"อนุทิน" กางสูตร250เสียงตั้งรัฐบาล ดักคอส.ว.โหวตนายกฯ ยึดเสียงประชาชน

"อนุทิน" กางสูตร250เสียงตั้งรัฐบาล ดักคอส.ว.โหวตนายกฯ ยึดเสียงประชาชน

"อนุทิน" กางสูตรรวบรวมเสียง "250เสียงส.ส." จับมือตั้งรัฐบาล ดักคอส.ว.โหวตนายกฯ ยึดเสียงข้างมาก-ความต้องการประชาชน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงเสถียรภาพรัฐบาลใหม่ หลังการเลือกตั้งปีหน้าควรเป็นอย่างไรในขณะที่ ส.ว.ยังมีส่วนในการเลือกตั้งนายกฯอยู่ว่า แม้ส.ว.ยังมีส่วนในช่วงขั้นตอนเลือกนายกรัฐมนตรีหากได้นายกฯมา แล้ว   หลังจากนั้นการดำเนินการใดๆในสภาฯ จะเป็นเรื่องของรัฐบาล  โดยตัว นายกฯ กับ สภาผู้แทนราษฎร 

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญคือหลักการนั้นจะอยู่กับจำนวนส.ส. ที่แต่ละพรรคการเมืองรวบรวมได้ว่าจะเกินกึ่งหนึ่ง หรือจำนวน251 เสียงจาก 500 เสียง ได้หรือไม่ ซึ่งเราต้องเชื่อการตัดสินใจของประชาชน ต้องให้เกียรติประชาชนเป็นสำคัญ และมองว่าในระบอบประชาธิปไตย มันก็เป็นหลักการที่แฟร์ๆกับประชาธิปไตยรัฐบาลต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งถึงจะเป็นรัฐบาล และทำงานได้และมั่นคง เพราะถ้าไม่เกินกึ่งหนึ่ง   เมื่อเปิดสภาแถลงนโยบายหรือหากมีการออกกฎหมายสำคัญ ซึ่งดูแล้วในรัฐบาลชุดหน้าอาจจะมีกฎหมายสำคัญ กฎหมายการเงิน เช่น ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี เข้าสู่การพิจารณาก็ได้ในช่วงเดือน ส.ค. – ก.ย.  ปีหน้า ถ้ารัฐบาลมีเสียงไม่เกินกึ่งหนึ่งก็อาจจะจอดตั้งแต่ตรงนั้นแล้ว ไม่ต้องรอไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

"ผมมั่นใจว่า ส.ว.ก็ต้องมีกระบวนการความคิดว่าเขาจะสนับสนุนใครเป็นนายกฯ  ถ้าความต้องการของประชาชนอย่างชัดเจน เขาคงต้องทำตามความต้องการของประชาชน นี่เป็นหลักที่คนที่เป็นนักการเมืองหรือเกี่ยวข้องกับงานการเมืองต้องยึดถืออยู่แล้ว" นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ยกตัวอย่างในสมัยรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลังการเลือกตั้งปี 2562  ท่านนายกฯเข้ามาด้วยเสียง 253 เสียง ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็ตามท่านมีความชอบธรรม เพราะท่านได้รับเสียงสนับสนุนเกินกึ่งหนึ่ง และรัฐบาลก็อยู่มาได้จนครบสมัย แต่รัฐบาลก็ต้องมีความสามารถในการบริหารบ้านเมืองด้วยจนอยู่พ้นมาได้เกือบ 4 ปีแล้ว