"จุรินทร์" ย้ำจุดยืนปชป. “ไม่แก้รธน.หมวด1,2 -ป.อาญา112 ” ชูสันติสุข3จ.ว.ใต้

ที่จังหวัดปัตตานี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์  รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสของพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากมีการลงพื้นที่ และเปิดปราศรัยใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาว่า กระแสประชาธิปัตย์ดีขึ้น ซึ่งดูได้จากคนที่แห่มาฟังปราศรัย เราก็บอกได้จากประสบการณ์ เช่นเดียวกับที่ปัตตานี ที่เพิ่งไปปราศรัยมาเมื่อไม่นานมานี้ มีคนล้นหลามมากหลายหมื่นคน และวันนี้ก็เชื่อว่าที่ยะลาก็จะมีคนเยอะเช่นกัน เพราะมีเสียงตอบรับเข้ามาเป็นจำนวนมากว่าวันนี้จะไปฟังประชาธิปัตย์ปราศรัยที่ยะลา

เมื่อถามถึงการปราศรัยที่จ.นราธิวาส เมื่อวันที่18 มี.ค.ถึงแนวทางสำหรับจังหวัดชายแดนภาคใต้ในเรื่องการสร้างสันติภาพ สู่สันติสุข นั้น นายจุรินทร์ ได้กล่าวว่า จุดยืน 3 ข้อ ของประชาธิปัตย์นั้นมีความชัดเจน และได้ประกาศกับพี่น้องจังหวัดชายแดนภาคใต้ไป วานนี้ว่า

ประการที่ 1 ประชาธิปัตย์ยืนหยัดในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และถ้าจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับเกิดขึ้นในอนาคต ประชาธิปัตย์ก็สนับสนุนเพื่อทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น

แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องไม่แตะหมวด 1 กับ หมวด 2 เพราะหมวด 1 เป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่งกับประเทศของเรา รวมทั้งจังหวัดชายแดนใต้ด้วย ซึ่งหมวด 1 ได้กำหนดไว้ชัดในเรื่องรูปแบบของรัฐ รูปแบบของความเป็นประเทศไทยว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักร เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะแบ่งแยกมิได้

นั่นแปลว่าใครคิดจะแบ่งแยกประเทศไทยเป็น 2 ส่วน 3 ส่วนไม่ได้ และประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วย

ส่วนหมวด 2 นั้น ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเราเห็นว่าทุกอย่างชัดเจน ไม่มีความจำเป็นต้องไปแตะ หรือแก้ไขทั้งสิ้น รวมทั้งมาตรา 112 ซึ่งเป็นบทที่ว่าด้วยการคุ้มครองประมุขของประเทศ ซึ่งทุกประเทศก็มีการบัญญัติกฎหมายคุ้มครองประมุขประเทศด้วยกันทั้งนั้น ส่วนประเทศไทยก็ต้องมี ฉะนั้นถ้าใครจะแก้ มาตรา 112 หรือยกเรื่อง มาตรา 112 ประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วย ถือว่าจุดยืนประชาธิปัตย์ชัดเจนในเรื่องนี้ 

ประการที่ 2 ประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย ถ้าจะมีการนำศาสนามาเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่อสร้างความแตกแยก หรือแบ่งแยก พุทธ คริสต์ อิสลาม หรือศาสนาใดก็ตาม เพราะประชาธิปัตย์สนับสนุนการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดก็ตาม หรือต้องการเห็นจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันด้วยความสงบสุข 

ประการที่ 3 ประชาธิปัตย์ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงกับผู้บริสุทธิ์ เราไม่อยากเห็นการฆ่าตัดตอน การอุ้มฆ่า อย่างกรณีกรือเซะ ตากใบ กลับมาอีก

ดังนั้นเราจึงสนับสนุนให้มีการเดินหน้าสร้างสันติภาพ เพื่อนำจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสู่สันติสุข ด้วยทิศทางที่ชัดเจนของประชาธิปัตย์ ในเรื่องการสร้างสันติภาพนั้น จะต้องมีการพูดคุยกันทุกกลุ่มที่มีในปัจจุบันไปตามข้อเท็จจริง ที่ปฏิเสธไม่ได้ และประชาธิปัตย์พร้อมคุย หากเราได้เป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ก็มีการพูดคุยกันไปบ้างแล้ว เพราะฉะนั้นขอให้มั่นใจว่า ประชาธิปัตย์มีวิธี และการพูดคุยนี้จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพได้ต่อไปในอนาคต หลังจากนั้นประชาธิปัตย์จะได้นำประเทศไปสู่สันติสุขด้วยการพัฒนาตามนโยบาย “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” เพื่อสร้างความผาสุกให้กับพี่น้องจังหวัดภาคใต้ต่อไป 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการทำงานและการลงพื้นที่ของประชาธิปัตย์ซึ่งทำให้มีกระแสโพลดีขึ้น จะทำให้พรรคได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. ตามเป้าหมายอย่างไรนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เรื่องโพลนั้น เราก็ใช้เป็นข้อมูลเพื่อประกอบการเดินหน้าของประชาธิปัตย์ แต่เราก็ไม่ได้หวั่นไหวถ้าโพลออกมาน้อย หรือถ้าโพลออกมาดี เราก็ไม่ได้ถึงขนาดกระโดดโลดเต้น เพราะเรามีความมั่นคง และมั่นใจในทิศทางที่เราเดิน รวมทั้งจากโลกความเป็นจริงที่ได้ไปสัมผัส แม้ว่ากระแสโพลจะออกมาดีขึ้นเป็นลำดับ ตามที่เห็นอยู่ทั้งตัวหัวหน้าพรรค ทั้งตัวพรรค แต่เราก็เดินหน้าไปตามแนวทางที่เรากำหนดไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเรามั่นใจว่าประสบการณ์ อุดมการณ์ และทิศทางที่เราเดิน จากเสียงตอบรับในโลกความเป็นจริง ที่เราได้สัมผัสจากประชาชนนั้นมีความชัดเจนว่าดีขึ้น และถัดจากนี้แผนการเดินหน้าต่อไปก็ได้กำหนดไว้หมดแล้ว ทั้งตัวบุคคล ก็ส่งครบทั้ง 400 เขต บัญชีรายชื่อ 100 คน ส่วนนโยบายก็ชัดหมดแล้ว

รวมทั้งยุทธศาสตร์ต่างๆ ไปจนถึงแผนการพบปะประชาชน เมื่อวานนราธิวาส วันนี้ยะลา ถัดจากนี้ก็จะได้ไปหนองบัวลำภู อำนาจเจริญ อุบลราชธานี สุโขทัย พิษณุโลก แล้ววนกลับมาภาคใต้อีกครั้ง รวมทั้งกรุงเทพมหานครด้วย ทุกอย่างมีแผนงานชัดเจนหมดแล้ว 

 

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ปัจจุบันมีหลายพรรคการเมืองเสนอนโยบายเพิ่มค่าแรง รวมไปถึงเศรษฐกิจดิจิทัล แต่ประชาชนมองว่าเป็นนโยบายขายฝัน สำหรับในส่วนนโยบายของประชาธิปัตย์นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า นโยบายประชาธิปัตย์เป็นนโยบายที่คิดค้นขึ้นมาจากประสบการณ์การทำงานของเราที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในอดีต

ขณะเดียวกันเมื่อถึงยุคนี้เราได้นำมาต่อยอดหลายนโยบาย ที่มีการพิสูจน์แล้วว่าทำได้จริง ไม่ว่าจะเป็นนโยบาย นมโรงเรียนฟรี 365 วัน เรียนฟรีถึงปริญญาตรีในสาขาที่ตลาดต้องการ เพราะตนเคยเป็น รมว.ศึกษา คนแรกที่เดินหน้านโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ หรือจะเป็นนโยบายสันติภาพสู่สันติสุขชายแดนใต้ ท่านชวน หลีกภัย ก็ได้ทำมา จนความสงบเรียบร้อยในภาคใต้เกิดขึ้น เหลือการก่อการร้าย 8 ครั้งต่อปี จาก 200-300 ครั้ง ซึ่งได้พิสูจน์แล้ว ทำให้เราจะเดินหน้าสันติภาพ สู่สันติสุขอีก

รวมทั้งนโยบายอื่นๆ เช่น ตรวจสุขภาพฟรี รักษาฟรี ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ก็เป็นการต่อยอดมาจากสมัยที่ท่านชวน และตนในช่วงที่เป็น รมว.สาธารณสุข โดยเฉพาะสมัยที่ตน เป็น รมว.สาธารณสุข ก็ได้เดินหน้านโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาฟรี 48 ล้านคน มาถึงวันนี้ จึงเพิ่มเรื่องตรวจสุขภาพฟรีด้วย 

“ไม่ต้องใช้บัตรทอง ไม่ต้องเสียงบประมาณทำบัตร 2 ใบ สร้างความยุ่งยากให้ชาวบ้าน และยังต้องจ่ายคนละ 30 บาท รัฐได้มา 3-4 พันล้านต่อปี แต่ไม่คุ้มกับการบริหารจัดการที่เสียเวลาไป ดังนั้นมันควรจะรักษาฟรีหมดแล้ว 30 บาท ควรเลิกได้แล้ว ใช้บัตรประชาชนใบเดียว แล้วต้องตรวจฟรีด้วย เพราะเราต้องการตรวจสุขภาพเพื่อป้องกันโรค จะได้ไม่หมดงบประมาณไปกับการรักษา พอป่วยแล้วรักษาแพง จะได้ป้องกันตั้งแต่ตน คนไทยจะได้สุขภาพดี” นายจุรินทร์กล่าว 

นายจุรินทร์ ยังเปิดเผยเพิ่มเติมถึงนโยบายประกันรายได้เกษตรกรว่า ประชาธิปัตย์ยังจะต่อยอดนโยบายนี้ โดยจะมีนโยบายประกันรายได้คนไทย ประกันรายได้ประเทศด้วย ซึ่งจะได้ประกาศต่อไป ที่สำคัญกว่านั้นนโยบายของประชาธิปัตย์อยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบ ไม่ใช่สักแต่ขอคะแนนเสียงจากประชาชน แล้วเที่ยวหน้าก็ปิดบริษัท ปิดวิก ตามหาตัวไม่เจอ แต่ประชาธิปัตย์ยังอยู่ ดังนั้นนโยบายทุกอย่างต้องทำได้จริง และอยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อประชาชน และประเทศ

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการยุบสภาในวันที่ 20 มี.ค. และจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเป็นวันที่ 14 พ.ค. นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองว่า ตนไม่ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ เพราะยุบเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แล้วจะเลยวันที่ 23 มี.ค. ไม่ได้อยู่แล้ว เพราะสภาหมดวาระ ดังนั้นจะยุบเมื่อไหร่ก็ไม่มีปัญหา ส่วนวันเลือกตั้งก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

ซึ่งตนคะเนว่า วันเลือกตั้งคงจะอยู่ในช่วงต้นเดือน ถึงกลางเดือน พ.ค. ส่วนจะเป็นวันไหนก็ต้องรอ กกต. ประกาศต่อไป สำหรับประชาธิปัตย์นั้นพร้อม เพราะเป็นหนึ่งในไม่กี่พรรคที่ขณะนี้สามารถส่งผู้สมัครได้ครบ 77 จังหวัด พร้อมทั้งคน ทั้งนโยบาย และยุทธศาสตร์เพื่อเดินหน้าต่อไป