"กลาโหม" งัด กฎเหล็ก คู่มือเลือกตั้งทหาร ตีกรอบพรรคหาเสียงค่าย

"กลาโหม" งัด กฎเหล็ก คู่มือเลือกตั้งทหาร ตีกรอบพรรคหาเสียงค่าย

"กลาโหม" งัด กฎเหล็ก คู่มือเลือกตั้งทหาร ตีกรอบพรรคหาเสียงค่าย "ผบ.เหล่าทัพ" เตรียมถกวางแนวทางมาตรฐานเดียวกัน

พล..คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเตรียมพร้อมของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพในการสนับสนุนการเลือกตั้งและการวางตัวของกองทัพ ว่า กองทัพยึดข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ปี 2549 และมติคณะรัฐมนตรีปี 2562 ที่เกี่ยวกับการสนับสนุนสถานที่หาเสียงและเลือกตั้ง การจัดสถานที่ติดตั้งป้ายหาเสียง ไม่ให้กำลังพลไม่วิจารณ์การกระทำฝ่ายการเมืองและไม่แสดงออกโดยตรงหรือปริยายถึงผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะมีการประชุมภายในเหล่าทัพเพื่อให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน รวมถึงการพิจารณาว่าอำนาจในการจัดสินใจให้พรรคการเมืองเข้ามาหาเสียงจะเป็นผู้บังคับหน่วยระดับใด ซึ่งต้องหารือกับ กกต. ด้วย สิ่งที่เราจะหารืออีกคือกรอบการหาเสียงจะทำได้แค่ไหน เพื่อไม่เกิดความเหลื่อมล้ำและให้มีความเท่าเทียมกับทุกพรรคการเมือง

พร้อมย้ำว่ากองทัพดำรงความเป็นกลางการเมือง ยึดหลักสามัคคี ไม่ขัดแย้ง เป็นกองทัพทหารอาชีพ พร้อมทำงานบริหารราชการแผ่นดินภายใต้ทุกพรรคการเมืองที่เข้ามาเป็นรัฐบาล

เมื่อถามว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้บังคับบัญชา สังกัดพรรคการเมืองแล้วนั้น พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า ต้องแยกแยะ แต่เป็นเรื่องปกติ การเมืองเป็นแบบนี้ทุกยุคทุกสมัย ผู้นำรัฐบาล-รัฐมนตรี ต่างมีสังกัดพรรคการเมือง ซึ่งส่วนราชการต้องปฏิบัติตามมติ ครม. เกี่ยกกับแนวทางสนับสนุนการเลือกตั้ง ซึ่งในส่วนของกระทรวงกลาโหมมีข้อบังคับอยู่ด้วย

เมื่อถามย้ำว่า แต่ในกรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น เป็นทหารเก่า เป็นอดีต ผบ.ทบ. เคยทำรัฐประหาร จึงทำให้กองทัพมองว่าจะเอนเอียงหรือไม่ พล.อ.คงชีพ ชี้แจงว่า โดยสถานะเราทำไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ไปล้ำเส้นการเมือง เรื่องความกังวล ทุกคนมีได้ แต่ต้องดูการปฏิบัติที่ต้องอยู่ในกรอบที่เราทำได้ รวมทั้งเรื่องการสนับสนุน กกต. เมื่อ กกต. ร้องขอมา เช่น กกต. ขอให้กองทัพสนับสนุนอะไร ก็พร้อมสนับสนุน รวมทั้งการส่งเสริมประชาธิปไตยให้กำลังพลและครอบครัวกำลังพลไปใช้สิทธิ โดยเป็นอิสระทางการเมือง เลือกคนที่รัก พรรคที่ชอบได้

เมื่อถามว่าจะมีเอกสารรายละเอียดให้เหล่าทัพใช้เป็นคู่มือในการปฏิบัติหรือไม่ พล.อ.คงชีพ กล่าวว่า เรามีหลักปฏิบัติตามมติ ครม. ปี 2562 และข้อบังคับกระทรวงกลาโหมอยู่แล้ว ส่วนอำนาจที่จะให้พรรคการเมืองเข้าไปหาเสียงในหน่วยทหาร จะอยู่ในระดับใด ระหว่าง ผู้บังคับหน่วย , แม่ทัพภาค หรือ ผบ.เหล่าทัพ จะต้องมีการหารือว่าใครจะเป็นผู้ใช้ดุลพินิจพิจารณา ซึ่งจะการประชุมอีกครั้ง อาจเป็น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หรือ ปลัดกระทรวงกลาโหม นำประชุมอีกครั้ง