สแกน 5 จังหวัดอีสาน ฐานถูกเจาะ ทัพใหญ่“อุ๊งอิ๊ง-พท.”ล็อกเป้า 34 + 4

ในทางลึกแล้ว การกำหนดยุทธศาสตร์ลงพื้นที่ 5 จังหวัดรอบนี้ เพื่อปิดจุดอ่อนที่เพื่อไทยถูกพรรคใหม่ พรรคเล็ก เจาะฐานที่มั่นเข้ามาได้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เมื่อรอบนี้มีเป้าหมายแลนด์สไลด์ จึงหมายถึง ต้องกวาดเบ็ดเสร็จ 38 ที่นั่งมาให้ได้
ปิดทริปทัวร์อีสาน 5 จังหวัด ประกอบด้วย อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และขอนแก่น 3 วันรวด 17-19 ก.ย. แม่ทัพหญิง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นำทัพหลวง เดินสายต่อเนื่องเปิดปราศรัย 9 เวทีต่อเนื่อง
ความน่าสนใจของพื้นที่ฐานที่มั่นเพื่อไทยใน 5 จังหวัดนี้ เมื่อย้อนไปดูผลการเลือกตั้งปี 2562 พบว่ากวาดมาได้ 28 ที่นั่ง จาก 34 โดยมีหลายพรรคเบียดแทรกกระแสเพื่อไทย เข้ามาได้ถึง 6 ที่นั่ง และยังเสียเก้าอี้ไปในการเลือกตั้งซ่อมอีก 1
จำแนกทั้ง 5 จังหวัด ที่มีจำนวน ส.ส.รวมกัน 34 ที่นั่ง แบ่งเป็น อุบลราชธานีมี 10 ที่นั่ง เพื่อไทยได้มา 7 ประชาธิปัตย์ 2 และพลังประชารัฐ 1 อำนาจเจริญจังหวัดเล็ก 2 ที่นั่ง เพื่อไทยยังรักษาไว้ได้ทั้ง 2 ร้อยเอ็ด 7 ที่นั่ง เพื่อไทยได้มา 6 อีก 1 ที่นั่งเป็นของชาติไทยพัฒนา กาฬสินธุ์ 5 เขต เพื่อไทยรักษาไว้ได้ทั้งหมด ส่วนขอนแก่น 10 ที่นั่ง เป็นของเพื่อไทย 8 แต่มีการเลือกตั้งซ่อม จึงเสียที่นั่งให้พลังประชารัฐไป 1 ส่วนอีก 2 ที่นั่ง แบ่งกันระหว่างพรรคอนาคตใหม่ขณะนั้น กับพลังประชารัฐ
ขณะที่การเลือกตั้งปี 2566 นี้ เขตเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ 4 ใน 5 จังหวัดจะมีจำนวนส.ส.เพิ่่มขึ้นจังหวัดละ 1 ที่นั่ง คือ อุบลราชธานี จะมี 11 ที่นั่ง ร้อยเอ็ดจะมี 8 ที่นั่ง กาฬสินธุ์จะมี 6 ที่นั่ง และขอนแก่นจะมี 11 ที่นั่ง เมื่อรวมตัวเลขเที่ยวนี้ทั้ง 5 จังหวัดจะมี ส.ส.รวม 38 ที่นั่ง
ทั้ง 38 ที่นั่ง เพื่อไทยวางยุทธศาสตร์แลนด์สไลด์ หวังกวาดเบ็ดเสร็จ ภายใต้กติกาใหม่ และประเมินว่ากระแสพรรคที่เคยเบียดแทรกก็ไม่พีคเหมือนครั้้งปี 2562
บรรยากาศทุกเวทีที่ “อุ๊งอิ๊ง” ปรากฏตัว มีเสียงเชียร์จาก “แฟนคลับ-คนเสื้อแดง” ดังกระหึ่ม ชาวอีสานต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ในฐานะ “ลูกสาวหล่า” (ลูกสาวคนเล็ก) ของ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
และในทุกเวที “แกนนำพรรคเพื่อไทย” มีสคริปหลัก ในการพูดถึงนโยบายประชานิยมต้นตำรับ ที่ประสบความสำเร็จมาตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย ที่สามารถทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ในคนอีสานดีขึ้น และพยายามตอกย้ำแบรนด์ “ทักษิณ” ขณะเดียวกัน “อุ๊งอิ๊ง” ก็มีซีนดราม่ารำลึกถึงผลงาน “พ่อใหญ่ทักษิณ” ที่ฝากคิดฮอดคนอีสานทุกเวลา รวมทั้ง “อาปู ยิ่งลักษณ์” นายกฯ ที่ลงมาเยือนทุกพื้นที่
การย้อนภาพจำตั้งแต่ยุคทักษิณ จนถึงยิ่งลักษณ์ เพื่อไทยมีความหวังว่า จะเป็นส่วนสำคัญในการเรียกคะแนน ให้กับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคได้เป็นกอบเป็นกำ ยิ่งกระแส “อุ๊งอิ๊ง” ฟีเวอร์ในผลโพลของเกือบทุกสำนัก ก็ยืนยันกระแสของทายาทตระกูลชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นแรงส่งให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พุ่งขึ้นตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ในทางลึกแล้ว การกำหนดยุทธศาสตร์ลงพื้นที่ 5 จังหวัดรอบนี้ เพื่อปิดจุดอ่อนที่เพื่อไทยถูกพรรคใหม่ พรรคเล็ก เจาะฐานที่มั่นเข้ามาได้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นพื้นที่อ่อนไหว สุ่มเสี่ยง เมื่อรอบนี้มีเป้าหมายแลนด์สไลด์ จึงหมายถึง ต้องกวาดเบ็ดเสร็จ 38 ที่นั่งมาให้ได้ ดังนั้นทัพใหญ่ ทัพหลวง จึงต้องมาแต่เนิ่นๆ และต้องตามมาซ้ำอีกเป็นระยะ
เมื่อสแกนตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย ใน 5 จังหวัดดังกล่าว โดยรวมแล้วก็ถือว่ายังอยู่ในแดนบวก เพราะเป็นพื้นที่ฐานเสียงเดิมของพรรค ฉะนั้นการลงพื้นที่ จึงจำเป็นต้องตอกย้ำแบรนด์ “ทักษิณ” ปักหมุดกระแส “อุ๊งอิ๊ง” ฟีเวอร์ เพื่อเป็นการเปิดฉากด้วยกระแสแลนด์สไลด์
อุบลราชธานี การวางตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แทบจะเป็นชุดเดิม มีการปรับเปลี่ยนเชิงเทคนิคแค่บางส่วน โดยมี “เกรียง กัลป์ตินันท์” เป็นหัวเรือใหญ่ เขต 1 “วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์” ตรึงพื้นที่โซนเมือง เขต “ณรงค์ชัย วีระกุล” เตรียมสู้กับ “วุฒิพงษ์ นามบุตร” จากพรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของพื้นที่เดิม
สำหรับพื้นที่เดิมที่แทบการันตีเก้าอี้ ส.ส. ประกอบด้วย เขต 3 “กิตติ์ธัญญา วาจาดี” เขต 4 “เอกชัย ทรงอำนาจเจริญ” เขต 5 “รัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์” เขต 9 “ประภูศักดิ์ จินตะเวช” เขต 10 “สมคิด เชื้อคง”
ด้านเขต 6 “ธัญธารีย์ สันตพันธุ์” พื้นที่เดิมเป็นของ “ธนะสิทธิ์ โควสุรัตน์” ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ปัจจุบันย้ายไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ว่ากันว่า การเลือกตั้งปี 2562 มีรายการคุณขอมา จึงมีการหลบพื้นที่กันให้ แต่ครั้งนี้ไม่ว่าใครจะขอมา ไม่มีทางหลีกให้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีโควตาเพิ่มมา 1 เขต ทำให้ “สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ” ลูกสาวของ “เฮียกุ่ย” ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ลงชิงพื้นที่เขต 7 ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงของ “ชูวิทย์” แทน ขณะที่ “ชูวิทย์” ขยับไปลงเขต 11 แทน
สำหรับพื้นที่ที่ต้องแข่งหนักสุดอยู่ที่ เขต 8 “เอกพล ญาวงศ์” ต้องชนกับ “บุณย์ธิดา สมชัย” อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ปัจจุบันย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย
“แกนนำพรรคเพื่อไทย” วิเคราะห์ว่า “พรรคเพื่อไทยมีกระแสตอบรับที่ดี มีโอกาสกวาด ส.ส. อุบลราชธานี ยกจังหวัด แต่มี 3 พื้นที่สุ่มเสี่ยง ประกอบด้วย เขต 2 และเขต 8 ที่ต้องสู้กันหนักหน่อย ส่วนเขต 6 แม้เราเคยแพ้ แต่รอบนี้มีโอกาสชนะสูง”
อำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม เนื่องจากการเลือกตั้งปี 2562 “สมหญิง บัวบุตร” และ “ดะนัย มะหิพันธ์” เข้าวินมาทั้งคู่ แต่ทั้ง “สมหญิง-ดะนัย” เอาชนะคู่แข่งมาได้เพียง 2,000 คะแนนกว่าเท่านั้น ทำให้คู่แข่งพอมองเห็นโอกาสที่จะเบียดชนะอยู่บ้าง
โดยการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยส่ง “ดะนัย” ลงเขต 1 แทน “สมหญิง” ส่วนเขต 2 ส่ง “มฆวาน บัวบุตร” ลงชิงเก้าอี้ ส.ส.
ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยเกือบกวาดยกจังหวัด เหลือเพียง เขต 1 ที่ “อนุรักษ์ จุรีมาศ” พรรคชาติไทยพัฒนา เบียดเข้าวินมาได้ โดยแชมป์เก่าจากพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย เขต 2 ฉลาด ขามช่วง เขต 3 นิรมิต สุชารี เขต 4 นิรันดร์ นาเมืองรักษ์ เขต 5 จิราพร สินธุไพร เขต 6 กิตติ สมทรัพย์ เขต 7 ศักดา คงเพ็ชร
มาครั้งนี้พรรคเพื่อไทยส่ง “ส.ส.ร้อยเอ็ด” ที่เป็นแชมป์เก่า ลงป้องกันแชมป์ทุกเขต ส่วนเขต 8 ที่จะมี ส.ส.เพิ่มขึ้น จะส่ง “ชญาภา สินธุไพร” น้องสาวของ “จิราพร” ลงสมัคร
อย่างไรก็ตาม เขต 1 ได้เปลี่ยนตัวผู้สมัคร ส.ส. มาเป็น “สถาพร ว่องสัธนพงษ์” หลังทำโพลชนะ “วราวงษ์ พันธุ์ศิลา” ที่เคยแพ้การเลือกตั้งปี 2562 ให้กับ “อนุรักษ์ จุรีมาศ” 20,000 กว่าคะแนน
“สถาพร” เป็นอดีตผู้สมัครนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ได้ลาออกจากคณะก้าวหน้า เคยเป็นประธานสภา อบจ.ร้อยเอ็ด เติบโตมาจากตระกูลการเมือง “ว่องสัธนพงศ์” มีฐานเสียงอยู่ในเขต อ.เมืองร้อยเอ็ด แต่การแข่งกับ “อนุรักษ์” ไม่ใช่เรื่องง่าย “อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย” จึงเปิดเวทีหาเสียงในเขตเมือง และมีโอกาสลงพื้นที่ซ้ำอีกครั้ง เพื่อกวาด ส.ส. ร้อยเอ็ด ทุกที่นั่ง
กาฬสินธุ์ เมื่อปี 2562 พรรคเพื่อไทยกวาดเรียบยกจังหวัด ประกอบด้วย เขต 1 บุญรื่น ศรีธเรศ เขต 2 วีระวัฒน์ โอสถานุเคราะห์ เขต 3 คมเดช ไชยศิวามงคล เขต 4 พีระเพชร สิริกุล และเขต 5 ประเสริฐ บุญเรือง
เที่ยวนี้ เพื่อไทยมั่นใจว่าเป้าแลนด์สไลด์กาฬสินธุ์ไม่ยาก เมื่อกางดูคะแนนในการเลือกตั้งปี 2562 ในทุกเขตทิ้งห่างคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่น จึงค่อนยากที่พรรคงคู่แข่งจะเบียดแทรกเข้ามาได้
รอบนี้ “บุญรื่น ศรีธเรศ” และ “คมเดช ไชยศิวามงคล” แม้จะปรากฏตัวบนเวทีปราศรัย ข้างกาย “อุ๊งอิ๊ง” แต่เที่ยวนี้ขอหลบฉากทางการเมือง ให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสลงชิงเก้าอี้ ส.ส.
โฟกัสหลักจับตาไปที่ เขต 1 “วิรัช พิมพะนิตย์” และ เขต 2 “พลากร พิมพะนิตย์” เมื่อปี 2562 ตระกูล “พิมพะนิตย์” อยู่ใต้ชายคาพรรคภูมิใจไทย โดย “วิรัช” แพ้ให้กับ “บุญรื่น” ไปกว่า 5,000 คะแนน ก่อนที่พรรคภูมิใจไทยจะตอบแทนด้วยการตั้งให้นั่งเก้าอี้ที่ปรึกษา “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม
ทว่า “วิรัช” รู้ตัวดีว่าหากฝืนกระแส “อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย” ฟีเวอร์ในพื้นที่กาฬสินธุ์ มีโอกาสที่จะแพ้การเลือกตั้ง ประจวบเหมาะกับ “บุญรื่น” ต้องการยุติเส้นทางทางการเมือง โดยส่งลูกชาย “ทินพล ศรีธเรศ” ลงชิงเขต 5 จึงเป็นโอกาสดีที่ทำให้ “วิรัช” จะได้ ส.ส. เขต 1 จึงยกตระกูล “พิมพะนิตย์” กลับพรรคเพื่อไทย
ส่วนพื้นที่เขตอื่น ประกอบด้วย เขต 3 “ยรรยงรัตน์ ไชยศิวามงคล” เขต 4 “พีระเพชร ศิริกุล” เขต 5 “ทินพล ศรีธเรศ” เขต 6 “ประเสริฐ บุญเรือง”
ขอนแก่น ผู้ชนะการเลือกตั้งปี 2562 ของเพื่อไทย ประกอบด้วย เขต 3 “จตุพร เจริญเชื้อ” เขต 4 “มุกดา พงษ์สมบัติ” เขต 5 “ภควัต ศรีสุรพล” เขต 6 “สิงหภณ ดีนาง” เขต 7 “นวัธ เตาะเจริญสุข” (เลือกตั้งซ่อมใหม่) สมศักดิ์ คุณเงิน พรรคพลังประชารัฐ เขต 8 “สรัสนันท์ อรรณนพพร” เขต 9 “วันนิวัติ สมบูรณ์” และเขต 10 “บัลลังค์ อรรณนพพร”
เสียเก้าอี้ให้พรรคการเมืองคู่แข่งใน เขต 1 “ฐิตินันท์ แสงนาค” พรรคอนาคตใหม่ (ปัจจุบันสังกัดพรรคภูมิใจไทย) เขต 2 “วัฒนา ช่างเหลา” พรรคพลังประชารัฐ
สำหรับการเลือกตั้งรอบนี้ พื้นที่ที่เคยเป็นแชมป์เก่า “อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย” คาดหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจอีกครั้ง แต่พื้นที่ที่เคยโดนเจาะอาจจะต้องทุ่มทุกสรรพกำลังหนักกว่าเดิม อาทิ เขต 1 พรรคเพื่อไทยวางตัว “เสี่ยเต๋า” จักริน พัฒน์ดำรงจิตร แต่เจ้าตัวขอถอนตัวจากการเป็นผู้สมัคร เพราะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ทำให้เพื่อไทยต้องหาตัวผู้สมัครคนใหม่ โดยต้องคัดสรรหารระดับเกรดเอ เพราะ “ฐิตินันท์ แสงนาค” แชมป์เก่าเด็กปั้นของ “เอกราช” ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยลงชิง เขต 1 แน่นอนแล้ว
ส่วน “พรรคก้าวไกล” เตรียส่ง “ทนายป๊อก” วีรนันท์ ฮวดศรี ลงสมัคร ส.ส. เขต 1 ขอนแก่น เช่นกัน หวังล้างอาย ส.ส. งูเห่าสีส้ม แถมยังมีคะแนนจาก “คนรุ่นใหม่-คนเมือง” คอยเป็นแบ็คอัพให้
นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ที่ต้องสู้กันหนัก เช่น เขต 2 “รัมภามาศ ทีฆธนานนท์” ลูกเจ้าสัวเมืองขอนแก่น ต้องชนกับ “วัฒนา ช่างเหลา” แชมป์เก่า เขต 4 “มุกดา พงษ์สมบัติ” ในฐานะแชมป์เก่า ต้องลงป้องกันแชมป์กับ “เอกราช ช่างเหลา” ผู้ยิ่งใหญ่เมืองขอนแก่น จาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องลง ส.ส. เขต เพราะปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคภูมิใจไทยแน่นเอี๊ยด
ส่วนเขต 7 “สุรพจน์ เตาะเจริญสุข” น้องชาย “นิวัธ เตาะเจริญสุข” เตรียมลงแก้แค้นแทนพี่ชายที่โดนคดีจ้างวานฆ่า หมดอนาคตทางการเมือง หนำซ้ำการเลือกตั้งซ่อม พรรคเพื่อไทยต้องเสียเก้าอี้ให้กับ “สมศักดิ์ คุณเงิน” เด็กสายตรง “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เวลานี้หอบข้าวของกลับพรรคพลังประชารัฐแล้ว
เมื่อโจทย์ใหญ่ของ “อุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทย” คือการชนะแบบแลนด์สไลด์ การปลุกกระแสผลงานในอดีต ของนายกฯ สองพี่น้องให้ฟีเวอร์ขั้นสุด และเตรียมกลับมาจัดใหญ่ ตอกย้ำแบรนด์ชินวัตร
การเดินเกมของ “เพื่อไทย” ได้วางแผนอย่างละเอียด เพราะเหลือเวลาที่ “อุ๊งอิ๊ง” มีกำหนดคลอดราวๆ ปลายเดือน เม.ย. ฉะนั้นการหาเสียงจึงต้องเข้มข้นกับการลงพื้นที่ แบบออนไซด์ ก่อนจะปรับเป็นการระบบออนไลน์ ทางวีดิโอคอล หากยังไม่สามารถไปปรากฏตัวบนเวทีเพื่อไทยได้
ผู้มีอำนาจเหนือพรรค และในพรรค ย่อมรู้ดีว่า เดิมพันเพื่อไทยแลนด์สไลด์ เที่ยวนี้ ไม่ง่าย เพราะมีปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน และถึงแม้จะผ่านด่านเลือกตั้งเข้าไปได้ การได้เข้าสู่อำนาจรัฐบาลยังมีด่านพรรค ส.ว.รอสกัดอีกชั้น ดังนั้นแลนด์สไลด์จึงจำเป็นต้องถล่มทลายจนไม่กล้าขวาง






