“ก้าวไกล” ชี้ ป.ป.ช.ไม่แจ้งข้อหา “ไตรรงค์” คดีมันเส้น ส่อซ้ำรอย GT200 ฉาว

“ก้าวไกล” ชี้ ป.ป.ช.ไม่แจ้งข้อหา “ไตรรงค์” คดีมันเส้น ส่อซ้ำรอย GT200 ฉาว

“จิรัฎฐ์ ก้าวไกล” ชี้มติ ป.ป.ช.ไม่แจ้งข้อกล่าวหา “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” คดีมันจีทูจี ส่อซ้ำรอยคดี GT200 ท้าเปิดสำนวนไต่สวน ถ้าบริสุทธิ์ใจ

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2565 ที่รัฐสภา นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล แถลงข่าวกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติ 5 ต่อ 2 ไม่แจ้งข้อกล่าวหานายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง ในคดีซื้อขายมันสำปะหลังแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยอ้างว่าไม่มีหลักฐานว่าไตรรงค์เป็นผู้รับรู้รับทราบในกระบวนการทุจริต ว่า ขอตั้งข้อสงสัยว่านายไตรรงค์ในฐานะประธานกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจ จะไม่รับรู้รับทราบการทำสัญญาซื้อขายที่เกิดความเสียหายได้อย่างไร และเหตุใด ป.ป.ช. จึงรีบตัดความเป็นไปได้นี้ออกไป ทั้ง ๆ ที่เป็นปัจจัยและบางช่วงบางตอนของข้อมูลหลักฐาน ของพฤติการณ์ที่นำไปสู่ความเสียหาย

“เป็นที่น่าสังเกตว่าการที่ไตรรงค์รอดจากการถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวหาและไต่สวนคดีมันเส้นครั้งนี้ เป็นเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพิ่งจะลงนามในคำสั่งแต่งตั้งให้ไตรรงค์เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ใช่หรือไม่” นายจิรัฏฐ์ กล่าว

นายจิรัฏฐ์ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้กำลังจะเดินซ้ำรอยกับกรณี GT200 ที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานและตัดรายชื่อผู้ต้องสงสัยที่เหลือออกดื้อๆ ทั้งที่ตามเอกสารหลักฐานการซื้อขาย ปรากฏลายมือลงนามโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เป็นผู้ลงนามรับหลักการและสั่งซื้อชัดเจน โดยกรณีของ GT200 เป็นที่ชัดเจนว่า ป.ป.ช. ทำคดีแบบเลือกปฏิบัติและมีเจตนาละเว้นการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ และแม้กระทั่งอัยการสูงสุด (อสส.) ยังต้องแย้งกลับในสำนวน ว่าเหตุใด ป.ป.ช. จึงไม่กล่าวหาผู้อนุมัติสั่งซื้อ ทำให้เป็นที่น่ากังวลว่า ป.ป.ช. กำลังจะดำเนินการซ้ำรอยแบบเดิมในคดีมันเส้นนี้ด้วยหรือไม่

นายจิรัฏฐ์ กล่าวด้วยว่า ป.ป.ช. จะต้องเปิดเผยสำนวนการพิจารณา และสำนวนการไต่สวนชั้นต้นของอนุกรรมการ ป.ป.ช. ให้สังคมรับทราบ เพื่อยืนยันว่ามติที่ไม่กล่าวหาไตรรงค์ กับนางพรทิวา นาคาศัย เพราะทั้ง 2 คนไม่รับรู้รับทราบสัญญาการซื้อขายมันเส้นจริง ๆ อีกทั้งเรื่องนี้ไม่ไช่ความลับและไม่ส่งผลกระทบต่อรูปคดี สามารถเปิดเผยได้ และควรต้องทำเพื่อยืนยันว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นเป็นไปโดยชอบแล้ว

“การตัดผู้มีส่วนรับผิดชอบออกดื้อๆ แบบนี้ ทำให้ประชาชนที่ตั้งคำถามกับการทำงานของ ป.ป.ช. แต่เดิมอยู่แล้ว ยิ่งสงสัยในเจตนาของ ป.ป.ช. มากขึ้น และเราต้องไม่ลืมว่า ป.ป.ช. มีที่มาจากไหน ส.ว. ที่แต่งตั้ง ป.ป.ช. มีที่มาจากไหน หาก ป.ป.ช. บริสุทธ์ใจจริง ควรจะต้องเปิดเผยข้อมูลออกมา” นายจิรัฏฐ์ กล่าว

นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเห็นว่านี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าองค์กรอิสระ โดยเฉพาะ ป.ป.ช. จะต้องถูกปฏิรูป ซึ่งพรรคก้าวไกลเคยเสนอเป็นนโยบายเอาไว้แล้ว ว่าในอนาคตกระบวนการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 9 คน จะต้องยึดโยงกับประชาชนและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย โดยผ่านการเสนอชื่อจากทั้งผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาล ผู้แทนราษฎรฝ่ายค้าน และจากที่ประชุมศาล และต้องผ่านการรับรองจากเสียง 2 ใน 3 ของสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงเพิ่มกลไกในรัฐธรรมนูญ ให้ประชาชนริเริ่มกระบวนการถอดถอน ป.ป.ช. ได้ ผ่านการเข้าชื่อ 20,000 รายชื่อ เพื่อเพิ่มความมั่นใจว่า ป.ป.ช. จะทำงานอย่างเข้มข้นในการตรวจสอบทุกรัฐบาล ทุกหน่วยงานทุกบุคคลอย่างไร้ข้อยกเว้น