“โรม” อัด กกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง 66 พิสดาร หวั่นเปิดช่องร้องศาลตีความ

“โรม” อัด กกต.แบ่งเขตเลือกตั้ง 66 พิสดาร หวั่นเปิดช่องร้องศาลตีความ

“โรม ก้าวไกล” ออกโรงอัด “กกต.” แบ่งเขตเลือกตั้ง 66 พิสดาร นับรวมคนไม่มีสัญชาติไทยไปคำนวณด้วย หวั่นสร้างเงื่อนไขให้ “นักร้อง” ไปยื่นศาล รธน.ตีความทำสังคมเดินหน้าไม่ได้ แต่เชื่อประชาชนได้กาบัตรแน่ เหตุ “ประยุทธ์” ลงแรงหาเสียงไปแล้ว

เมื่อวันที่ 10 ก.พ.2566 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นับรวมบุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยมาคำนวณการแบ่งเขตเลือกตั้ง 2566 ว่า ถามง่าย ๆ ว่าคนต่างด้าวมีสิทธิเลือกตั้งหรือไม่ ถ้าคนต่างด้าวไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ก็ไม่ควรรวมเข้ามา เพราะถ้ารวมเข้ามา แต่ในทางปฏิบัติคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่มากก็จะเป็นปัญหา เชื่อว่าเจตนารมย์การแบ่งเขตเลือกตั้ง ควรจะดูจากประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้ง การที่ กกต. ใช้สูตรพิสดาร นับรวมคนต่างด้าวเข้ามา จึงไม่น่าจะสมเหตุสมผล เหมือนที่ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์

เมื่อถามว่า หากผู้มีอำนาจไม่พอใจกับผลการเลือกตั้ง การแบ่งเขตเช่นนี้จะกลายเป็นเงื่อนไขให้มีผู้ไปร้องศาลรัฐธรรมนูญตีความเพื่อล้มการเลือกตั้งหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พวกตนอยากให้มีการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด ไม่อยากให้มีการขัดขวาง และเราก็พยายามที่จะทำให้สังคมได้เห็นว่า องค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเป็นอย่างไร แต่ก็กังวลว่าจะมีบรรดานักร้องทั้งหลายไปยื่นศาลแล้วสุดท้ายอาจจะสร้างเป็นเงื่อนอะไรบางอย่างที่ทำให้สังคมไทยเดินหน้าไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงแล้วเรื่องการเลือกตั้งไม่ควรมีอะไรมาขัดขวางได้

“ยอมรับว่ามีความกังวล แต่ผมยังเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้น เพราะดูเหมือน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็หาเสียงเต็มที่ จึงเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ คงไม่อยากเปลืองแรงฟรี และหวังว่าการเลือกตั้งรอบนี้จะเป็นการเลือกตั้งที่นำไปสู่การสางปมปัญหาต่าง ๆ ที่คั่งค้างในสังคมไทย” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่า ก่อนที่จะเกิดปัญหาเหล่านี้ คิดว่าใครควรจะเป็นเจ้าภาพสร้างความชัดเจนเรื่องการนับรวมคนไม่มีสัญชาติไทย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจของ กกต. ไม่เข้าใจว่า กกต.คิดอะไรพิสดาร อย่าไปคิดเยอะ เพราะกฎหมายมีความชัดเจนและมีหลักอยู่แล้วว่าคนเลือก กับการแบ่งเขตควรจะสอดคล้องกัน ถ้าไปคิดเอาคนต่างด้าวมารวมที่ไม่มีสิทธิเลือกตั้งมารวม อย่างนี้อธิบายไม่ได้ กกต. ควรจะเข้าใจในหลักการนี้ด้วย