามารถ ม่วงศิริ ร่วมต้อนรับ นายสุวัฒน์  ม่วงศิริ  เข้าสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากที่ลาออกจากการพรรคพลังประชารัฐ และถอนตัวลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. กทม. ในนามพรรคพลังประชารัฐ วานนี้ (22 มีนาคม)  

 

ทั้งนี้นายสุวัฒน์ ได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แบบตลอดชีพ พร้อมเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.กทม.ด้วย 

 

ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย  กล่าวต้อนรับนายสุวัฒน์ พร้อมแถลงว่านายสุวัฒน์ คือ ผู้สมัครส.ส.กทม.​เขต26  บางขุนเทียน เฉพาะแขวงท่าข้าม และเขตจอมทอง ยกเว้นบางขุนเทียน  ทั้งนี้จากการแบ่งเขตของ กกต. ทำให้พรรคจำเป็นต้องปรับให้เกิดความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่ และจากการพูดคุยกับนายสากล  นายสาคร และ นายสามารถ  แล้วมีความต้องการให้มาร่วมทำการเมืองร่วมกัน และต้องการเห็นภาพคนในตระกูลม่วงศิริทั้งหมดมาอยู่รวมกัน 

 

“ขอต้อนรับสู่พรรคประชาธิปัตย์และขอต้อนรับที่จะเป็นกำลังสู้ไปด้วยกันเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ สำหรับเป้าหมายส.ส.กทม.จะทำให้เต็มที่ทุกเขต ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่าเกิดดีลใหญ่นั้น ผมมองว่าดีลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ ดีลสายเลือด  ส่วนดีลอื่นๆ ประชาธิปัตย์ สู้ไม่ได้อยู่แล้ว” นายเฉลิมชัย กล่าว 

ขณะที่นายองอาจ กล่าวว่า สำหรับการแบ่งเขตเลือกตั้งกทม. ของกกต. พบว่าทำให้เกิดพื้นที่ทับซ้อน ทั้งเขตบางขุนเทียน เขตจอมทอง  เขตบางบอน เขตหนองแขม ทำให้ต้องตัดสินใจผนึกกำลังคนตระกูลม่วงศิริ เพื่อให้เกิดการรวมพลังในพื้นที่นำไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง  

"ปชป." ปิดดีลสายเลือด ดึง "สุวัฒน์" ร่วมทัพม่วงศิริ หวังชนะใจคนฝั่งธนฯ

“ทั้งเขตจอมทอง บางขุนเทียนบางบอน ล้วนเกี่ยวพันกันหมด รวมถึงเขตหนองแขม หากไม่ผนึกกำลังกัน แล้วต้องแข่งขันกันเองในหมู่ญาติพี่น้อง จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องการทำงานในพื้นที่ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลสำคัญ คือเชิญนายสุวัฒน์มาอยู่ในทีมเดียวกัน และทำงานร่วมกับพรรคจึงมาจากพื้นฐานของประชาชน และเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนเป็นสำคัญ” นายองอาจกล่าว 

ด้านนายสุวัฒน์ กล่าวยอมรับถึงการย้ายสังกัด เพื่อไม่ให้ตระกูลม่วงสิริส่งผู้สมัครแข่งขันกันเอง ซึ่งจะกระทบต่อความเป็นปึกแผ่นของตระกูลม่วงศิริ และฐานเสียงของพี่น้องประชาชนเกิดความยากลำบากในการตัดสินใจ การที่ตนเข้ามาอยู่ในทีมเดียวกัน อยู่พรรคเดียวกัน ก็จะทำให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น  ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับกระแสข่าวดีลที่ใหญ่กว่าดีลของพรรคพลังประชารัฐ

 

  

 

 

ทางด้านพรรคพลังประชารัฐ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ  กล่าวถึงกรณีที่นายสุวัฒน์ ลาออกจากว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม.ของพรรคพลังประชารัฐ ว่า ไม่มีผลกระทบกับพรรค ขณะนี้พรรคอยู่ระหว่างหาตัวผู้สมัคร ส.ส.กทม.คนใหม่แทน

 

"ปชป." ปิดดีลสายเลือด ดึง "สุวัฒน์" ร่วมทัพม่วงศิริ หวังชนะใจคนฝั่งธนฯ

 

ขณะที่ นายศันสนะ สุริยะโยธิน ว่าที่ผู้สมัคร กทม.เขต 24  กล่าวในประเด็นเดียวกันว่า ไม่มีผลกระทบต่อพรรคและกำลังใจของผู้สมัคร ส่วนนายสุวัฒน์ที่ลาออก เชื่อว่ามีปัจจัยหลักจากการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่สลับเขต และสร้างความสับสนให้กับผู้สมัครในบางเขต โดยพื้นที่เขตของนายสุวัฒน์ถูกสลับไป เป็นม่วงศิริเหมือนกัน อาจจะส่งผลดีมากกว่า