"กรณ์" ชี้ฝุ่น P.M 2.5 ลามวงกว้าง จี้รัฐบาลยกระดับ "วาระแห่งชาติ"

"กรณ์" ชี้ฝุ่น P.M 2.5 ลามวงกว้าง จี้รัฐบาลยกระดับ "วาระแห่งชาติ"

"กรณ์" ชี้ฝุ่น P.M 2.5 ลามวงกว้าง จี้รัฐบาลยกระดับ "วาระแห่งชาติ" พร้อมชูนโยบายพรรคชาติพัฒนากล้า ดัน"พันธบัตรป่าไม้"

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ช่วงนี้หลายพื้นที่ของประเทศไทย ฝุ่น P.M 2.5 มาสร้างปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร ปริมาณฝุ่นสูงเกินมาตรฐานส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

ส่วนหนึ่งเพราะสภาวะอากาศเย็น หรืออาจจะเป็นฤดูการเพาะปลูก มีการเผาไร่เกษตร ทำให้ปริมาณฝุ่นสูงมากกว่าปกติ และไม่สามารถจะหนีฝุ่นไปไหนได้ ในฐานะนักการเมืองตระหนักว่าเรื่องนี้ไม่มาช่วยกันคิดช่วยกันทำไม่ได้ ตนร่วมรณรงค์เรื่องนี้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

เพราะอย่างน้อยก็เป็นคนหนึ่งที่มีสตางค์ซื้อเครื่องฟอกอากาศให้ตัวเองและครอบครัวได้ แต่อากาศบริสุทธิ์ควรเป็นสิทธิของทุกคน ไม่ควรเป็นอีกเรื่องที่เป็นสิทธิเพียงของใครที่มีเงิน

นายกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลนี้ประกาศเรื่องฝุ่นเป็น ‘วาระแห่งชาติ’ มาหลายปี แต่ก็ยังไม่เห็นมาตรการที่ส่งผล ตนได้ร่วมรณรงค์และลงชื่อ ‘กฎหมายอากาศสะอาด’ ของประชาชนมาตั้งแต่ 3 ปีก่อน แต่กฎหมายนี้ก็ยังไม่ผ่านการพิจารณาในสภา จนสภาจะหมดวาระแล้วก็เลยยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจน สังเกตได้ว่าปัญหาเรื่องฝุ่นจะมีเป็นฤดูกาล

ดังนั้นพอสรุปได้ว่าต้นตอปัญหาน่าจะมาจากพฤติกรรมที่เกิดขึ้นตามฤดูกาลเช่นเดียวกัน นั่นหมายความว่าสภาพอากาศจะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ภาคอุตสาหกรรม การขนส่ง และพลังงานเป็นแหล่งที่มาของฝุ่น แต่มากกว่านั้นคือการเผาที่การเกษตรในช่วงฤดูการนี้ เราทราบกันดีว่าพฤติกรรมการเผามีเหตุผลและเงื่อนไขจากทางเศรษฐกิจ เราจึงต้องแก้ด้วยตรรกะทางเศรษฐกิจ คือสร้างแรงจูงใจไม่ให้เกิดการเผา

“พรรคชาติพัฒนากล้าเราเสนอเรื่อง ‘พันธบัตรป่าไม้’ ที่ได้แนวคิดจาก อ.ศศิน เฉลิมลาภ และ อ.อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา คือการออกพันธบัตร 65,000 ล้านบาทเพื่อเป็นต้นทุนการปลูกป่าไม้เศรษฐกิจ 26 ล้านไร่ เพื่อให้พื้นที่ป่ากลับไปเป็น 40% ของพื้นที่ประเทศ ที่ผ่านมาเราใช้งบฟื้นฟูป่าปีละหลายร้อยล้านบาท

แต่ไม่สามารถช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าได้ และเม็ดเงินไม่เพียงพอ หากใช้ปีละ 500 ล้านบาทอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ยังต้องใช้เวลาถึง 120 - 130 ปีในการเพิ่มพื้นที่ป่า 26 ล้านไร่ แต่ด้วยนโยบาย ‘พันธบัตรป่าไม้’ หัวใจคือการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้ชาวไร่ เราจะเพิ่มพื้นที่ป่า เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร และลดการเผาพื้นที่เกษตรได้พร้อมกัน” หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าว

นายกรณ์ กล่าวว่า สิ่งที่พรรคชาติพัฒนากล้ามั่นใจว่านโยบายพันธบัตรป่าไม้ มีความเป็นไปได้เนื่องจาก รัฐบาลนี้ได้ปลดแอกสิทธิการปลูกและตัดไม้เนื้อแข็ง 58 ชนิด เป้าหมายหลักพื้นที่ฟื้นฟูกลับเป็นป่าคือแปลงข้าวโพดและพืชเศรษฐกิจอื่นๆที่เคยเป็นป่าแต่เดิม

โดยที่โครงการป่าเศรษฐกิจจะเป็นแหล่งรายได้ที่ดีกว่าและยั่งยืนกว่าให้กับเกษตรกร ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาที่สลับซับซ้อนหลายมิติ รวมถึงมิติต่างประเทศด้วย ตนเชื่อว่าแนวคิดของเราจะช่วยได้อย่างมีนัยสำคัญ ถึงเวลาแล้วที่เราควรเอาจริงเอาจังกับการเพิ่มพื้นที่ป่า

นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพ และความยั่งยืนทางเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งผลในเรื่องของการบริหารจัดการแหล่งน้ำ การลดภาวะโลกร้อน การไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศไทยตามเป้าหมายที่รัฐบาลประกาศไว้ต่อหลายประเทศทั่วโลก