"เอกนัฏ"จ่อตั้งคณะทำงานพื้นที่เปิดช่อง"บิ๊กเนม"คัดผู้สมัคร ส.ส. รทสช.

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงการได้รับมอบหมายจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครทสช. ให้เตรียมความพร้อมการปรับโครงสร้างพรรคใหม่ เพื่อรองรับการเข้ามาของ กลุ่มส.ส.และนักการเมือง จากพรรคการเมืองอื่นว่า ขณะนี้พรรครทสช.กำลังเติบโต ซึ่งจะมีนักการเมืองและคนนอกวงการการเมืองมาร่วมงานจำนวนมาก โดยเฉพาะนักการเมืองที่จะเข้ามาจากหลายพรรค อาทิ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นต้น

“พรรครทสช.เราเปิดกว้างต้อนรับทุกคนที่มีอุดมการณ์ตรงกัน หลอมรวมความหลากหลายเพื่อขับเคลื่อนประเทศให้เดินไปข้างหน้าพร้อมกัน  ทำการเมืองอย่างสุจริต สู้กับปัญหาของประชาชน และยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ หากใครที่มีแนวคิดทางการเมืองอยู่ในทิศทางเดียวกัน เรายินดีต้อนรับทุกคน” นายเอกนัฏ กล่าว

สำหรับโครงสร้างพรรครทสช. หลักๆจะแบ่งการทำงานเป็น 2 ส่วน 1.จะเป็นงานส่วนกลาง ซึ่งจะเกี่ยวกับการวางยุทธศาสตร์ การกำหนดนโยบาย การสื่อสาร และงานธุรการต่างๆ ส่วนนี้จะมีกรรมการบริหารรับผิดชอบ แต่จะดึงมืออาชีพจากวงการต่างๆที่เกี่ยวข้องเข้ามาเสริม 
 

2.เป็นงานระดับพื้นที่ เกี่ยวกับการคัดสรรค์และประสานงานกับผู้สมัคร ส.ส. และเครือข่ายผู้สนับสนุน ตนกำลังจะแบ่งโซนพื้นที่ให้ละเอียดมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ละโซนจะมีคณะทำงานชุดเล็กมาร่วมรับผิดชอบงานในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งจะเปิดให้นักการเมืองระดับบิ๊กเนม รัฐมนตรี ส.ส. นายกอบจ. ทั้งที่มีอยู่เดิมและที่จะเข้ามาใหม่ในแต่ละพื้นที่ เข้ามาร่วมงาน เบื่องต้นคณะทำงานดังกล่าว จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาที่ยังมีลักษณะเป็นพื้นที่ทับซ้อน มีผู้สมัครมากกว่า 1 คน ซึ่งจะต้องมีกระบวนการคัดกรองผู้สมัครส.ส.ที่ดีที่สุดในสายตาของประชาชนเป็นเกณฑ์หลัก

“ผมจะเปิดพื้นที่ให้แกนนำที่จะเข้ามาร่วมงานกับพรรครทสช.ทุกคนมีบทบาท มีพื้นที่การทำงานชัดเจน นำประสบการณ์มาบริหารจัดการงานส่วนกลางและงานในพื้นที่อย่างมีอิสระและมีระบบในการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ก็ต้องอาศัยหลักวิทยาศาสตร์ มีการเก็บข้อมูล มีกลไกการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ ไม่ใช้ความรู้สึกส่วนตัวคิดเอาเอง ซึ่งในหลายพื้นที่ก็ได้เริ่มการดำเนินการไปแล้ว” 
 

ทั้งนี้ตนยืนยันว่าการคัดเลือกผู้สมัครส.ส. จะไม่มีการเล่นพรรคเล่นพวก ขอให้คนที่เข้ามาร่วมงานพรรครทสช.สบายใจได้เลย การทำงานจะต้องมีระบบ มีมาตรฐาน ให้โอกาสคนดีมีฝีมือ ไม่อิงกับความสัมพันธ์ส่วนตัว ไม่อิงกับพรรคต้นสังกัด พิจารณาตามความเหมาะสม วัดกันที่ผลงานเท่านั้น

“ผมและคณะทำงานระดับพื้นที่ จะช่วยกันคัดสรรค์ผู้สมัคร ส.ส. ที่จะเป็นตัวแทนของพรรครทสช. ตามความเหมาะสม ไม่ใช้ความรู้สึกส่วนตัว ต้องตอบโจทย์ของประชาชนและประเทศเป็นหลัก การบริหารคนและบริหารพรรครทสช. ให้เติบโตก้าวหน้าสู้การเป็นสถาบันการเมือง จะต้องหลอมรวมความแตกต่างความหลายให้ได้ อาศัยความร่วมมือ ความสามัคคีของทุกคน สไตล์การทำงานของผม ไม่ชอบจมอยู่กับความขัดแย้ง คนทำงานต้องมีขวัญกำลังใจ พรรครทสช.จะเป็นครอบครัวที่อบอุ่น สำหรับนักการเมืองที่มีอุดมการเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นคนเดิมหรือคนใหม่ มาจากไหนก็ตาม”