เดิมพันสุดท้าย'นิพนธ์' กวาดส.ส.เข้าสภา ชู'จุรินทร์'เป็นนายกฯ

เดิมพันสุดท้าย'นิพนธ์' กวาดส.ส.เข้าสภา ชู'จุรินทร์'เป็นนายกฯ

“นิพนธ์ บุญญามณี “รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้งพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดใจเดิมพันครั้งสุดท้าย ผ่านรายการ “คุยกับผมหน่อย โดยโพสต์ทูเดย์” ดำเนินรายการโดย ธรรศพงศ์ หิรัณย์ธนาคุณ ผู้ช่วยบก.บห.โพสต์ทูเดย์ ชู”จุรินทร์”เหมาะสมนั่งนายกฯ

นายนิพนธ์ คีย์แมนคนสำคัญของปชป. ในฐานะผอ.เตรียมการเลือกตั้ง เผยว่า ไม่หนักใจและก็มีความมั่นใจว่า ประชาธิปัตย์จะกลับมาในการเลือกตั้ง66 แม้ไม่เท่าเดิมในอดีตแต่ว่าก็ใกล้เคียงในอดีต ที่พูดอย่างนี้เพราะว่าในอดีตปี 48 ส.ส.ประชาธิปัตย์ ส.ส.ภาคใต้มี 54 คน ประชาธิปัตย์เคยทำได้ถึง 52 คน รอบนี้การที่ประชาธิปัตย์พูดว่า 35-40 จากส.ส. มีที่นั่งทั้งหมด 58 ที่นั่ง ประชาธิปัตย์เสียหายไป18 ที่นั่งถือว่าเยอะ

นายนิพนธ์ เล่าในรายการว่า ได้วางยุทธศาสตร์ที่จะทำให้ได้รับชัยชนะในสนามเลือกตั้งภาคใต้ คือนโยบาย 3 สร้าง คือ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ สมัยก่อนเรียกว่า เศรษฐกิจ สังคม การเมือง แต่ว่าวันนี้ถ้าลงไปพูดเศรษฐกิจ สังคม การเมืองรู้สึกว่าล้าสมัย วันนี้ประชาธิปัตย์ชูนโยบายสันติภาพสู่สันติสุข ปี 2548 เราเคยใช้คำประกาศปัตตานี เพื่อแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วก็ปี 2552ใช้สันติสุข นำสันติสุขสู่ชายแดนใต้

รอบนี้หลังจากเหตุการณ์ผ่านพ้นมานับจากวันที่มีการปล้นปืนที่ค่ายปิเหล็งไปสี่ร้อยกว่ากระบอก จากวันนั้นมาถึงวันนี้ 19 ปี เราใช้งบประมาณในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนไม่รวมเบี้ยเลี้ยงไม่รวมเงินเดือนไปเกือบ ๆ ห้าแสนล้าน สี่แสนเก้าหมื่นกว่าล้านบาท เรามานั่งทบทวนกันว่าเราถมเงินไปเท่าไหร่ก็ไม่มีทางที่จะแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนได้ ถ้าเราไม่สร้างสันติภาพให้เกิดขึ้นก่อน ถ้าหากว่าเราพูดจากันเข้าอกเข้าใจแล้ว เราเชื่อว่าสิ่งที่ยุทธศาสตร์ที่ประชาธิปัตย์ประกาศนั่นก็คือ ทำให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่มั่นคงทางด้านอาหาร นี่คือยุทธศาสตร์สำคัญ นี่คือสิ่งที่ทุกคนอยากเห็นว่าปัญหาความขัดแย้งกัน ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้จะสงบได้เมื่อไหร่คิดว่าเรื่องพูดคุยกันเป็นสิ่งจำเป็น 

สำหรับพื้นที่สงขลา บ้านเกิดของนายนิพนธ์ ในความตั้งใจอยากจะได้ส.ส.ทั้ง9เขต แต่เพื่อนก็บอกว่าไม่แบ่งเพื่อนเลย ก็บอกว่ามั่นใจไม่ต่ำกว่า 7 ที่นั่งแต่ว่าถ้าได้อีก 2 ที่นั่งก็พยายามกวาดให้หมด เพราะประชาธิปัตย์เคยกวาดหมดมา เราครองพื้นที่นี้มายาวนานมากหลายยุคหลายสมัย ได้เรียนไปแล้วว่าเข้ามาสู่การเมืองตั้งแต่ปี 2535/1 มีครั้งแรกเท่านั้นที่ประชาธิปัตย์ได้ไม่ยกจังหวัด หลังจากนั้นมาประชาธิปัตย์ยกจังหวัดทั้งหมด และก็มาเมื่อครั้งที่แล้วที่เสียพื้นที่ไป เพราะฉะนั้นรอบนี้เราหวังว่าเราจะดูแลพื้นที่ทั้งหมดทั้ง 9 ที่นั่ง แต่ยังไงก็สู้กันเต็มที่อยู่แล้ว

นิพนธ์ ย้ำว่า พรรคปชป.ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ต่างจากพรรคอื่นที่มีเจ้าของ ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเท่ากันหมด ความเป็นอิสระอย่างนี้ในพรรคเรียกว่าอิสระชนในประชาธิปัตย์มีเยอะ เพราะฉะนั้นประชาธิปัตย์จึงให้ความสำคัญกับความเป็นบุคคลไม่มีใครมาบังคับ ไม่มีใครมาสั่งการ ในประชาธิปัตย์ ประชาธิปไตยในพรรคสูงมากเวลาจะคัดเลือกผู้แทนหรือว่าเวลาเราจะคัดเลือกคนมาดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องใช้โหวดใช้ลงคะแนนกัน มติสำคัญ เราเคยเห็นกันมาแล้วเวลาก่อนที่จะนำไม่สู่การลงมติได้ใช้เวลาเกือบๆวัน ถกเถียงกันก่อน ก่อนที่จะได้ข้อยุติ 

เพราะฉะนั้นประชาธิปัตย์เหมือนกับว่าต้องฟังกลุ่มนี้กลุ่มโน้นก่อน ที่จริงไม่ใช่กลุ่มแต่ว่าฟังทุกคนในพรรค เพราะทุกคนมีคุณค่ามีความสำคัญเหมือนกันหมด นี่คือจุดแข็ง จะบอกว่าจุดอ่อนก็ได้แต่ว่านัยยะกลับกันคือจุดแข็งของพรรคประชาธิปัตย์ถ้าไม่มีจุดแข็งอยู่ไม่ได้มา 77 ปี การจะบอกว่าประชาธิปัตย์มีหลายกลุ่มมันก็เป็นธรรมชาติของพรรคการเมือง ไม่มีใครสั่งให้คิดเหมือนกันให้หมด คิดต่างกันได้แต่เมื่อมีมติอย่างไรทุกคนปฏิบัติตามมติหมดในประชาธิปัตย์นี่คือ ความแข็งของประชาธิปัตย์

จุดยืนปชป.กับความเป็นคนรุ่นใหม่นายนิพนธ์ : เราไม่ได้เป็นพรรคของใครคนใดคนหนึ่งเราเปิดโอกาสทุกคนที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาอยู่ในประชาธิปัตย์ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเพราะฉะนั้นประชาธิปัตย์จึงเป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่อยู่ต่อเนื่องเราจะเห็นว่าท่านอภิสิทธิ์กลับมาจากเมืองนอกท่านอภิสิทธิ์ก็กลับเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคให้ประชาธิปัตย์ได้แล้วก็ยืนยันถึงวันนี้อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เคยเป็นนายกมาแล้ว 4 คน นายกรัฐมนตรี แล้วก็วันนี้อดีตนายกรัฐมนตรีอดีตหัวหน้าพรรคท่านชวน ท่านบัญญัติ ท่านอภิสิทธิ์ยังช่วยอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ เพราะฉะนั้น บุคลากรเหล่านี้ล้วนแต่เป็นบุคลากรที่มีคุณค่าของประชาธิปัตย์ เราจะทำอะไร เรามีอดีต เรามีปัจจุบัน และอนาคต พรรคการเมืองบางพรรคเนี่ยไม่ใช่พูดนะว่าประชาธิปัตย์พูดแต่เรื่องซ้ำซาก พรรคการเมืองบางพรรคเขาไม่มีเรื่องอะไรให้พูดเพราะไม่มีประวัติศาสตร์ไม่เคยทำไม่เคยผ่านการบริหารราชการแผ่นดิน 

ชู จุรินทร์ นักประชาธิปไตย

นายจุรินทร์มาเป็นหัวหน้าพรรคที่จริงลองไปย้อนดูประวัติเคยเป็น ส.ส.มา 11 สมัยเป็นรัฐมนตรีมาตั้งแต่อายุ 36 ปี ทุกครั้งที่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล นายจุรินทร์ได้เป็นรัฐมนตรีทุกครั้ง ถ้าไม่เก่งจริงประชาธิปัตย์จะไม่ให้เป็น แล้วก็ผมคิดมาวันนี้ถ้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าในกระบวนการหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีคนที่อยู่แล้วทนต่อแรงเสียดทานในการตรวจสอบไม่หวั่นไหวในการตรวจสอบตามระบอบประชาธิปไตยคือหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าสภาตั้งกระทู้แล้วต้องหนี ต้องไม่ตอบ หรือว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วจะต้องพยายามไป ไม่ให้มีการอภิปรายไม่มีได้ติดตามนายจุรินทร์มานานรู้ว่าคนนี้เป็นนักประชาธิปไตยแล้วสู้ทนแรงเสียดทานในระบอบประชาธิปไตยได้ดีที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย

ลบภาพลักษณ์ดีแต่พูด ทำได้ไวทำได้จริง

นายนิพนธ์ : อันนี้คือสิ่งที่ตั้งแต่หัวหน้าจุรินทร์เข้ามารับตำแหน่งรู้ปัญหานี้ดีบอกว่าเมื่อเรามีโอกาสรอบนี้ขอให้เราได้ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอะไรที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องพูด ท่านเป็นคนให้คำขวัญที่บอกว่าประชาธิปัตย์ยุคนี้ทำได้ไวทำได้จริง เพราะฉะนั้นตั้งหน้าตั้งตาทำงานเช่น นโยบายประกันรายได้ เป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล ประกันรายได้ให้เกตรกรในพืชเกษตร 5 ชนิดที่สุดก็ทำได้ตั้งแต่ปีแรกที่เข้าร่วมรัฐบาล ในรอบ4ปีที่ผ่านมา เราจึงไม่เห็นชวนามาล้อมทำเรียบรัฐบาลไม่มีเกษตรกรเอาพืชผลทางการผลิตใน 5 ชนิดมาทิ้งมาเทมาขว้างอยู่ที่ธรรมเนียบรัฐบาล ไม่มีเพราะมันมีเสถียรภาพทางราคา นโยบายที่บอกว่าทำได้ไวทำได้จริงแล้วตอนหลังมาพรรคอื่นก็เห็น ประชาธิปัตย์ทำได้ก็อาจจะมีคำขวัญอื่นขึ้นมาบ้างอะไรบ้างก็ไม่อยากไปพูดมาก เพราะฉะนั้นนี่คือสิ่งที่ประชาธิปัตย์ในยุคนายจุรินทร์พยายามที่จะลบครหาเรื่องที่บอกว่าประชาธิปัตย์ดีแต่พูดเป็นทำอย่างเดียว ซึ่งนายจุรินทร์อาจพูดการเมืองน้อยไปหน่อย
แต่หากเทียบกับรัฐมนตรีทั้งหมดแล้วนายจุรินทร์ติดเรื่องการทำงานมากที่สุด ล่าสุด ขนาดจะรู้อยู่แล้วว่าคนอื่นเขาตระเวนหาเสียงแล้วยังไปเจรจากับสหภาพยุโรปแล้วยังไปเจรจากับดูไบทำ FTA มุ่งจะทำสิ่งเหล่านี้ให้เห็นว่าทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติบ้านเมืองจนนาทีสุดท้าย 

'จุรินทร์'จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีคนหนึ่งของไทย 

เดิมพันสุดท้าย\'นิพนธ์\' กวาดส.ส.เข้าสภา ชู\'จุรินทร์\'เป็นนายกฯ

นายนินธ์ : ในสายตาผม คนในประชาธิปัตย์เขามีประเพณีว่า วันที่เขาตัดสินใจเลือกหัวหน้าพรรคคือคนนั้นต้องพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีจนมาถึงวันนี้ยังไม่เปลี่ยนยังเชื่อว่านายจุรินทร์สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศไทยแล้วก็เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีได้คนหนึ่งของประเทศไทย เพราะฉะนั้นพวกผมมีหน้าที่ที่จะทำอย่างไรก็แล้วแต่ร่วมกันที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมายนั้นให้ได้ในวันนี้