“กนก” ชี้ เลือกตั้งครั้งหน้า โอกาสครั้งใหม่ เตือนอย่ายึดติดขั้วการเมือง

“กนก” ชี้ เลือกตั้งครั้งหน้า โอกาสครั้งใหม่  เตือนอย่ายึดติดขั้วการเมือง

“กนก” ชี้ เลือกตั้งครั้งหน้า โอกาสครั้งใหม่ ให้นักการเมือง ทบทวน แก้ข้อผิดพลาด ระบุ จะก้าวข้ามความขัดแย้ง ต้องก้าวข้ามผลประโยชน์การเมืองด้วย เตือน แม้คณิตศาสตร์การเมืองสำคัญ แต่ การแก้ปัญหาประชาชนสำคัญกว่า ควรยึดประโยชน์ชาติ แทนยึดติดขั้วการเมือง

นายกนก วงษ์ตระหง่าน เลขานุการคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ ว่า ทุกครั้งเมื่อการเลือกตั้งใกล้เข้ามา คำถามส่วนใหญ่มุ่งไปที่พรรคไหนจะได้สส.จำนวนเท่าไร และพรรคใดจะรวมจำนวนสส.เพื่อจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยมีจำนวนสว.ที่ยังมีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรีได้(อีกหนึ่งครั้ง) เป็นตัวแปรสำคัญ เรียกว่ายังอยู่ในจุดของคณิตศาสตร์การเมือง รวมเสียงข้างมาก เพื่อก้าวสู่อำนาจบริหาร ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะระบอบประชาธิปไตย ต้องใช้เสียงข้างมากเป็นตัวตัดสิน แต่ขณะเดียวกันไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองไหน อยู่ขั้วใด สุดท้ายสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ “การแก้ไขปัญหาของประชาชน” ไม่ว่าการเลือกตั้งจะจบลงที่ฝ่ายใดเป็นรัฐบาล ขั้วไหนเป็นฝ่ายค้าน ต้องไม่ลืมหัวใจสำคัญที่ว่า “ประชาชนมอบอำนาจมา ให้ใช้อำนาจเพื่อประชาชน” เลือกตั้งครั้งหน้า จึงถือเป็นโอกาสครั้งใหม่ ที่นักการเมืองควรทบทวน กำหนดทิศทางที่ชัดเพื่อแก้ตัวจากสิ่งที่อาจเคยผิดพลาดไปในอดีต

นายกนก กล่าวว่า ปัญหาความยากจน ปัญหาหนี้สิน ปัญหารายได้ ปัญหาค่าครองชีพ เป็นเรื่องในใจประชาชน ที่ต้องการพลังในการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่าพรรคการเมืองอะไรจะรวมกับพรรคการเมืองไหนขอให้แก้ปัญหาของประขาชนเหล่านั้นได้ น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดที่ประชาชนอยากเห็น การก้าวข้ามขั้ว กระโดดรั้วข้ามค่าย อาจทำให้คอการเมือง ที่เคยเชียร์สุดขั้ว เพราะความเห็นต่าง ไม่พอใจนัก หากเกิดกรณี พรรคคนละขั้วหันมาจับมือกันตั้งรัฐบาล 

แต่สุดท้ายแล้วคำอธิบายที่เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนเข้าใจได้ มีอยู่อย่างเดียวคือ ไม่ว่าพรรคไหนจะรวมกับพรรคใด จุดยึดโยงคือ ต้องแก้ปัญหาประชาชนได้ มีความเป็นเอกภาพในการบริหารงาน ไม่ขัดแข้งขัดขากัน และสำคัญที่สุดเมื่อจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ก็ต้องก้าวข้ามผลประโยชน์ทางการเมือง ให้ได้อย่างจริงจังด้วย 

“หากทำได้แบบนี้ จึงจะเป็นการทำงานการเมืองบนผลประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนอย่างแท้จริง เช่น พรรคเพื่อไทยรวมกับพรรคพลังประชารัฐจะแก้ปัญหาได้จริงหรือ พรรคก้าวไกลรวมกับพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยจะแก้ปัญหาได้แค่ไหน พรรครวมไทยสร้างชาติรวมกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยจะแก้ปัญหาได้หรือไม่ เป็นต้นจำนวนสส.สำคัญต่อการจัดตั้งรัฐบาล แต่พรรคการเมืองที่จะร่วมกันตั้งรัฐบาลและทำงานร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาประชาชนให้สำเร็จมีความสำคัญกว่า ตนคิดว่าสิ่งที่ต้องย้ำกันตอนนี้คือ ขั้วการเมืองสำคัญน้อยกว่าการแก้ปัญหาประชาชน ถึงเวลาที่เราก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าพัฒนาประเทศได้แล้ว”นายกนกกล่าวทิ้งท้าย