"เพื่อไทย" ข้องใจ ร่างกม.กัญชา เขียนคำนิยาม เหมือนเอาคุกไปให้ประชาชน

"เพื่อไทย" ข้องใจ ร่างกม.กัญชา เขียนคำนิยาม เหมือนเอาคุกไปให้ประชาชน

"ส.ส.เพื่อไทย" อัด ร่างกม.กัญชา ปมคำนิยาม เขียนคล้ายกับเอาคุกไปให้ประชาชน ข้องใจ กมธ.เพิ่มจำนวนปลูกกัญชา ให้ครัวเรือนได้ 15 ต้น

         ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภาฯ ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ... วาระสอง ต่อเนื่อง ในมาตรา 3  ที่กำหนดให้กัญชา และกัญชง ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษ ซึ่งเป็นการลงมติของที่ประชุมว่าจะเห็นด้วย ที่กมธ. ตัดออกทั้งมาตราหรือไม่ โดยมติของที่ประชุม 201เสียงเห็นด้วย ไม่มีผู้ไม่เห็นด้วย และมีผู้งดออกเสียง 31 เสียง 

 

 

            จากนั้นได้พิจารณา ต่อเนื่องในมาตรา 4  ว่าด้วยการกำหนดคำนิยามในความหมายของคำต่างๆ ซึ่ง กมธ. ได้แก้ไขเนื้อหา โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ อาทิ คำนิยามของคำว่า ผลิต กมธ. ได้ตัดคำว่า เพาะ ปลูก สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ออกจากคำนิยาม ทำให้เหลือเพียง การทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ สกัด เปลี่ยนรูป รวมถึงการแบ่งบรรจุ และรวมถึงการใช้เพื่อประโยชน์ในครัวเรือ ประกอบอาหาร และเพื่อใช้ปะโยชน์จากราก ลำต้น หรือ เส้นใย  และได้เพิ่มคำว่า สื่อสารการตลาด  ที่ให้หมายรวมถึง การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สร้างข่าว เผยแพร่ข่าวสาร ส่งเสริมการขาย การแสดง หรือการส่งเสริมการขายโดยใช้บุคคล เป็นการเฉพาะ หรือการตลาดในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อขายสินค้า บริการหรือสร้างภาพลักษณ์

 

 

            ทั้งนี้ในการอภิปรายของส.ส. ส่วนใหญ่พบว่าท้วงติงต่อการแก้ไขของกรรมาธิการฯ เนื่องจากมองว่าการเขียนคำนิยามตามที่กมธ. กำหนดนั้นเท่ากับการเปิดช่องให้เกิดการใช้กัญชาเพื่อนันทนาการแบบเต็มรูปแบบ อีกทั้งการตัดการผลิต ในส่วนของ การเพาะ ปลูก ออกอาจจะมีผลกระทบต่อประชาชน รวมถึงการกำหนดนิยามการขาย ที่กำหนดให้รวมถึง จำหน่าย จ่าย  แจก หรือแลกเปลี่ยนนั้น อาจทำให้ประชาชนต้องติดคุกได้ 

 

 

            โดยนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า พรรคภูมิใจไทย หาเสียงว่าให้ครัวเรือนปลูกได้  6 ต้น แต่ในร่างกฎหมายขยายเป็น 15 ต้นพร้อมกำหนดนิยามของการขายไว้ว่า จำหน่าย จ่าย แจก หรือ แลกเปลี่ยน เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือให้โดยมีสิ่งตอบแทนหรือประโยชน์อย่างอื่นและให้รวมถึงการมีไว้เพื่อขาย เท่ากับเอาคุกไปให้ชาวบ้าน 

 

            ทางด้านนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ในสมัยรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เด็ก ป.3  ถือแทปเล็ตไปโรงเรียน แต่ปัจจุบัน พบว่าถือบ้องกัญชาไปโรงเรียน ดังนั้นของให้ กมธ.หาทางแก้ไข ขณะเดียวกันวิถีของชาวบ้านที่อยู่บ้านใกล้ มักจะมาขอกัญชาเพื่อไปปรุงอาหารหากกมธ.กำหนดนิยามการขายไว้อาจทำให้ชาวบ้านทำผิดกฎหมายได้ อีกทั้งอาจมีการล่อซื้อกัญชาจากเด็กในพื้นที่และนำขึ้นศาลเตี้ย