"ชูวิทย์" เตรียมร้อง ป.ป.ช. ดำเนินคดี "ศักดิ์สยาม" ปม ซุกหุ้น 13 มี.ค.นี้

"ชูวิทย์" เตรียมร้อง ป.ป.ช. ดำเนินคดี "ศักดิ์สยาม" ปม ซุกหุ้น 13 มี.ค.นี้

"ชูวิทย์" เตรียมร้อง ป.ป.ช.-กกต. ดำเนินคดี "ศักดิ์สยาม" ปม ซุกหุ้น ยุบพรรคภูมิใจไทย เชื่อ 80%มีมูล พร้อมเตรียมเดินหน้าแฉ "เลขา รมว.คมนาคม" เซ็นเอกสารออกคำสั่งแทน

  นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมเวทีเสวนา ในหัวข้อ ปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูป หรือ ปฏิลวง ที่จัดขึ้นโดยคณะอาชญาวิทยาและบริหารงานยุติธรรม ม.รังสิต โดยพูดถึงการเดินหน้าท้าชน และตรวจสอบ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ว่า ในวันจันทร์ ที่ 13 มีนาคมนี้ จะไปสำนักงานคณะกรรมการป้องกันแลปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อให้ประธาน ป.ป.ช. ดำเนินคดีกับนายศักดิ์สยาม กรณีที่มีการซุกหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นบริษัทในการดูแลของตระกูลชิดชอบ แล้วกลับชนะประมูลงานของกระทรวงคมนาคมที่นายศักดิ์สยาม เป็นเจ้ากระทรวง และนำกำไรที่ได้จากการประมูล จำนวน 5 ล้านบาท ไปบริจาคให้กับพรรคการเมือง ก็คือ พรรคภูมิใจไทย ซึ่งนายชูวิทย์ ยืนยันว่า ตนเองมีหลักฐานชัดเจนครบถ้วนถึงกล้าที่จะไปยื่นให้ตรวจสอบ โดยเฉพาะ 2 บริษัท คือ หจก.บุรีเจริญ และ บริษัท บุรีรัมย์พนาสิทธิ์ 

  นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบกรรมการ ป.ป.ช. คนหนึ่ง ก็คือ นายสุชาติ ที่มีข้อมูลว่ามีนักการเมืองหลายคน วิ่งเต้นเข้ามาหากรรมการ ป.ป.ช.คนนี้ให้ช่วยเหลือทางคดี ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยากให้ ประธาน ป.ป.ช.ตรวจสอบ พร้อมตั้งคำถามว่า จะสามารถตรวจสอบคนของตัวเองได้หรือไม่ เพราะหลักฐานการร้องเรียนถึงกรรมการ ป.ป.ช. คนนี่ก็อยู่บนโต๊ะ ประธานป.ป.ช.แล้ว 5 เรื่องขึ้นอยู่ว่าจะดำเนินการหรือไม่ 

นายชูวิทย์ ยังระบุอีกว่า ตนเองจะไปร้อง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ให้พิจารณา ยุบพรรคภูมิใจไทย เนื่องจาก หัวหน้าพรรคนั้น คิดแต่เรื่องทุนกำไร และยังชูนโยบายกัญชา ที่ส่งผลเสียต่อเยาวชน เกิดความสับสน ว่าสามารถสูบเพื่อสันทนาการได้ ซึ่งตนจะนำหลักฐานให้ กกต. พิจารณา และเชื่อว่า กกต.จะยุบพรรคภูมิใจไทย ถึง 80 % อีกทั้งตนเองจะเดินหน้าทำลายคะแนนเสียงของพรรคภูมิใจไทย 

    ส่วนกรณีนางสุขสมรวย วันทนียกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ออกมาโต้นายชูวิทย์ เรื่องการเซ็นเอกสารแทนรัฐมนตรี นั้นนายชูวิทย์ บอกว่า เป็นการทำตามกระบวนการธุรการปกติ และได้แจ้งรัฐมนตรีทราบแล้ว นายชูวิทย์ บอกว่า ปกติการจะเซ็นแทน ต้องมีการปั๊มเป็นลายลักษณ์อักษร ว่ามอบหมายใครแทน และคนที่เซ็นแทนได้ ก็ต้องเป็นตำแหน่งใกล้กัน แต่เลขาฯกลับเซนสั่งการไปเอง ซึ่งหลังจากนี้ตนเองจะกลับมาชี้แจงอีกครั้งถึงพฤติการณ์ของนางสุขสมรวยอีกครั้ง