ผ่าขุมธุรกิจ-หุ้น “เสี่ยจั๊บ สุทัศน์” ครหานายทุนพรรค ก่อนซิ่งชนยับ

ผ่าขุมธุรกิจ-หุ้น “เสี่ยจั๊บ สุทัศน์” ครหานายทุนพรรค ก่อนซิ่งชนยับ

ผ่าขุมข่ายธุรกิจ-พอร์ตหุ้นหลักร้อยล้านบาท “เสี่ยจั๊บ” สุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ เคยถูกกล่าวหาเป็น“นายทุน” พรรคเศรษฐกิจใหม่ รุ่นน้อง ร.ร.วัดนวลวรดิศ “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” ก่อนปมร้อนล่าสุดขับรถหรู “เบนท์ลีย์” ซิ่งชนเกิดอุบัติเหตุ 3 คันรวด

กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนดราม่าสนั่นสังคม ปมรถหรู “เบนท์ลีย์” เกิดอุบัติเหตุชนกันบนทางด่วนถึง 3 คัน โดยหลังเกิดเหตุเจ้าของรถพยายามหลบหนีจากที่เกิดเหตุ

ต่อมาพบว่า บุคคลที่เป็นเจ้าของรถเบนท์ลีย์ ซึ่งปรากฏอยู่ในคลิปวีดีโอที่มีการแชร์กันบนโลกออนไลน์ คือ “สุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์” หรือในแวดวงธุรกิจการเมืองรู้จักกันในชื่อ “เสี่ยจั๊บ” ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกข้อครหาว่าเป็น “นายทุนพรรคเศรษฐกิจใหม่ ในยุค “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” ยังเป็นหัวหน้าพรรค

โด่งดังถึงขนาดหลังเลือกตั้งปี 2562 ไม่นาน บรรดาสมาชิกพรรคเศรษฐกิจใหม่ขณะนั้น ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าเป็นนายทุนพรรค และมีบทบาทในการครอบงำการบริหารจัดการภายในพรรค โดยมีการอ้างว่า แม้แต่ “มิ่งขวัญ” ยังให้ความเกรงอกเกรงใจ

ประวัติส่วนตัว “สุทัศน์” อายุปัจจุบัน 52 ปี จบการศึกษาโรงเรียนวัดนวลวรดิศ ในฐานะ “รุ่นน้อง” ของ “มิ่งขวัญ” ต่อมาจบปริญญาตรีจากคณะบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ นอกจากนี้นายสุทัศน์ ยังเป็นน้องชาย "มนูญ สิวาภิรมย์รัตน์" ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 5 หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่คนปัจจุบัน ที่ขณะนี้พลิกไปจับขั้วกับพรรคฝ่ายรัฐบาล

มุมธุรกิจ เจ้าตัวเคยเป็นกรรมการ 7 บริษัท แต่ปัจจุบันเป็นกรรมการเพียง 1 แห่ง ซึ่งถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่า “ร้าง” ไปแล้ว คือ บริษัท ทัช มี ฟู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด ประกอบธุรกิจผลิต จำหน่าย อาหารสำเร็จรูป จดทะเบียนเมื่อ 14 ก.ค. 2558 ทุน 1 ล้านบาท นายสุทัศน์ถือหุ้นใหญ่สุด 65% ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่าร้าง เมื่อ 4 ส.ค. 2563

แต่จากการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2566 พบว่า “เสี่ยจั๊บ สุทัศน์” ปัจจุบันยังถือหุ้นในบริษัทต่าง ๆ อย่างน้อย 5 แห่ง ได้แก่

บริษัท ไทยวัฒนา แอสเซ็ท จำกัด ทำธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองที่ไม่ใช่เพื่อเป็นที่พักอาศัย นายสุทัศน์ ถือหุ้น 5.7143% แต่มีบริษัทในเครือข่ายอย่าง บริษัท ฟิวเจอร์วัน อินเตอร์เทรด จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 57.1429% และบริษัท เอกทวีสิน ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ถือ 21.4286%

บริษัท เอกทวีสิน ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ทำธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ อาคารสำนักงาน มีบริษัท หทัยราษฎร์ คอมเพล็กซ์ จำกัด ของนายสุทัศน์ถือหุ้นใหญ่สุด 80% และมีนายสุทัศน์ ถือหุ้นย่อยลงมาอีก 12.5%

บริษัท หทัยราษฎร์ คอมเพล็กซ์ จำกัด ทำธุรกิจให้บริการตลาดสด ให้ที่เช่าค้าขายและค้าอสังหาริมทรัพย์ นายสุทัศน์ ถือหุ้นใหญ่สุด 99.4545%

บริษัท เบเนฟิท ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ทำธุรกิจขายปลีกวัสดุก่อสร้างอื่นๆ นายสุทัศน์ถือหุ้นใหญ่สุด 98%

บริษัท แมกซ์ เทรด จำกัด ทำธุรกิจขายปลีกวัสดุก่อสร้างอื่นๆ มีนายสุทัศน์ ถือหุ้นใหญ่สุด 80%

ขณะเดียวกันมี 2 ตัวละครที่เข้าไปมีบทบาทเป็นกรรมการบริษัทในเครือข่ายธุรกิจของ “เสี่ยจั๊บ” ได้แก่

1.นายสุนทร ดีสุวรรณ เป็นกรรมการอย่างน้อย 24 บริษัท (เท่าที่ตรวจสอบพบ)

2.นายสุรศักดิ์ นาคดิลก เป็นกรรมการอย่างน้อย 8 บริษัท (เท่าที่ตรวจสอบพบ)

มีอย่างน้อย 3 แห่งที่ปรากฏชื่อคนสกุล “สิวาภิรมย์รัตน์” เข้าไปถือหุ้น ได้แก่ บริษัท เดอะ คริสตัล ป่าตอง จำกัด ทำธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง เพื่อการพักอาศัย ปรากฏชื่อ น.ส.ภาณีนุช สิวาภิรมย์รัตน์ ถือหุ้นใหญ่สุด 74% นายสุรศักดิ์ ถือรองลงมา 16%

บริษัท เอส.เอส.พี เอเซีย จำกัด ทำธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง เพื่อการพักอาศัย มี น.ส.ภาณีนุช สิวาภิรมย์รัตน์ ถือหุ้นใหญ่สุด 51% นายสุรศักดิ์ถือ 48%

บริษัท แพลตินั่ม แอสเซ็ท จำกัด ทำธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเอง เพื่อการพักอาศัย มี น.ส.ภาณีนุช สิวาภิรมย์รัตน์ ถือหุ้นใหญ่สุด 54.9571% นายสุรศักดิ์ถือ 45%

สำหรับ น.ส.ภาณีนุช สิวาภิรมย์รัตน์ ปรากฏชื่อเป็นกรรมการ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ธนนันท์ แอสเสท จำกัด ทำธุรกิจการซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองที่ไม่ใช่เพื่อเป็นที่พักอาศัย และบริษัท เดอะ สกาย ป่าตอง จำกัด ทำธุรกิจกิจการซื้อ ขายที่ดิน หรือจัดซื้อที่ดินแปลงใหญ่และนำมาจัดสรรแบ่งเป็นแปลงย่อยๆเพื่อขาย ทำการค้า หรือจำหน่ายโดยวิธีอื่นใด

ขณะเดียวกันมีสกุล “สิวาภิรมย์รัตน์” คนอื่น ๆ ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 14 แห่ง รวมทุนจดทะเบียนในบริษัทต่าง ๆ ข้างต้นนับร้อยล้านบาท

นี่คือข้อมูลฐานทุนเครือข่ายธุรกิจ “เสี่ยจั๊บ สุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์” รุ่นน้อง “มิ่งขวัญ” ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกร้องเรียน กล่าวหาว่าเป็น “นายทุนพรรค” 

ทว่า จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการเผยแพร่ผลการตรวจสอบจาก กกต.ว่า ข้อเท็จจริงเหล่านี้ อัพเดตคืบหน้าถึงไหนแล้ว

ส่วนข้อเท็จจริงกรณีขับรถชน ที่กำลังถูกสังคมจับจ้องถึงพฤติกรรม ที่เจ้าตัวพยายามออกจากที่เกิดเหตุ และปฏิเสธเป่าแอลกอฮอล์ แต่ขอไปตรวจเลือดภายหลัง 

ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่า ประเด็นร้อนนี้ จะซ้ำรอยคดีดัง “บอส อยู่วิทยา”หรือไม่ และจะส่งผลต่อธุรกิจการเมืองเบื้องหน้าเบื้องหลังของ “เสี่ยจั๊บ” อย่างไร