"สนธิรัตน์" ยัน สร้างอนาคตไทยไม่แตก รับดีล"2สร้าง-ชาติพัฒนากล้า" ไม่ลงตัว

"สนธิรัตน์" ยัน สร้างอนาคตไทยไม่แตก รับดีล"2สร้าง-ชาติพัฒนากล้า" ไม่ลงตัว

"เลขาธิการสร้างอนาคตไทย" ยืนยันสมาชิกย้ายออกแค่ส่วนน้อย-ไม่แพแตก แย้มมีผู้สมัครรอเปิดตัวอีกหลายจังหวัด ยอมรับคุยควบรวม"2สร้าง-ชาติพัฒนากล้า" แต่ยังไม่ลงตัว

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวถึงการลาออกของสมาชิกพรรค โดยยืนยันว่า “แพไม่แตก” ซึ่งผู้สมัคร 90% อยู่กับพรรค ดังนั้น กระแสข่าวที่ออกมานั้น พูดเกินจริง ส่วนเรื่องการย้ายเข้าย้ายออก ถือเป็นเรื่องปกติของพรรคการเมือง แต่ตัวผู้สมัครหลักๆของพรรค ยังคงอยู่เหมือนเดิม ตรงข้ามมีผู้สมัครเข้ามาอีกหลายจังหวัด ซึ่งจะเปิดตัวเร็วๆนี้ อีกหลายจังหวัด

“ผมขอปฏิเสธเรื่องข่าวแพแตกไม่เป็นความจริง และไม่มีกระทบต่อการดำเนินการทางการเมืองกับพรรคใดๆทั้งสิ้น”

นอกจากนี้ กรณีที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ลาออกจากพรรคไปนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย แต่พรรคมีอุดมการณ์ชัดเจน ในการเดินทางทางการเมือง โดยยึดหลักการมากกว่าตัวบุคคล ดังนั้น จึงไม่ก่อเกิดผลกระทบใดๆกับพรรค     

นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวถึงประเด็นการควบรวมพรรคว่า เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองเปิดใจคุยกัน เพื่อความสร้างเสริมความแข็งแกร่งกับสถาบันการเมือง ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการตัดสินใจควบรวมกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น เป็นเพียงการพบปะหารือ

“ไม่ต้องตกอกตกใจกับกระแสการควบรวม เพราะพรรคถือหลักการ ถ้าจะควบรวม หากจะเกิดขึ้น ต้องเป็นการควบรวมที่เรายังคงอุดมการณ์ได้ และเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นแนวทางของพรรค”  

ส่วนระยะเวลาเหมาะสมนายสนธิรัตน์ บอกไว้ว่า ถ้าทุกอย่างมันลงตัวได้ดี เวลาจะทำอะไรก็ตาม ต้องดูผลกระทบทุกจุดและทุกองค์ประกอบของพรรค และทุกพื้นที่ของผู้สมัคร เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ดังนั้น ต้องบริหารเพื่อให้เกิดความลงตัว

สำหรับกระแสข่าวเรื่องการดีลไม่ลงตัวกับพรรคไทยสร้างไทยและหันไปเจรจากับพรรคชาติพัฒนากล้า  ยืนยันว่าไม่จริง และการคุยเป็นการเปิดกว้าง ไม่ได้มีอะไรลงตัวหรือไม่ลงตัวแต่อย่างใด 

 “กระแสข่าวที่ออกมาอาจจะสร้างความสับสนว่าคุยกับไทยสร้างไทยไม่ลงตัว แล้วไปคุยกับชาติพัฒนากล้านั้นไม่จริง การคุยคือการเปิดกว้าง และยังไม่มีการลงตัวใดๆทั้งสิ้น ณ ขณะนี้”

นอกจากนี้ข่าวที่ว่าพรรคชาติพัฒนากล้า หากจะรับ ก็ได้ไม่หมด รวมถึงไม่มีการปรับตำแหน่งหรือชื่อพรรคนั้น ซึ่งยอมรับว่า การรวบพรรคจะมีปัญหาเหล่านี้แน่นอน ระหว่างบุคคลากรทั้ง 2 พรรค ในการปรับเปลี่ยนตำแหน่งต่างๆ ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกฝ่ายก็ต่างรักษาบุคลากรของแต่ละพรรคเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งคิดว่าเรื่องเหล่านี้มันต้องใช้เวลา ในกรณีพรรคใหญ่ทั้งหลาย หรือพรรคที่มีศักยภาพจะรวมตัวกัน จึงไม่ใช่เรื่องง่าย