“อุ๊งอิ๊ง” ยกพลปราศรัยอำนาจเจริญ ปลุก ประชาชนเลือกทั้งคนทั้งพรรค

“อุ๊งอิ๊ง” ยกพลปราศรัยอำนาจเจริญ ปลุก ประชาชนเลือกทั้งคนทั้งพรรค

“อุ้งอิ๊งค์” ยกพลปราศรัยอำนาจเจริญ ปลุก ปชช.เลือกทั้งคนทั้งพรรคหวังแก้จน “ชลน่าน” อัดปลูกกัญชา 6 ต้นขายไม่ได้แต่ทำลูกหลานติด 

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 18 ก.พ. ที่สวนมิ่งเมืองเฉลิมพระเกียรติ อ.เมืองอำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยต่อเนื่องเป็นวันที่สอง นพโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แกนนำพรรค ส.ส.ในพื้นที่อำนาจเจริญและยโสธร รวมถึงว่าที่ผู้สมัครในทั้งสองพื้นที่ เดินทางมาร่วมเวทีอย่างพร้อมเพรียง โดยมีประชาชนชาวอำนาจเจริญ มารอฟังการปราศรัยจนเต็มพื้นที่ลานด้านหน้าสวนเฉลิมพระเกียรติฯ 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรายกทัพใหญ่มาพบประชาชนเพื่อต้องการเน้นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อำนาจเป็นของประชาชน เราต้องการเอาอำนาจของประชาชนคืน วันนี้พี่น้องคิดถึงอดีตนายกฯ ที่อยู่แดนไกลหรือไม่ เสียใจที่วันนี้ท่านไม่ได้อยู่ในประเทศ แต่ท่านจะแปลงกายใส่วิกอุ้มท้องในร่างของ น.ส.แพทองธาร มาพบพี่น้อง ขอให้เลือกเพื่อไทยยกจังหวัดทั้งอำนาจเจริญ และยโสธร 8 ปีที่ผ่านมาประชาชนเจอกับความยากลำบาก ถ้าเลือกเขาต่อไปได้นโยบายกัญชาเสรี แต่กฎหมายที่ให้ปลูกกัญชา 6 ต้น มันเอาไปกินไปขายไม่ได้ แต่ทำให้ลูกหลานติดกัญชา

“อุ๊งอิ๊ง” ยกพลปราศรัยอำนาจเจริญ ปลุก ประชาชนเลือกทั้งคนทั้งพรรค

น.ส.แพทองธาร ปราศรัยว่า อาทิตย์หน้าจะท้องครบ 7 เดือน กลัวคุณหมอไม่ให้เดินทาง เลยมาพบพี่น้องอีสานก่อนใครเพื่อน ทั้งนี้ พรรคพท.คิดนโยบายเพื่อแก้ปัญหาให้ชาวอีสานหายจน แต่เกิดรัฐประหาร และมีปัญหาโควิดการจัดการของรัฐบาลไม่ดี ทำให้ประชาชนเป็นหนี้มาถึงทุกวันนี้ และยืนยันนโยบายค่าแรง 600 บาท ถ้าพรรคพท.เป็นรัฐบาลครบ 4 ปี ค่าแรงได้ 600 บาทแน่นอน และสินค้าการเกษตรต้องราคาขึ้นยกแผงด้วยการเปิดตลาดให้ขายได้ทั่วโลก วันนี้ปัญหาความยากจนแก้ไม่จบเสียทีเลยมาขอคะแนนให้เลือกทั้งคนทั้งพรรค เพื่อเข้าไปโหวตนโยบายที่เราตั้งใจมาแก้ไขให้พี่น้อง 

จากนั้น น.ส.แพรทองธาร ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ระบุว่าดวงของน.ส.แพทองธารจะดีขึ้นในปี 2567 หลังจากที่ส.ว.หมดวาระแล้ว ว่า “ขอบคุณค่ะ ไม่รู้จะตอบอะไรเลย ข้ามไปๆ อันนั้นเหมือนไม่ใช่ดวง เหมือนเป็นข้อเท็จจริง” 

ด้านนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส.ว.ที่ยกมือสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เหมือนทำให้คนทั้งประเทศดวงตกมาตลอด 4 ปีแล้ว หากเรื่องนี้จะถือว่าเป็นโชคชะตา การเลือกตั้งประชาชนจะเป็นคนกำหนดชะตาตัวเอง โดยการลงคะแนนและพรรค พท.ก็อาสาเข้ามาทำงานชนะให้เด็ดขาดแลนด์สไลด์เอาชนะส.ว. ที่ต้องการจะสร้างเกมปลุกปั่นสกัดกั้นพรรค พท.และประชาชน 

“อุ๊งอิ๊ง” ยกพลปราศรัยอำนาจเจริญ ปลุก ประชาชนเลือกทั้งคนทั้งพรรค

เมื่อถามถึง กรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเข้าไปหารือกับพล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวานนี้ (16 กุมภาพันธ์) และมีการคาดการณ์ว่าจะมีการเลือกตั้งวันที่ 7 พฤษภาคม โดยอาจจะมีการคาบเกี่ยวกันกับการคลอดของน.ส.แพทองธารนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการช่วยกันวางแผนกับพรรคแล้วในเรื่องการเดินทาง เพราะมีเรื่องของสุขภาพด้วยซึ่งเห็นตนเดินทางเช่นนี้ ตนก็หาเวลสพักผ่อนตลอด ตอนนอนก็นอนเต็มที่ โดยจะดูเรื่องของการขึ้นเครื่องบินมากกว่าหากยังขึ้นได้ แพทย์รับรองก็ยังไป แต่ช่วงใกล้คลอดก็คงจะเป็นใกล้กรุงเทพและปริมณฑล ทั้งนี้ ช่วงที่ตนใกล้คลอดก็จะมีคนอื่นนำทัพหาเสียง โดยอาจจะมีการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์

“ที่มีการประกาศว่าสัปดาห์หน้าจะครบ 7 เดือนแล้ว คือตื่นเต้น ไม่ได้มีวาระอื่นๆ อิ๊งค์เชื่อว่าผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ทุกคนตื่นเต้นกับการมีลูก แม้จะเป็นคนที่ 2 ก็ตาม อิ๊งค์นับทุกวัน นับด้วยความปลื้มปิติที่จะได้เป็นแม่ลูก 2 เร็วๆ นี้” น.ส.แพทองธาร กล่าว

เมื่อถามว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีก 2 คนจะมาช่วยลงพื้นที่ได้เมื่อไหร่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เขาอาจจะมาช่วยกันอยู่แล้วก็ได้ แต่ตอนนี้ทุกคนในพรรคก็ช่วยกันอยู่ ฉะนั้น คิดว่าอย่างไรทีมปราศรัยเราก็ไปต่อกันอยู่แล้ว แต่ละคนพูดเก่งอยู่แล้ว หากเวทีไหนที่ตนไม่ได้ไปก็จะวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ และไม่คิดว่าการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีช้าจะทำให้เราเสียโอกาสในการเรียกคะแนนเสียง เพราะเราชูเรื่องนโยบายของพรรค

เมื่อถามถึง กระแสข่าวที่นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อาจจะไม่มาร่วมกับพรรค พท. แล้ว นพ.ชลน่าน กล่าวว่า นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำกลุ่มชลบุรี ในฐานะพี่ใหญ่เขามาประกาศที่พรรคว่าเขามาเป็นครอบครัว แต่เราก็ไม่ไปก้าวล่วงว่าคำว่าครอบครัวเขาจะมีประเด็นเป็นปัญหาอะไรหรือไม่ ก็ไปดูแต่คนละคนไป แต่นายอิทธิพลจะคิดอย่างไร เราไม่ได้ไปเกี่ยวข้อง ก็แล้วแต่ตัดสินใจ แต่เขาก็บอกว่าเป็นการตัดสินใจร่วมกันของพี่น้อง

ถามต่อว่า ความมั่นใจในเขตเลือกตั้งชลบุรี นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราตั้งมั่นใน 10 เขตเลือกตั้ง และมั่นใจว่าชลบุรีน่าจะมีโอกาสเกือบครบทุกเขต ทั้งนี้ เราเหลือการประกาศตัวไม่กี่เขต ภายในสัปดาห์หน้าจะประกาศครบทุกเขต ช่วงที่มีการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ถ้าแคนดิเดตนายกฯ ของเราที่ลงเลือกตั้ง ลงพื้นที่แล้ว ถ้าไม่ได้รับการตอบรับหรือมีต้องเปลี่ยนตัว เราก็แจ้งกับว่าที่ผู้สมัครเราอยู่ตลอดเวลา เพราะขั้นตอนสุดท้ายต้องผ่านกระบวนการการสรรหา รับฟังความเห็นของพี่น้องประชาชนและมาประกาศในกรรมการบริหาร อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ 

เมื่อถามว่า เขตการเลือกตั้งปัจจุบันยังไม่นิ่ง จะมีผลกระทบต่อการที่นำเสนอผู้สมัครส.ส.หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มีผล เพราะพื้นที่ของแต่ละบุคคลมีความสามารถที่แตกต่างกัน เราก็รอว่าเมื่อเขตเลือกตั้งชัดเจนเมื่อไหร่ ก็จะมีการปรับตัว ปรับเปลี่ยน เช่น เราประกาศไป 8 คน แล้วหากเขตนั้นไม่ตรง เราอาจจะต้องมีการปรับ 

ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งว่า พรรคเพื่อไทยเต็มที่ทุกเขตอยู่แล้ว เราประกาศเป้าหมายแลนด์สไลด์ คาดหวังการสนับสนุนและคะแนนเสียงจากประชาชนทุกที่ ไม่ว่าจะมีคู่ต่อสู้เป็นพรรคใหญ่โต เต็มไปด้วยทรัพยากรหรืออำนาจแค่ไหน เราศรัทธาอย่างเดียวคืออำนาจของประชาชน 

เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับสัญญาณของการยุบสภา เพราะจบการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เรียบร้อยแล้ว และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่ามีวันในใจแล้ว น.ส.แพทองธาร และนพ.ชลน่าน กล่าวพร้อมกันว่า เราไม่สนใจว่าจะยุบสภาเมื่อไหร่ เพราะเราจะเดินหน้าแบบนี้ต่อไป 

เมื่อถามถึง เนื้อหาการปราศรัยที่จ.อำนาจเจริญพุ่งเป้าไปที่นโยบายกัญชาเสรี หมายความว่าพรรคภูมิใจไทย เป็นคู่แข็งที่น่ากลัวใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แปลว่ายาเสพติดเป็นอันตรายที่น่ากลัวของประชาชน กัญชาที่อยู่ในมือลูกหลาน เป็นอันตรายต่ออนาคตชาติ ไม่ว่าจะเป็นปราศรัยที่ไหน เรายกให้ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งที่จะต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนทันที และต้องไม่ลืมว่าในปี 2548 การเลือกตั้งครั้งนั้นเมื่อพรรคได้มีการสำรวจ พบว่านโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายของรัฐบาลไทยรักไทยที่ประชาชนชื่นชมชื่นชอบมากที่สุดและยังคงเชื่อมั่นจนถึงปัจจุบัน ไม่ได้มองว่าเป็นพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นการเฉพาะแต่ยาเสพติดเป็นอันตรายสำหรับทุกคน และพรรคไหนหรือใครก็ตามสนับสนุนเรื่องนี้ก็เห็นต่างกับพรรค พท.