“วัชระ” เผย “สอท.” เตรียมลงพื้นที่อีสาน พรุ่งนี้! เมินกระแสข่าวลือพรรคฯ ร้าว

“วัชระ” เผย “สอท.” เตรียมลงพื้นที่อีสาน พรุ่งนี้! เมินกระแสข่าวลือพรรคฯ ร้าว

“สนธิรัตน์-วัชระ” ลุย “ขอนแก่น” ถกผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อีสาน เดินหน้าเต็มสูบลุยศึกเลือกตั้ง บอก ข่าวพรรคแตก ก็แค่ข่าวลือ ยัน ไม่ให้ราคา ย้ำ“สร้างอนาคตไทย” มั่นใจปักธงภาคอีสานได้ เป็นทางเลือกใหม่ของคนอีสานอย่างแท้จริง

วันนี้ (17 ธ.ค.65) ที่ศูนย์ประสานงานภาคกลางพรรคสร้างอนาคตไทย เมืองทองธานี นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทยและประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 ธ.ค.65) ตนและนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย จะเดินทางไปจังหวัดขอนแก่น เพื่อประชุมเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งในภาคอีสาน โดยมีผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อีสาน และแกนนำพื้นที่ทุกจังหวัดในภาคอีสานเข้าร่วมมากกว่า 100 คน 

ทั้งนี้ พรรคสร้างอนาคตไทย ยังคงเดินหน้าการเมืองต่อเนื่องตามอุดมการณ์และความตั้งใจของพรรค ที่ต้องการเข้ามาเป็นโอกาสและเป็นพรรคทางเลือกให้พี่น้องชาวอีสานในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องของประชาชนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งทั้งผู้บริหารของพรรคในส่วนกลางและผู้แสดงเจตจำนงเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. อีสาน และแกนนำในพื้นที่ภาคอีสาน ยังคงทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องและเต็มศักยภาพ

 

“ผมไม่ให้ราคาและความสำคัญของข่าวลือที่เกิดขึ้นในช่วงดังกล่าวนี้แม้แต่นิดเดียว เพราะไม่เป็นความจริง และเสียเวลากับชีวิตเป็นอย่างยิ่ง ทั้งหมดในวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคสร้างอนาคตไทยคือการเดินหน้าทำงานทางการเมืองของบุคลากรของพรรคทุกระดับชั้น ผมยังได้รับคำสั่งและได้เห็นการทำงานอย่างเข้มข้นของท่านอาจารย์สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ของหัวหน้า และเลขาธิการพรรค อยู่แทบทุกวินาทีส่วนเรื่องของการที่ใครจะอยู่ใครจะไปมันเป็นเรื่องปกติธรรมดาทางการเมือง ที่ทุกคนมีสิทธิ์เลือกทางเดินในชีวิตการเมืองของตนเอง ผมไม่ชี้ว่าเป็นเรื่องของใครผิดใครถูกเพราะเป็นเรื่องของใจล้วนๆ ว่าอยากจะอยู่หรืออยากจะไปถ้าเราเอาเรื่องการโยกเข้าการย้ายออกของบุคลากรภายในพรรค มาเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ผมคิดว่าทุกพรรคการเมืองในประเทศนี้ คงล้มหายตายจากไปกันหมดแล้ว เพราะวันนี้ ถามว่ามีพรรคไหนบ้างที่ไม่เคยมีการไหลเข้าหรือไหลออกของบุคลากรในพรรคนั้นๆ เพราะฉะนั้น ในส่วนตัวผมจึงขอย้ำว่า ผมไม่ให้ราคากับข่าวแบบนี้ สู้ผมเอาเวลาที่มีอยู่ไปดูแลเพื่อนร่วมอุดมการณ์ในพรรคและบุคลากรใหม่ๆ ที่จะเข้ามาร่วมอุดมการณ์ด้วยน่าจะมีประโยชน์และดีกว่าไม่ใช่หรือ” นายวัชระ กล่าวทิ้งท้าย