ผบ.ตร. ฟันไม่เลี้ยง ตร. ภาค2 เอี่ยวพนันออนไลน์ ขอดูหลักฐานกว่า 100 นายพัวพัน

ผบ.ตร. ฟันไม่เลี้ยง ตร. ภาค2 เอี่ยวพนันออนไลน์ ขอดูหลักฐานกว่า 100 นายพัวพัน

ผบ.ตร.เผยอยู่ระหว่างตรวจสอบ ตร.พื้นที่ภ.2 เจ้าของเว็บพนัน หากชัดเจนแจ้งข้อหา ส่วน"อัจฉริยะ" แฉ ตร.เกี่ยวพัน 100 กว่านาย ขอดูพยานหลักฐาน

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล...ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.)​ กล่าวถึงการปราบปรามพนันออนไลน์ว่า เรามีนโยบายชัดเจนจะกวาดบ้านตัวเอง หากพบเห็นว่ามีใครไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างจริงจัง ล่าสุดได้มีการรายงานจากชุดจับกุมว่ามีการซัดทอดถึงผู้กำกับการในโรงพักหนึ่งในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานน่าจะดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย และต้องพิจารณาตามพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นจริง ทั้งนี้เริ่มต้นจากการไปจับกุมเว็บพนันออนไลน์เว็บหนึ่งแล้วมีการซัดทอดว่ามีเจ้าของเป็นตำรวจ ซึ่งจะต้องขอดูรายละเอียดข้อมูลเรื่องเอกสารต่างๆ รวมถึงเส้นทางทางการเงินด้วย


" หากมีพยานหลักฐานชัดเจนก็จะแจ้งข้อหาต่อไป ส่วนจะมีการทำมานานแล้วแค่ไหน ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับเจ้าตัวเพียงแต่พบหลักฐาน ซึ่งผมได้รับทราบและมีปรากฏข่าวตามสื่อมวลชนบ้างแล้ว ทั้งนี้หากพบหลักฐานก็จะต้องมีความชัดเจนในลักษณะนั้นแต่ขอให้ฝ่ายดำเนินการได้ชี้แจงเองดีกว่า ยืนยันว่าทำอย่างตรงไปตรงมา หากหลักฐานถึงเราก็จะดำเนินการ ทั้งนี้จะออกหมายจับหรือเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาก็ได้ เพราะเคยทำทั้งสองแบบ หากเขาไม่มีการหลบหนีก็จะเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาเลย เมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้วทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 จะต้องพิจารณาว่ามีความเสียหายต่อทางราชการหรือไม่ เบื้องต้นจะต้องสั่งมาช่วยราชการที่ศปก.ก่อน เพื่อพิจารณาดำเนินการทางวินัยต่อไป"

เมื่อถามถึงกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ มีการออกมาแฉเพิ่มว่ามีตำรวจ ทั้งอดีตและปัจจุบัน ประมาณ 100 นาย เกี่ยวข้องกับเว็บฯ พนันออนไลน์ ในจำนวนนี้เป็นนายพลตำรวจ 10 นาย อยู่ในศูนย์ PCT, สตม., จเรตำรวจ และ บช.สอท. นั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า จะต้องดูว่าในความเป็นจริงจำนวนจะถึงขนาดนั้นจริงหรือไม่ ทุกอย่างเราพูดได้แต่ต้องดูหลักฐาน การทำงานทุกอย่างต้องเป็นไปตามหลักฐาน

เมื่อถามต่อว่ามีการระบุว่ามีรองผู้บัญชาการซึ่งอยู่หน้าห้องผบ.ตร.มีเอี่ยวด้วยนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่มีหน้าห้องเป็นรองผู้บัญชาการ ส่วนที่มีคนให้ข้อมูลนั้นตนยังไม่ทราบเรื่องนี้ ไม่ใช่หน้าห้อง อย่าไปพูดผิด ตำแหน่งของตำรวจจะมีประจำตร. อาจจะมีผู้การประจำตร. ผู้บัญชาการประจำตร. รองผู้บัญชาการประจำตร. ทั้งนี้จริงๆ แล้วหน้าห้องตนไม่มีรองผู้บัญชาการ เท่าที่จำได้ยังไม่มี

เมื่อถามต่อว่าจะต้องมีการตรวจสอบบุคคลใกล้ชิดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์หรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า จะต้องสแกนอยู่แล้วเพียงแต่ว่าเราก็ต้องดูหลักฐาน หากสแกนเสร็จแล้วมาพบหลักฐานทีหลังเราก็ดำเนินการ ทุกอย่างเป็นไปตามหลักฐาน บางทีคนกระทำผิดเขาไม่ได้มาบอกเราทุกเรื่อง

"ส่วนที่จะมีการนำป้ายรายชื่อผู้เกี่ยวข้องมาแปะหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นสิทธิ์ ทำอะไรก็ทำได้ แต่เจ้าตัวคนที่เสียหายก็มีสิทธิ์ฟ้องร้องเช่นกัน ถ้าเกิดเขาไม่ได้ทำ หรือเขาไม่ได้ผิด ทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเอง ส่วนที่มีการระบุว่า มีตำรวจไซเบอร์เป็นเจ้าของเว็บพนันนั้น จะต้องดูทุกอย่างไปตามพยานหลักฐาน กล่าวหานั้นกล่าวหาได้ แต่จะต้องดูพยานหลักฐานด้วย"

เมื่อถามว่าจากการตรวจสอบแล้วพบว่ามีความเลวร้ายตามที่มีการออกมาให้ข้อมูลหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่ายังเชื่อว่ายังไม่ถึง แต่ขอดูพยานหลักฐานก่อน เพราะไม่อยากไปรับประกันให้ใคร เวลาใครทำไม่ดีเขาไม่ได้มาบอก ถ้าเราพบเห็นว่าเขาผิดเราก็ดำเนินการ ยิ่งมีหลักฐานได้ยิ่งดี ก็จะดำเนินการตามข้อมูลที่เขาให้มา ทั้งนี้หากพบว่ามีความผิดจริงก็จะต้องดำเนินการหากถึง 100 กว่านายก็จะต้องดำเนินการ 

“ส่วนตัวผมยังไม่เชื่อว่าจะถึงขนาดนั้น ผมไม่ได้รับประกันให้ใคร ขอดูก่อน ส่วนจะมีใครเกี่ยวข้องกี่รายให้เป็นไปตามข้อมูลอันไหนที่เราสงสัยก็ตรวจสอบอยู่ ผมไม่อยากระบุว่ากี่นาย แต่ถามว่ามีหลายนายหรือไม่ ก็มีพอสมควรที่สงสัยและอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนอยู่ ที่ผ่านมาก็ส่งสัญญาณมานานแล้ว อย่างเช่นกรณีที่ให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ไปตรวจสอบอยู่ก็ใกล้จะได้ผลแล้วกรณีที่มีการร้องเรียนผู้การปส. อยู่ระหว่างรอผลการดำเนินการอยู่”