"ช่อ-พรรณิการ์" ชี้ "อนาคตใหม่-ก้าวไกล" ผนึกกำลังลั่นกรองรบ ยิ่งทุบ-ยิ่งโต

"ช่อ-พรรณิการ์" ชี้ "อนาคตใหม่-ก้าวไกล" ผนึกกำลังลั่นกรองรบ  ยิ่งทุบ-ยิ่งโต

"ช่อ-พรรณิการ์" คืนเวทีเลือกตั้งใหญ่ ชี้ยุบพรรคอนาคตใหม่ ยิ่งทุบ-ยิ่งโต ก้าวไกล สานต่ออุดมการณ์ ให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ลั่น ตัดสิทธิทางการเมืองได้ แต่ไม่มีวันตัดสิทธิทางการเมืองของใครออกจากใจประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 3 มีนาคม 2566 ที่สวนสาธารณะรัชดานุสรณ์ จังหวัดขอนแก่น พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ปราศรัยบนเวทีหาเสียงพรรคก้าวไกล โดยเริ่มต้นว่า พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วยเสียงของคนเพียงไม่กี่คน ทำลายเสียงประชาชนกว่า 6,000,000 คน แม้ยอมรับว่าตนรู้สึกแค้น แต่การยุบพรรควันนั้นทำให้เกิดพรรคก้าวไกลที่เดินหน้าทำงานในสภาฯ เกิดคณะก้าวหน้าที่ทำงานท้องถิ่นอย่างขยันขันแข็ง

พรรณิการ์ กล่าวว่า ส.ส.ก้าวไกลวันนี้ ดีกว่า ส.ส.อนาคตใหม่ เพราะ ส.ส.อนาคตใหม่ มีเวลาทำงานในสภาเพียง 1 ปี แต่ ส.ส.ก้าวไกลที่เหลืออยู่ในสภาฯ ทุกคน ทำงานหนักอย่างต่อเนื่องตลอด 4 ปี แม้ผู้คนจะบ่นว่ายุบพรรคอนาคตใหม่ทำให้เสียปิยบุตร แสงกนกกุล ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พรรณิการ์ วานิชไป แต่กลับทำให้ได้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รังสิมันต์ โรม อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ศิริกัญญา ตันสกุล พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ มาแทนที่ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าอนาคตใหม่ไม่ได้มีแค่ธนาธร ปิยบุตร พรรณิการ์ แต่อนาคตใหม่ ซึ่งตอนนี้คือก้าวไกล ทุกคนที่เป็น ส.ส. ได้ทำหน้าที่สมศักดิ์ศรีกับคำว่า ‘ผู้แทนราษฎร’ เป็นผู้แทนของคนตัวเล็กตัวน้อย และคนทุกกลุ่มในประเทศไทย
 

อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวต่อว่า ถ้าไม่มี ส.ส.ก้าวไกล ประชาชนอาจต้องเสียงบประมาณมหาศาลเพื่อจะได้เรือดำน้ำ แต่ตอนนี้ มี ส.ส.พิจารณ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล คอยอภิปรายติดตามความคืบหน้า ถ้าไม่มี ส.ส.ก้าวไกล คนไทยอาจจะไม่รู้ความสัมพันธ์ของผู้มีอำนาจกับทุนจีนสีเทา การที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หอบหลักฐานให้รังสิมันต์ตรวจสอบ ก็เพราะทราบดีว่าพรรคก้าวไกลไม่มีนอกไม่มีในกับใคร หรือหากประเทศไทยไม่มีคณะก้าวหน้า ประเทศไทยวันนี้อาจยังไม่มีน้ำประปาดื่มได้ ซึ่งเทศบาลตำบลอาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ใช้เวลาเพียง 99 วัน ลองคิดดูว่านี่ขนาดพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ยังสามารถทำได้ขนาดนี้ หากได้เป็นรัฐบาล ภาคอีสานคงปูด้วยทองคำ

ที่ผ่านมา บางฝ่ายตั้งคำถามว่าพรรคก้าวไกลหรือพิธาจะไหวหรือไม่ แต่ก็น่าคิดว่าถ้าพิธาไม่ไหวจริงๆ ทำไมจึงมีเฟคนิวส์ใส่ร้ายพิธาทุกวัน เช่น เรื่องตัดงบบำนาญข้าราชการ ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันหลายครั้งแล้วว่าไม่มีนโยบายนี้ มีแต่เพิ่มบำนาญประชาชนจาก 600 เป็น 3,000 บาทต่อเดือนแบบถ้วนหน้า

“วันนี้อนาคตใหม่และก้าวไกลรวมตัวกันไม่ใช่เพราะกระแสตก แต่ถึงเวลาแล้วที่จะลั่นกลองรบ พวกเรากลับมาแล้ว ที่นี่ที่แรกที่ขอนแก่น เพื่อพิสูจน์ว่าต่อให้ตัดสิทธิทางการเมืองของเราได้ แต่ไม่มีวันตัดสิทธิทางการเมืองของใครออกจากใจของประชาชน โดยเฉพาะในใจพี่น้องชาวอีสาน” อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าว

พรรณิการ์ทิ้งท้ายว่า เลือกตั้งครั้งนี้หลายคนถามว่าก้าวไกลจะได้ ส.ส. เท่าอนาคตใหม่หรือไม่ เรื่องนี้พรรคไม่จำเป็นต้องเป็นคนตอบ เพราะคำตอบอยู่ในมือของพี่น้องประชาชน จึงต้องถามพี่น้องขอนแก่น พี่น้องคนอีสาน ให้ก้าวไกลมากกว่าอนาคตใหม่ ให้พิธามากกว่าให้ธนาธรได้หรือไม่ เพื่อให้ประเทศไทยการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต ส่งพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี