"พิเชษฐ์" เผย"สภาฯ" เตรียมถกรายงานคาสิโนครบวงจร พรุ่งนี้

"พิเชษฐ์" เผย"สภาฯ" เตรียมถกรายงานคาสิโนครบวงจร พรุ่งนี้

"พิเชษฐ์" เตรียมเสนอรายงาน หนุนทำคาสิโนถูกกฎหมาย ให้สภาฯ พิจารณาพรุ่งนี้ เผยวางกฎคุมเข้มงวด คนไทยเล่นได้ อายุ 20ปีขึ้นไป มีเงินหมุนเวียนบัญชี5แสน

             นายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ฐานะรองประธานกมธ.วิสามัญพิจารณาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ในวันที่ 12มกราคม  สภาฯจะพิจารณารายงานการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร ตามที่กมธ.เสนอรายงาน โดยผลการศึกษาได้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งในควบคุม  โดยเฉพาะคนไทย ต้องมีอายุ 20ปีขึ้นไป ต้องมีเงินหมุนเวียนในบัญชีไม่ต่ำกว่า 5แสนบาท รวมถึงมีกองทุนเยียวยากรณีคนเสพติดการพนันด้สน

 

         ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงความคืบหน้าการพิจารณาศึกษาการสร้างสถานบันเทิงแบบครบวงจร(Entertainment Complex) ที่จะมีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย เพื่อหารายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจจากสถานการณ์เชื้อโควิด-19 ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้ตั้งคณะวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร การจัดเก็บรายได้ และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมาย และมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร มาศึกษาความเป็นไปได้เรื่องดังกล่าว ตั้งแต่ปลายปี2564 ขณะนี้กมธ.ได้รวบรวมศึกษาข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีข้อเสนอให้ก่อสร้างสถานบันเทิงแบบครบวงจรในประเทศไทย โดยมีบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายรวมอยู่ด้วย เตรียมนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในวันที่ 12ม.ค.นี้ หากสภาฯให้ความเห็นชอบจะส่งเรื่องให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป

     
            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายงานของกมธ.สนับสนุนการตั้งสถานบันเทิงแบบครบวงจร  โดยมีการตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการสถาน บันเทิงแบบมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

        รายงานยังระบุด้วยว่า การลงทุนก่อสร้างควรมีขนาดใหญ่กว่าประเทศสิงคโปร์ ให้เป็นการลงทุนร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ยึดถือแนวทางการบริหารจัดการแบบเขตบริหารพิเศษมาเก๊า และประเทศสิงคโปร์ สถานที่ก่อสร้างเสนอไว้ 3พื้นที่ได้แก่ 1.กทม.และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ในรัศมีไม่เกิน 100กิโลเมตร จากสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา 2.จังหวัดท่องเที่ยวหลัก 22จังหวัด 3.จังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง หากเป็นภาคใต้ควรสร้างที่จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ ภาคเหนือเช่น จ.เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น อุดรธานี ขอนแก่น อุบลราชธานี หนองคาย 



          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กมธ.ได้ทำโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชน โดยวิทยาลัยการเมือง การปกครอง มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา พบว่า ประชาชน 80.67%  สนับสนุนให้เปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจรในประเทศไทย และ36.38% สนับสนุนให้มีกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย โดย 56.13%เห็นว่ากทม.และจังหวัดอีอีซีเป็นพื้นที่เหมาะสมที่สุดสร้างสถานบันเทิงครบวงจร

        "ในส่วนบ่อนกาสิโนถูกกฎหมาย กมธ.เสนอให้มีการพนันทั้งในรูปแบบออฟไลน์ และออนไลน์ ในรูปแบบการพนันออนไลน์เสนอให้มีการพนันกีฬาออนไลน์ 8รูปแบบได้แก่ 1.กาสิโนออนไลน์ที่เป็นเกมพนันรูปแบบต่างๆ 2.การพนันที่ใช้การขึ้นลงของตลาดหุ้น สกุลเงิน 3.พนันกีฬาออนไลน์ เช่น กีฬาสากล กีฬาพื้นบ้าน แข่งม้า 4.การพนันอิงเหตุการณ์จริง เช่น ผลการเลือกตั้ง 5.บิงโกออนไลน์ 6.การเสี่ยงโชคออนไลน์ ผลการออกสลากกินแบ่งทั้งไทยและต่างประเทศ 7.เว็บไซด์เกมที่ต้องใช้ทักษะ เช่น เกมต่อสู้ออนไลน์ E-Sport 8.เว็บไซด์ เพื่อการฝึกฝน เช่น เกมบาคาร่า เกมม้าแข่งที่ใช้เหรียญของเกม(Token)แทงพนัน อาจต้องเติมเงินหรือให้ฟรี เมื่อมีความชำนาญจึงไปเล่นกาสิโนออนไลน์ต่อไป" รายงานของกมธ.ระบุ


     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวทางการจัดตั้งกาสิโนถูกกฎหมายนั้น กมธ.เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำร่างพ.ร.บ.อนุญาตให้การพนัน ออนไลน์หรือธุรกิจ Gaming ดำเนินการได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และให้กระทรวงมหาดไทยแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 บังคับใช้ครอบคลุมถึงการควบคุมพนันออนไลน์ และวางบทกำหนดโทษ ที่เหมาะสม ตลอดจนกำหนดอัตราการจัดเก็บรายได้และภาษี  ส่วนเงื่อนไขการเข้าไปใช้บริการกาสิโนถูกกฎหมายนั้น จะเปิดให้ทั้งชาวต่างประเทศและคนไทยเข้าใช้บริการ แต่ถ้าเป็นคนไทยต้องแสดงบัตรประชาชน มีอายุ 21ปีขึ้นไป ต้องแสดงสถานะการเงินย้อนหลัง 6เดือน มีเงินหมุนเวียนในบัญชีไม่ต่ำกว่า 5แสนบาท และจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการเข้าไปใช้บริการ