"เสธ.ทร." ปัดมีคำสั่ง ห้าม "ร.ล.สุโขทัย" อับปาง

"เสธ.ทร." ปัดมีคำสั่ง ห้าม "ร.ล.สุโขทัย" อับปาง

กมธ.ทหาร สอบ "ร.ล.สุโขทัย" อับปาง ตั้งคำถาม มีคำสั่งห้ามเรือจม จนเกิดความสูญเสีย ด้าน "เสธฯทร." ยืนยันไม่มีคำสั่งแบบนั้น ด้าน "มงคลกิตติ์" บอก กมธ.ขอร่วมสังเกตการณ์กู้เรือ-ค้นหากำลังพล

          ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร ที่มี นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย รองประธานกมธ. ทำหน้าที่ประธานกมธ. ได้ตรวจสอบกรณีเรือหลวงสุโขัย อับปาง เมื่อ 18 ธันวาคม โดยเชิญตัวแทนของกองทัพเรือ คือ พล.ร.อ. ชลทิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ เข้าชี้แจง

 

 

          ทั้งนี้หลังการประชุม พล.ร.อ.ชลทิศ ให้สัมภาษณ์ ว่า กองทัพเรือยังลาดตระเวนค้นหากำลังพล จำนวน 23 รายที่สูญหาย โดยปฏิบัติการร่วมกับกองทัพอากาศ ตำรวจ กรมเจ้าท่า ทั้งนี้ยืนยันว่ากำลังพลทุกคน คือครอบครัว ดังนั้นการค้นหาจะทำอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนกรณีที่คาดการณ์ว่าอาจมีผู้สูญหายติดในเรือนั้น ยอมรับว่าขณะที่เรือจมอาจมีพลังดูดของน้ำ แต่ขณะนี้ได้ส่งยานสำรวจจุดเรืออับปาง และเรือไปดำเนินการกู้เรือในพื้นที่แล้ว เป็นเรือลาดทำลายทุ่นระเบิด และจะได้ส่งยานลงไปสำรวจ ความเสียหายเพื่อวิเคราะห์แผนการกู้เรือขึ้นมา พร้อมกันนี้ก็จะได้สำรวจในส่วนของกำลังพล ที่อาจจะติดค้าง ถูกเกี่ยวกับวงเรือใต้น้ำด้วย

          พล.ร.อ.ชลทิศ กล่าวถึงแผนการแบ่งพื้นที่ค้นหานับจากจุดที่เรือจม  มีพื้นที่ 20 ไมล์ทะเล และปัจจุบันทิศทางของกระแสลมกระแสน้ำไหลลงมาทางทิศใต้ มีลมพัดเข้าสู่แผ่นดิน โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นบางสะพานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และปัจจุบันลมต่ำลงมาเลยอำเภอประทิว และมีการแบ่งพื้นที่เซ็นเตอร์ในการค้นหาออกมา 15 เซตเตอร์ โดยใช้อากาศยานเป็นเครื่องมือหลักในการลาดตระเวนเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว และใช้เรือเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งได้พบสิ่งของจากเรือสุโขทัย รวมถึงสิ่งของจากเรื่องอื่นที่ประสบเหตุลอยมา เพื่อพิสูจน์ว่าทิศทางการลอยของผู้ประสบภัยมาถูกทิศทาง 

 

 

          "การหาข้อเท็จจริงนั้น ทางกองทัพเองต้องทำความจริงให้ปรากฏ ถึงสาเหตุที่เรือจม ส่วนตัวรับราชการเป็นทหารเรือมา 36 ปี ไม่เคยพบประวัติเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ซึ่งกองทัพเรือต้องการที่ จะหาสาเหตุเพื่อหาแนวทางแก้ไขป้องกัน ย้ำว่ากองทัพเรือเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียใจกับครอบครัวและเสียใจกับประชาชน” พล.ร.อ.ชลทิศ กล่าว

 

          เมื่อถามถึงกรณีที่ถูกตั้งคำถามว่ามีคำสั่งห้ามเรือจม ทำให้เกิดความสูญเสีย พล.ร.อ.ชลทิศ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง และในชั้นนี้กองทัพเรือจะเสนอข้อเท็จจริงเท่านั้น ส่วนกรณีความเห็นจะไม่ขอนำเสนอ ส่วนที่มีข่าวเล่าว่ามีน้ำมากเข้าหัวเรือและท้ายเรือ รวมถึงข้างเรือ กองทัพเรือจะต้องดำเนินการสอบสวน และนำข้อเท็จจริงมานำเสนอ 

          ขณะที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร แถลงภายหลังการประชุม ว่า สัปดาห์หน้า กมธ. พร้อมนัดประชุมต่อเพื่อตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้นในส่วนของความคืบหน้า อย่างไรก็ดีเสนาธิการทหารเรือที่มาชี้แจง ย้ำถึงปฏิบัติการกู้เรือที่สามารถทำได้ 100% แต่ต้องให้เรือเอกชนร่วมดำเนินการเพราะเรือหลวงสุโขทัยมีน้ำหนักตัวเรือ 960 ตันและยังมีน้ำหนักของน้ำอีก ทั้งนี้ กมธ. ได้ขอเข้าร่วมสังเกตการณ์ขั้นตอนการกู้เรือรวมถึงการค้นหากำลังพลที่สูญหาย แต่ขณะนี้ยังรอการตอบรับจากกองทัพเรือ ส่วนการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตนั้นเสนาธิการกองทัพเรือ บอกว่า จะพยายามค้นหาให้ถึงที่สุด แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปอาจมีโอกาสน้อยที่จะรอดชีวิต 

 

          “กมธ. ได้ขอข้อมูลเพื่อตรวจสอบ ทั้งบันทึกบนเรือ ชูชีพ และการซ่อมบำรุงเครื่องยนตร์ตัวถัง เพราะมีประเด็นว่าน้ำอาจเข้าด้านใต้ท้องเรือร่วมด้วยหรือไม่  แต่กรณีดังกล่าวต้องกู้เรือให้ได้ก่อน อย่าง ไรก็ดีกมธ. ได้เสนอแนะให้กองทัพเรือปรับปรุงแผนการซ้อมเอาตัวรอด แผนเผชิญเหตุกรณีเรืออับปาง ใกล้อับปาง รวมถึงถอดบทเรียนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย”  นายมงคลกิตติ์ กล่าว.