“ก้าวไกล” ลั่นถ้าเป็นรัฐบาลแก้ รธน.ปลดล็อกท้องถิ่น เลิกตาข่ายดักโกง

“ก้าวไกล” ลั่นถ้าเป็นรัฐบาลแก้ รธน.ปลดล็อกท้องถิ่น เลิกตาข่ายดักโกง

“ณัฐพงษ์” ยกผลงาน “คณะก้าวหน้า” ทำน้ำประปาสะอาดดื่มได้ ยันถ้า “ก้าวไกล” เป็นรัฐบาล จะทำทั่วประเทศ ลุยยกเลิกคำสั่ง คสช. ชงสภาแก้ รธน.ปลดล็อกท้องถิ่น แก้ระเบียบส่วนกลางที่กดทับ สั่งเลิกตาข่ายดักโกงจากส่วนกลาง ทำสภาพลเมือง สร้างความโปร่งใสตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2566 ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ สุขุมวิท กทม. เครือเนชั่น กรุ๊ป ร่วมกับสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย จัดงานสัมมนา “ท้องถิ่นมั่งคั่ง ประเทศมั่นคง” มีตอนหนึ่งให้ตัวแทนพรรคการเมืองเปิดนโยบายกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กทม. รองเลขาธิการฝ่ายพัฒนาระบบข้อมูล และดิจิทัล พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เชื่อว่าถ้าพูดถึงการผลักดันการกระจายอำนาจ ประชาชนคงได้ยินมามากแล้ว การกระจายอำนาจไม่ใช่ถกเถียงว่าจะทำหรือไม่ทำ แต่ต้องทำแล้ว แต่จะทำอย่างไรมากกว่า โดยพรรคก้าวไกลคือ หนึ่งในตัวเลือกชัดเจนสุดให้กับพี่น้องท้องถิ่นว่า พวกเราพูดจริง ทำได้ และทำแน่ ดังนั้นการที่บอกว่าพรรคก้าวไกล พูดจริงได้แสดงออกมาแล้วผลงานในสภา 4 ปี ไม่ว่าการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยตนอภิปรายตั้งแต่ปี 2563 ที่กระจายงบให้ท้องถิ่น หรือแม้แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ปัจจุบันยังคงมีคำสั่ง ประกาศ คสช. มรดกจากรัฐประหาร กดทับกดหัวจากท้องถิ่นอยู่ เพราะฉะนั้นสิ่งที่พวกเราพูดมาตลอด 4 ปี อยากยืนยันไปอีกอนาคตข้างหน้าว่า พวกเราทำได้ และทำแน่ๆ

“ตัวอย่างว่าพรรคก้าวไกลทำได้ นั่นคือ กรณีเทศบาล ตำบลอาดสามารถ จ.ร้อยเอ็ด หลังจากคณะก้าวหน้าชนะการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี เทศบาลอาจสามารถ แต่เราต่อยอดไปสิ่งใหญ่ เกิดโอกาสมากมายในระดับประเทศ หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล โดยเทศบาลแห่งนี้อยู่ในตำบลเล็กๆ แต่เดิมน้ำประปาไม่สะอาด แต่เราเล็งเห็นวิสัยทัศน์ เอาอุตสาหกรรมแห่งอนาคตไปแก้ไขปัญหา สิ่งที่ผลิตน้ำประปาสะอาดแห่งเทศบาลดังกล่าว เป็นอุปกรณ์ในแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ผลิตได้แล้วในไทย หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล มีนโยบายทำน้ำประปาสะอาดทั่วประเทศ มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2.8 แสนล้านบาทต่อปี นอกจากนี้เราจะให้สิทธิประโยชน์การตั้งโรงงานผลิตสมาร์ทมิเตอร์ เซนเซอร์ในไทย สร้างคุณภาพชีวิตให้ประชาชนในต่างจังหวัด” นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้มีผลงานพิสูจน์ชัดแล้ว พรรคก้าวไกลเป็นหนึ่งในพรรคตัวเลือกอันดับต้นๆ เพราะเราเป็นพรรคของประชาชน การเลือกตั้งนายกฯ ทุกจังหวัด การเลือกตั้งผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เรายืนยันว่าผู้บริหารสูงสุดในจังหวัดต้องมาจากประชาชน การจัดทำประชามติ เพื่อยุบ ควบรวมส่วนภูมิภาค เข้ากับท้องถิ่น ต้องใช้อำนาจของประชาชนผ่านการจัดทำประชามติ ปีแรกที่พรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล

“ข้ออ้างต่างๆ นานาที่ว่าท้องถิ่นโกง พรรคก้าวไกลจะยกเลิก โละทิ้ง ประกาศส่วนกลางที่อ้างว่าเป็นตาข่ายดักโกง 9 ปีมานี้ ดัชนีชี้วัดทุจริตไทย ไม่ได้ดีขึ้น นอกจากยกเลิกประกาศต่างๆ ที่กดทับท้องถิ่น เรายังจะเปิดรัฐโปร่งใส การมีส่วนร่วมประชาชน จัดตั้งสภาพลเมืองไปพร้อมๆ กัน” นายณัฐพงษ์ กล่าว

“ก้าวไกล” ลั่นถ้าเป็นรัฐบาลแก้ รธน.ปลดล็อกท้องถิ่น เลิกตาข่ายดักโกง

รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า ปลดล็อกระเบียบท้องถิ่น เรามีนโยบายกระจายงบประมาณให้ท้องถิ่น สัดส่วน 50:50 คิดเป็นมูลค่า 2 แสนล้านบาท ภายใน 4 ปี ทำได้ไม่ได้ลอยมาจากไหน ถ้าภารกิจไป คนไป ถึง 50 แน่นอน ถามว่า 2 แสนล้านบาท คิดเป็นต่อแห่ง อบจ. จังหวัดละ 250 ล้านบาท/ปี ถ้าคิดเป็นเทศบาล เมืองละ 100 ล้านบาท/ปี คิดเป็น อบต. 20 ล้านบาท/ปี ทำได้ภายใน 4 ปีแน่นอน นี่คือ การกระจายงบประมาณสู่ท้องถิ่น

“สุดท้ายจะไม่มีวันเกิดขึ้นได้เลย ถ้าไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ เราได้พูดคุยแล้วว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่มีคำว่ากระจายอำนาจเลย สิ่งที่พรรคก้าวไกลเสนอไปแล้ว แต่ถูกปัดตก เพราะรัฐบาลปัจจุบันไม่ได้มาจากประชาชนคือ การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่น ถ้าเราเป็นรัฐบาล เราจะเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้กลับไปอีกครั้ง ทุกเรื่องที่พูดมา จำเป็นต้องจัดทำเป็นรัฐธรรมนูญอย่างเดียว ทำเป็น พ.ร.บ.ไม่ได้ เพราะเรามี พ.ร.บ.ตั้งแต่ปี 2540 แต่การกระจายอำนาจไปไม่ถึงไหน ถ้าเป็นแค่อำนาจท้องถิ่นใน พ.ร.บ. เพราะทุกคนต่างถือใน พ.ร.บ. เราต้องการสถาปนาท้องถิ่นเป็นใหญ่ ให้บริการสาธารณะขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน เรื่องเหล่านี้ต้องสถาปนาไว้ในรัฐธรรมนูญ ให้อำนาจท้องถิ่นทำได้ทุกอย่าง เว้น ศาล ทหาร เงินตรา และต่างประเทศที่ควรอยู่ส่วนกลาง” รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่า ทุกท่านควรเลือกพรรคก้าวไกล พิสูจน์แล้วว่าแคมเปญบริจาคไม่กี่วันที่ผ่านมา 3 วันเราได้ยอดบริจาค 4 ล้านบาท เอาแค่ 100 บาทจากแต่ละคน วันใดก้าวไกลมีอำนาจในสภา เราจะโหวตกฎหมายต่างๆ ผ่านร่างรัฐธรรมนูญต่างๆ ที่ตอบโจทย์กับประชาชน โดยเฉพาะท้องถิ่นในต่างจังหวัด การเลือกตั้งครั้งนี้ ขอให้กา และบริจาคให้พรรคก้าวไกล เพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม

“ก้าวไกล” ลั่นถ้าเป็นรัฐบาลแก้ รธน.ปลดล็อกท้องถิ่น เลิกตาข่ายดักโกง

ในช่วงท้าย นายณัฐพงษ์ ตอบคำถามกรณีเห็นด้วยหรือไม่ว่า ควรเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นทำกิจการ หรือวิสาหกิจท้องถิ่น เพื่อหารายได้ ว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่ใช่ยกตัวอย่างแค่ญี่ปุ่น แต่หลายประเทศทั่วโลกทำเช่นกัน กระจายอำนาจดีๆ เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ให้อำนาจท้องถิ่นดำเนินการท้องถิ่นทำได้เอง นอกจากการจัดตั้งวิสาหกิจดำเนินในรูปแบบเอกชน ท้องถิ่นถือหุ้น หรือรัฐกับเอกชนส่วนหนึ่ง ทำได้หมดเลย แต่สิ่งสำคัญที่เราต้องทำก่อน คือ ทำให้การเมืองกลับมาเป็นของประชาชนจริงๆ ปัญหาที่ผ่านมาเป็นเรื่องกฎกระทรวง ที่ยังไม่อนุญาตให้ท้องถิ่นทำได้เต็มที่ อยากโยงกลับมาที่เรื่องเดิม อยากให้ตั้งต้นมาที่การเมือง กาให้พรรคที่มุ่งมั่นกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง

  • ยันให้อิสระ อปท.ลงทุนบริการสาธารณะ

เมื่อถามว่า จะมีแนวทางให้อิสระกับ อปท.ในการบริหารจัดการหรือลงทุนด้านบริการสาธารณะอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อิสระของท้องถิ่น อยากพูดถึง 4 ด้าน อำนาจ งาน เงิน และคน โดยอำนาจเองได้พูดไปก่อนหน้านี้แล้วว่า การวางหลักการในลักษณะ Negative Lift คือ หลักการในรัฐธรรมนูญ ท้องถิ่นทำได้ทุกอย่าง ห้ามแค่ ศาล ทหาร เงินตรา และการต่างประเทศ กลับหลักจากกฎหมายปัจจุบันที่ท้องถิ่นมีอำนาจตาม พ.ร.บ. 

“ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลใน 5 ปี จะเพิ่มงบให้ท้องถิ่นถึง 2 แสนล้านบาท ถ้าอำนาจ งาน เงิน ไปพร้อมกัน งบจะถึง 50:50 แน่นอน ส่วนคนยังมีความลักลั่นเหลื่อมล้ำอยู่ ระหว่างข้าราชการส่วนกลางกับท้องถิ่น นโยบายก้าวไกลแน่ชัดคือ ทำอย่างไรให้ข้าราชการท้องถิ่น มีศักดิ์ศรีเท่ากับส่วนกลาง ยังมีเส้นทางอาชีพราชการ เติบโตเป็นอธิบดี หรือปลัดกระทรวงได้ในอนาคต รวมถึงการให้งานกระจาย วิสาหกิจท้องถิ่นเอง เป็นรูปแบบที่หลายครั้งไม่จำเป็นต้องให้ภาครัฐดำเนินการเอง แต่ทำในรูปแบบเอกชนให้ท้องถิ่นถือหุ้นบางส่วน เพิ่มการบริหารให้ประชาชนมากขึ้น ทุกจังหวัดไทยก้าวหน้าแน่นอน” นายณัฐพงษ์ กล่าว

  • ลั่นการกระจายอำนาจไม่ใช่แยกรัฐอิสระ เชื่อจะช่วยให้พื้นที่อ่อนไหวคลี่คลาย

เมื่อพรรคของท่านจะมีแนวทางป้องกันปัญหา การกระจายอำนาจในพื้นที่พิเศษ ที่มีความอ่อนไหวด้านความมั่นคง เนื่องจากอาจนำไปสู่การเป็นรัฐอิสระ หรือมีอำนาจมากเกินไป ไม่ปฏิบัติตามส่วนกลางอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คิดว่าเรื่องนี้เป็นมายาคติ ที่ผ่านมาคอยกีดกั้น และขัดขวางการกระจายอำนาจมาโดยตลอด ไม่ว่าร่างรัฐธรรมนูญปลดล็อกท้องถิ่นที่พรรคก้าวไกลมีส่วนร่วมผลักดัน และนำเสนอ ไม่มีการแก้ไขมาตราอื่นใด เว้นแต่หมวดปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่องรูปแบบของรัฐ คือ รัฐไทยเป็นรัฐเดี่ยวยังคงเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นเรื่องนี้อยากยืนยันว่า การแยกเป็นรัฐอิสระได้ สิ่งที่ต้องมีคือ กำลังทหาร ไม่งั้นไม่มีทางแยกได้หากรัฐส่วนกลางไม่ยอม 

“ท้องถิ่นมีอำนาจทำทุกอย่าง เว้นศาล ทหาร เงินตรา และการต่างประเทศ ก็ย้อนกลับสู่หลักการนี้ อยากสื่อสารออกไปว่า ช่วยกันลบล้างมายาคติเหล่านี้ว่า การกระจายอำนาจคือ การแบ่งแยกดินแดน ไม่จริง 3 จังหวัดชายแดนใต้ก็ตาม ในทางกลับกันหากท้องถิ่นมีอำนาจ งาน เงิน คน ปัญหาผู้ก่อการร้าย หรือความอ่อนไหวในพื้นที่น่าจะคลี่คลาย เพราะคนในพื้นที่ตัดสินใจได้เอง ไม่ต้องอาศัยส่วนกลางที่อาจไปกดทับเขาไว้อยู่” นายณัฐพงษ์ กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์