ผบ.ทร. สอบกราวรูด "ผู้การเรือ -กำลังพล" ปม เรือหลวงสุโขทัย พ่วง เสื้อชูชีพ

ผบ.ทร. สอบกราวรูด "ผู้การเรือ -กำลังพล" ปม เรือหลวงสุโขทัย พ่วง เสื้อชูชีพ

ผบ.ทร. สอบกราวรูด "ผู้การเรือ - กำลังพล" ปมเรือ เรือหลวงสุโขทัย ล่ม พ่วง เสื้อชูชีพ ไม่พอ พร้อมรายงาน "นายกฯ-คลัง"ตามระเบียบความรับผิดทางละเมิด ยัน ไม่ปกปิด

20 ธันวาคม 2565   พลเรือเอก เชิงชาย  ชมเชิงแพทย์  ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ พลเรือเอก ชลธิศ  นาวานุเคราะห์เสนาธิการทหารเรือ  แถลงข่าวความคืบหน้าเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปางว่า 
พลเรือเอก เชิงชาย  กล่าวว่า ขอเรียนให้ทราบว่ากองทัพเรือสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับกำลังพลของเรือหลวงสุโขทัยที่บาดเจ็บ ในพระบรมราชานุเคราะห์ และ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ 
พระราชทาน ยาและเวชภัณฑ์


"ผมขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้อง กำลังพลในเรือหลวงสุโขทัยที่วันนี้เราได้มีการพบร่างผู้เสียชีวิต จากการปฏิบัติการลาดตระเวนช่วยเหลือ พบ 6 ราย เป็นผู้ประสบภัยที่มีชีวิต 2 รายและเสียชีวิต 4 ราย ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างค้นหาผู้ที่ยังสูญหาย"

พล.ร.อ.เชิงชาย กล่าวต่อว่า กองทัพเรือจะต้องมีการรายงานเหตุการณ์ตามระเบียบเป็นการรายงานด่วนถึงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตามกฎหมาย ซึ่งต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกองทัพเรือมีระเบียบว่าด้วยการป้องกันอุบัติเหตุและความเสียหาย ที่ต้องให้หน่วยที่เป็นผู้บัญชาการของเรือก็คือทัพเรือภาค 1 รายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รายงานความสูญเสียทั้งในเรื่องของกำลังพล ยุทโธปกรณ์ จากนั้นจะมีการรายงานเรื่องของระเบียบความรับผิดทางละเมิด ที่จะต้องรายงานข้อเท็จจริงไปถึงกระทรวงการคลัง และ นายกฯได้รับทราบ

"จะสอบตั้งแต่ ผู้การเรือ ไปจนถึง กำลังพลทุกนาย ถึงเหตุการณ์เกิดขึ้น ขั้นตอนปฏิบัติ "

เพราะฉะนั้นในรายละเอียดที่เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นสาเหตุของเรือจมที่มีการกล่าวว่าเสื้อชูชีพไม่พอกับกำลังพล ต้องถูกสอบสวนและรายงานข้อเท็จจริงทั้งหมดมาที่กองทัพเรือ ขอให้ประชาชนได้รับทราบว่าเรามีกฎหมายแนวทางปฏิบัติที่จะต้องสอบสวนข้อเท็จจริงในทุกเรื่อง รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น รายงานข้อเท็จจริงของเหตุการณ์สูญเสียในบางเรื่องเราสามารถเปิดเผยได้ แต่ในบางเรื่องก็เป็นไปตาม พรบ.ข้อมูลข่าวสาร เปิดเผยไม่ได้ กองทัพเรือไม่ปกปิดข้อมูลใดๆทั้งสิ้นเราจะสอบสวนทางข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงโดยเฉพาะญาติพี่น้องของกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่ได้รับความสูญเสีย  และเข้าใจถึงญาติพี่น้องของกำลังพลที่ยังหาไม่พบ

"ผมจะนำกำลังพลทุกนายกลับบ้านยืนยันว่ากองทัพเรือจากทำทุกอย่างอย่างเต็มความสามารถในการช่วยเหลือกำลังพลทั้งในส่วนที่ปรับตัวมาแล้วและที่ยังค้นหาไม่พบ"

ด้านพล.ร.อ.ชลธิศ  นาวานุเคราะห์  เสนาธิการทหารเรือ   กล่าวด้วยว่า  ขณะที่เรือหลวงสุโขทัยอับปางได้มีการส่งเรือไปช่วยเหลือ และเร่งดำเนินการค้นหากำลังพลทั้ง 30 คนแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าในคืนวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา และเช้าวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา คลื่นลมแรง การช่วยเหลือต่างๆที่ส่งไปเข้าไปถึงยากต่อการช่วยเหลือ  

ทั้งนี้เวลา 15.00 น. ตรวจพบผู้รอดชีวิตลอยห่างจากจุดที่เรือจมประมาณ 60 กิโลเมตร ย้ำว่ากองทัพเรือยังคงดำเนินการค้นหาลูกเรือที่เหลืออยู่ ทั้งนี้สรุปแล้วตอนนี้เราค้นหาพบแล้ว 81 ราย ยังเหลือที่ยังไม่พบอยู่ในน้ำ อีก 24 ราย และผู้ที่พบแล้วมีผู้เสียชีวิต 5 ราย อยู่ระหว่างการนำส่งและพิสูจน์ทราบ ทั้งนี้หลังจากนี้กองทัพเรือร่วมกับกองทัพอากาศจะดำเนินการค้นหากำลังพลลาดอย่างตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน จนกว่าจะพบกำลังพลที่เหลืออีก 24  ราย.

ส่วนกรณีเสื้อชูชีพไม่เพียงพอ เนื่องจากมีกำลังพล นย.และสอ.รฝ. 30 คน ซึ่งไม่ใช่กำลังพลประจำเรือ เดินทางไปกับเรือ เพื่อร่วมภารกิจถวายพระเกียรติ 100 ปีกรมหลวงชุมพร ที่หาดทรายรี จังหวัดชุมพร จึงไม่มีเสื้อชูชีพให้กำลังพลส่วนนี้ และช่วยเหลือได้ 18 คน โดยอยู่ใน 75 คนแรก และยังหาไม่พบ 12 คน และยืนยันว่า การช่วยเหลือเป็นไปตามมาตรการที่ทางเรือกำหนด มีการเกาะเป็นหมู่ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นสภาพฉุกเฉิน และไม่คาดคิด