รวบแล้วโจรขโมย เครื่องกระตุกหัวใจ AED เป็นอาสากู้ภัยอิสระ ขายต่อให้กู้ภัย

รวบแล้วโจรขโมย เครื่องกระตุกหัวใจ AED เป็นอาสากู้ภัยอิสระ ขายต่อให้กู้ภัย

รวบแล้วโจรขโมย เครื่องกระตุกหัวใจ AED ขายออนไลน์ เสียหาย 1.8 ล้าน ที่แท้เป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยอิสระ ขายต่อให้กู้ภัย

จากกรณีเพจดัง Drama-addict โพสต์เกี่ยวกับ เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ หรือ เครื่อง AED ที่ประจำอยู่ตามมุมต่างๆ ใน กทม. โดยระบุว่า “จนท. ที่ดูแลเครื่อง AED ที่ประจำอยู่ตามมุมต่างๆ ใน กทม. แจ้งมาว่า ผมขอฝากถึงพวกมือดีที่ขโมยเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ AED ที่ติดตามแยกต่างๆใน กทม. ให้ทีครับ

ติดไป 262 เครื่อง หายไปแล้ว 27 เครื่อง เจอไปโพสต์ขายในเฟสบุ๊คก็มีครับ ตอนนี้ความเสียหายอยู่ที่ 1,890,000 บาท จาก 27 เครื่องที่หายไป ส่วนในภาพนี่ตู้ถูกทุบ แต่โชคดี AED ยังอยู่ ตอนนี้ จนท. กำลังดำเนินคดี และไล่ตามเอา AED ที่ถูกขโมยไปขายกลับคืนมา

ใครพบเห็นการประกาศขาย AED แบบถูกแปลกๆ ตามแพลทฟอร์มต่างๆ ช่วยแจ้งเบาะแสมาด้วยครับ อนึ่ง ตู้พวกนี้ไม่ล๊อค เพราะต้องการให้คนเปิดเอาเครื่องไปใช้ช่วยชีวิตคนได้สะดวกๆ ครับ” พร้อมโพสต์ภาพตู้ที่ถูกทุบ ซึ่งจุดนี้โชคดี ที่เครื่อง AED ยังอยู่ แต่มีสภาพความเสียหายของกระจกหน้าตู้

ต่อมา เพจ เครือข่ายรถจักรยานฉุกเฉินทางการแพทย์ ได้ออกมาโพสต์ถึงกรณีดังกล่าวว่า “โปรดระวังอย่าซื้อเครื่อง AED ฟรี เพื่อประชาชนของสภากาชาดไทย ตามป้อมตำรวจและสถานที่ราชการทั่วประเทศมาขาย โดยเครื่องมีรหัส สามารถระบุถึงเจ้าของเครื่องได้ พร้อมติดแฮชแทค ท่านอาจเสียเงินและถูกดำเนินคดีได้”

รวบแล้วโจรขโมย เครื่องกระตุกหัวใจ AED เป็นอาสากู้ภัยอิสระ ขายต่อให้กู้ภัย

ล่าสุด วันนี้(26 ม.ค.66) ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต. ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล รายงานผลการจับกุม รุ่งโรจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” จับกุมตัวได้ที่ บ้านพักไม่มีเลขที่ ภายในบริเวณวัดไก่เตี้ย แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน จ.กรุงเทพ และจับกุมนายวีรยุทธ (ขอสงวนนามสกุล) หรือแจ็ค อายุ 32 ปี บ้านแขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย จ.กรุงเทพ ข้อหา “รับของโจร

พร้อมตรวจยึดของกลางจำนวน 5 รายการ คือ

1. เครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator: AED) ตรวจยึดได้ในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาล (สน.) บางรัก

2. เครื่อง AED ตรวจยึดได้ในพื้นที่ สน.พลับพลาไชย 2

3. เครื่อง AED ตรวจยึดได้ในพื้นที่ สน.พลับพลาไชย 2

4. เครื่อง AED ตรวจยึดได้ในพื้นที่ สน.บางบอน

5. เครื่อง AED ตรวจยึดได้ในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน

สืบเนื่องจากมีกลุ่มคนร้ายตระเวนขโมยเครื่อง AED ที่ติดไว้ตามสถานที่สำคัญต่างๆ ในพี่นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อตรวจสอบถึงวันที่ 24 มกราคม พบว่ามีเครื่อง AED ถูกขโมยไปหลายเครื่อง กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ารุ่งโรจน์ ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นอดีตเจ้าหน้าที่กู้ภัยย่านบางกอกน้อย โพสต์ข้อความในโลกออนไลน์ประกาศขายเครื่อง AED ในราคาต่ำผิดปกติ จึงได้สืบสวนติดตามจับกุม

 

นายรุ่งโรจน์ ให้การรับสารภาพว่าตระเวนขโมย เครื่อง AED 6 แห่ง ดังนี้

1. บริเวณป้อมตำรวจแยกวรจักร แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ก่อเหตุประมาณวันที่ 20 ธันวาคม 2565 จำนวน 1 ตัว

2. บริเวณป้อมตำรวจซอยเจริญกรุง 43 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กรุงเทพฯ ก่อเหตุประมาณวันที่ 26 ธันวาคม 2565 จำนวน 1 ตัว

3. บริเวณป้อมตำรวจแยกเจริญสวัสดิ์ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ก่อเหตุประมาณวันที่ 3 มกราคม 2566 จำนวน 1 ตัว

4. บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกแม้นศรี แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ก่อเหตุเมื่อประมาณต้นเดือนมกราคม 2566 จำนวน 1 ตัว

5. บริเวณป้อมตำรวจ ถนนพระรามที่ 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กรุงเทพฯ ก่อเหตุเมื่อประมาณต้นเดือนมกราคม 2566 จำนวน 1 ตัว

6. บริเวณป้อมตำรวจห้าแยกหมอมี ถนนเจริญกรุง แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ก่อเหตุเมื่อประมาณกลางเดือนมกราคม 2566 จำนวน 1 ตัว

โดยทั้ง 6 เครื่องถูกนำไปขายให้กับวีรยุทธ ผู้ต้องหาที่ 2 เครื่องละ 12,000 บาท ก่อนนำไปขายต่อให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลในราคา 13,000-15,000 บาทต่อเครื่อง เจ้าหน้าที่สามารถติดตามรวบรวมกลับมาได้แล้ว 5 เครื่อง

 

จากการสอบสวน นายรุ่งโรจน์ ให้การรับสารภาพว่า ตนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยอิสระ อยู่ละแวกเขตบางกอกน้อย ซึ่งขณะทำงานกู้ภัยได้พบเห็นเครื่อง AED ติดอยู่ทั่วไป โดยเหตุจูงใจแรกเริ่มได้ก่อเหตุเพราะต้องการเงินเพื่อนำไปใช้ซ่อมรถที่จอดเสียอยู่ ซึ่งครั้งแรกได้แอบไปลัก 1 เครื่องย่านวัดเทพศิรินทร์ เมื่อนำไปขายพบว่าราคา 15,000 บาท และเมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อๆ ไป จึงตระเวนลักเรื่อยมาโดยทั้งหมดยอมรับว่าลักมาแล้ว 6 เครื่อง โดยจะให้นายวีรยุทธ ซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยด้วยกัน ช่วยหาคนซื้อ หากหาได้จะแบ่งให้นายแจ็ค เครื่องละ 3,000 บาท 

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ในชั้นจับกุม นายวีรยุทธ ให้การว่า ตนเองเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยอิสระ อยู่ย่านเขตบางกอกน้อย และได้รู้จักกับนายรุ่งโรจน์ มาประมาณ 4 ปี ต่อมาประมาณกลางเดือน ธ.ค.65 ได้ติดต่อกับนายรุ่งโรจน์ ทางเฟซบุ๊ก โดยตกลงให้ตนขายเครื่อง AED ให้ ตนก็สอบถามนายรุ่งโรจน์ แล้วว่ายืนยันว่าไม่ได้เป็นของที่ขโมยมา แต่ตนก็ยังสงสัยเพราะราคาที่ซื้อขายนั้นต่ำกว่าราคาจริง เมื่อตนขายได้นายรุ่งโรจน์ จะแบ่งให้ตนเครื่องละ 3,000 บาท โดยขายเครื่อง AED มาแล้ว 6 เครื่อง

พล.ต.ต.ธีรเดช . กล่าวว่า จากการสอบสวนปากคำให้การของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่ามีการขโมยแค่ 6 เครื่อง เนื่องจากยังพบข้อมูลว่ายังมีอีกหลายแห่งในพื้นที่กรุงเทพ ที่ถูกขโมยไป ซึ่งตอนนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ผมจัดตั้ง ศปก. เพื่อให้รวดเร็วในการจับกุมคนร้ายและติดตามเครื่องที่ถูกลักไปกลับคืนมา เนื่องจากอุปกรณ์ AED ดังกล่าวนี้เป็นเครื่องมือสำคัญที่ไว้ใช้ช่วยเหลือชีวิตของประชาชน เราจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด