แกะรอย “โปลิตบูโร” สีส้ม “กลุ่มเพื่อนเอก” ชนวนพรรคร้าว

แกะรอย “โปลิตบูโร” สีส้ม “กลุ่มเพื่อนเอก” ชนวนพรรคร้าว

"...ทั้งหมดคือฉากหลังความขัดแย้งภายใน “ค่ายสีส้ม” ที่กำลังร้อนแรง และอาจส่งผลสะเทือนฐานความนิยมในพื้นที่เมืองหลวง จนฝัน “แลนด์สไลด์สีส้ม” ไม่เข้าเป้าอย่างที่หวังก็เป็นไปได้..."

กำลังเป็นประเด็นเขย่าฐานอำนาจภายใน “องคาพยพสีส้ม” อย่างรุนแรง

พลันที่ “คริส โปตระนันทน์” อดีตผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ และอดีตประธานกลุ่มเส้นด้าย ตัดสินใจเด็ดขาดยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิก “พรรคก้าวไกล” พร้อมกับโยนเผือกร้อนสาเหตุสำคัญที่ตัดสินใจไขก๊อกครั้งนี้ มาจากความไม่เป็นประชาธิปไตยภายในพรรค มีกลุ่มบุคคลเรียกว่า “โปลิตบูโร” กุมบังเหียนคอยคอนโทรลทุกอย่าง

แม้แต่เรื่องนโยบายพรรคก็ไม่เปิดช่องให้เหล่าสมาชิกโต้แย้ง แต่กลับหล่นจากฟ้า-ลอยมาจากห้องแอร์ของกลุ่มที่ปรึกษา “โปลิตบูโร”

นั่นจึงเป็นฟางเส้นสุดท้ายทำให้ “คริส” ตัดสินใจลาออก พร้อมกับกระแสข่าวว่าเตรียมหอบทีมงาน ส.ก.ของพรรค นำโดย “เฮียเล้าพีรพล กนกวลัย ส.ก.พญาไท อดีตผู้บริหาร “กลุ่มเส้นด้าย” ออกมาตั้งพรรคใหม่ แว่วว่าบรรดา ส.ก.อีก 3 รายที่เคยเป็น “อดีตเส้นด้าย” พ่วง ส.ก.ก้าวไกล อีก 4 ราย ที่เพิ่งมาคลุกคลีกันทีหลัง มีแนวโน้มสูงจากย้ายออกตามมาด้วย

เบื้องลึกฉากหลังกรณีนี้ เกิดจากความไม่กินแหนงแคลงใจกันในการจัดตัว ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ซึ่งถูกเขย่ามาตั้งแต่สมัย “ปิยบุตร แสงกนกกุล” จน “ปิยบุตร” ชิงประกาศยุติบทบาททุกอย่างกับพรรคก้าวไกลไปก่อนหน้านี้

ประเด็นที่น่าสนใจ ใครคือ “โปลิตบูโร” ใน “ค่ายสีส้ม” ที่ถูกพาดพิงในครั้งนี้

หลายเสียงจากแวดวงการเมืองวิจารณ์กันให้แซ่ดว่า ในช่วงก่อร่างสร้างพรรคอนาคตใหม่ เดิมยังเป็นพรรคการเมือง “มวลชน” ที่เน้นความหลากหลาย ทว่าหลังจากได้รับชัยชนะการเลือกตั้งเป็นกอบเป็นกำเมื่อปี 2562 “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” หิ้ว ส.ส.สีส้ม เข้าสภาถึง 81 ราย หลังจากแนวทางการบริหารพรรคก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป

เริ่มมี “คณะบุคคล” เข้ามาครอบงำในการบริหารจัดการภายในพรรค คอยประดิษฐ์บทบาท และทิศทางการเดินของพรรค จนถูกขนานนานว่า “กลุ่มเพื่อนเอก” (เอก คือชื่อเล่นของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ)

ต่อมาเมื่อพรรคอนาคตใหม่เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค กรณีกู้ยืมเงิน “ธนาธร” โดยมิชอบ “กลุ่มเพื่อนเอก” หอบหิ้วบรรดา ส.ส.ที่ยังเหลืออยู่ และเป็น “เลือดแท้” ไปสร้าง “พรรคก้าวไกล” ดัน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” มาเป็นหัวหน้าพรรค

ด้วยบทเรียน “งูเห่า” ในพรรคอนาคตใหม่ ทำให้การบริหารจัดการใน “ก้าวไกล” รัดกุมมากยิ่งขึ้น เกิดคณะบุคคลใหม่ขึ้นมานำพรรค โดย “กลุ่มเพื่อนเอก” ยังคงเป็นหัวหอก และมีบรรดากรรมการบริหารพรรคอีก 2-3 คนเข้าไปร่วมวงด้วย ลักษณะเดียวกับ “นักรบห้องแอร์” แห่ง “ค่ายสีแดง”

ทำให้ถูกสมาชิกพรรคบางคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าระบบดังกล่าวไม่ต่างอะไรกับ “โปลิตบูโร” ของพรรคคอมมิวนิสต์

สำหรับ “คณะบุคคล” ที่ถูกเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเป็น “โปลิตบูโร” มี “กลุ่มเพื่อนเอก” เป็นหัวหอก คือ เอก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประธานคณะก้าวหน้า ต๋อม ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ติ่ง ศรายุทธ ใจหลัก ผอ.พรรคก้าวไกล

เอก-ต๋อม-ติ่ง” คือเพื่อนรักล่มหัวจมท้าย ทำกิจกรรม และขับเคลื่อนงานทางการเมืองมาด้วยกันตั้งแต่ต้นปี 2542 จนถึงปัจจุบัน

ส่วนที่มีเพิ่มเข้ามาภายหลัง ว่ากันว่าเป็น “ทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ “จ้อน พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์” รองหัวหน้าพรรค เป็นมือไม้ทางการเมือง

ส่วนกลุ่มที่ปรึกษา “โปลิตบูโร” เป็นมือไม้ทางนโยบายเศรษฐกิจ นำโดยกลุ่ม “Think Forward Center” มีหัวหอกสำคัญคือ “ไหม ศิริกัญญา ตันสกุล” รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ “เดชรัต สุขกำเนิด” นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ชื่อดังของไทย

การเข้ามาของ “โปลิตบูโร” จัดทัพ ส.ส. นำทิศทางการเมือง รวมถึงนโยบายเศรษฐกิจแบบนี้ อาจเป็นสาเหตุสำคัญให้ “ป๊อก-ปิยบุตร” ไปต่อด้วยไม่ได้ และชิงยุติบทบาทกับพรรคไป คงเหลือแค่ตำแหน่ง “เลขาธิการคณะก้าวหน้า”

ทั้งหมดคือฉากหลังความขัดแย้งภายใน “ค่ายสีส้ม” ที่กำลังร้อนแรง และอาจส่งผลสะเทือนฐานความนิยมในพื้นที่เมืองหลวง จนฝัน “แลนด์สไลด์สีส้ม” ไม่เข้าเป้าอย่างที่หวังก็เป็นไปได้