“อุ๊งอิ๊ง”ประกาศพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย-คุย“เศรษฐา”วางนโยบาย

“อุ๊งอิ๊ง”ประกาศพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย-คุย“เศรษฐา”วางนโยบาย

“อุ๊งอิ๊ง”ประกาศพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย รับคุย “เศรษฐา” ช่วยวางนโยบายพรรค แย้มในอนาคตร่วมลงพื้นที่ด้วยกัน

ที่ จ.อุดรธานี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง) หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยว่า เตรียมวางแผนเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ตามไทม์ไลน์ที่กำหนดไว้ ตอนนี้ก็มีหลายกระแสทั้งการยุบสภา การควบรวมพรรค และดูดส.ส. แต่ก็ยังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน

เมื่อถามถึงความชัดเจนในตัวของนายเศรษฐา ทวีสิน ต่อพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้นายเศรษฐา ก็เป็นสมาชิกพรรค ถ้าจะมาช่วยหาเสียงก็ถูกต้องตามกฎหมาย แต่วันนี้นายเศรษฐาไม่ได้แพลนร่วมลงพื้นที่ด้วยกัน
 

ถามว่า หลังจากนี้มีโอกาสที่นายเศรษฐา จะร่วมลงพื้นที่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มีโอกาสแน่นอน ทุกคนมีเป็นสมาชิกพรรค สามารถมาช่วยหาเสียงได้ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งพรรค ขอคำปรึกษานายเศรษฐาอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้วทั้งเรื่องของนโยบายและเศรษฐกิจ นายเศรษฐา เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ และยังปรึกษานักวิชาการ รวมทั้งคนที่มีความรู้ต่างๆ มากมาย เพื่อทำนโยบายของพรรค ให้ตอบโจทย์พี่น้องประชาชน

เมื่อถามว่า นายเศรษฐา จะเป็นหนึ่งแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องรอก่อนว่าจะเป็นอย่างไร นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ก็พูดแล้วว่ามีอยู่แถวๆ นี้อีกหนึ่งคน ถามว่า ที่บอกว่าอยู่แถวๆ นี้ คือน.ส.แพทองธาร ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร หัวเราะพร้อมกล่าวว่า ก็ไม่ทราบ และเป็นใครก็ไม่ทราบเหมือนกัน
 

เมื่อถามอีกว่า น.ส.แพทองธาร มีความพร้อมแล้วหรือยังที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “อิ๊งค์ พร้อมนะคะ เพราะอิ๊งค์รู้สึกว่าเราลงมาจุดนี้ อยากให้พรรคแลนด์สไลด์เพื่ออะไร เพื่อนำนโยบายต่างๆ ที่สัญญากับประชาชนทุกจังหวัดผลักดันให้เกิดขึ้นจริงๆ ให้ได้ คือสิ่งที่อิ๊งค์คิด แต่แน่นอนว่าเป้าหมายของอิ๊งค์ คือนโยบายที่ผลักดันให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าสุดท้ายแล้วพรรคมีคนที่เหมาะสมกว่า อิ๊งค์ก็พร้อมเหมือนกัน”

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค กล่าวว่า รายชื่อแคนดิเดตนายกฯอยู่ในขั้นตอนการหารือของคณะกรรมการบริหารพรรค ส่วนจะเป็นเดือนก.พ.หรือไม่นั้น ต้องดูสถานการณ์การเมืองประกอบด้วย วันที่ 7 ก.พ.นี้ จะเป็นวันสุดท้ายที่ส.ส.จะย้ายพรรค ส่งผลให้สภาฯมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมและมีโอกาสยุบสภาฯได้