ป.ป.ช.หวัง ITA ปี 66 หน่วยงานรัฐผ่าน 84% “วิษณุ” ชี้รัฐบาลมุ่งแต่ล้อมคอก

ป.ป.ช.หวัง ITA ปี 66 หน่วยงานรัฐผ่าน 84% “วิษณุ” ชี้รัฐบาลมุ่งแต่ล้อมคอก

ป.ป.ช.ประชุมคิกออฟประเมินผล ITA ปี 66 ตั้งเป้าหน่วยงานรัฐผ่านเกณฑ์ประเมิน 84% คาดอนาคตต่อยอดใช้ดูสมรรถนะผู้บริหาร-พิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายได้ “วิษณุ” ยันรัฐบาลยังมุ่งล้อมคอก แม้วัวหายไปหลายตัว

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2565 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดการประชุมชี้แจงการประเมิน ITA ประจำปี 2566 “KICKOFF ITA 2023” โดย พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวในหัวข้อ “ความสำคัญและการร่วมมือกันเพื่อการบรรลุเป้าหมายการประเมิน ITA ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566” ว่า ผลการประเมิน ITA ปี 2565 ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของหน่วยงานภาครัฐอย่างก้าวกระโดด หากพิจารณาตามค่าเป้าหมายของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ที่กำหนดให้หน่วยงานภาครัฐจะต้องมีค่าประเมิน ITA ผ่าน 85 คะแนนขึ้นไป ซึ่งจากหน่วยงานภาครัฐจำนวน 8,303 แห่งที่เข้าร่วมประเมิน มีหน่วยงานที่ผ่านค่าเป้าหมาย 5,855 หน่วยงาน หรือคิดเป็น 70.52% 

พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวอีกว่า ในปี 2566 มีความเข้มข้นและท้าทายมากขึ้น โดยค่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ กำหนดว่าหน่วยงานภาครัฐผ่านเกณฑ์ประเมิน 85 คะแนนขึ้นไป ไม่น้อยกว่า 84% ของหน่วยงานที่เข้าร่วมประเมินทั้งหมด หรือคิดเป็นจำนวน 6,991 หน่วยงาน นอกจากนั้นประเด็นการประเมิน ITA ในปีนี้มีการเพิ่มประเด็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม การขับเคลื่อนกิจกรรมตามไม่รับของขวัญตามแผนการปฏิรูปประเทศ การเพิ่มความรัดกุมในการจัดเก็บข้อมูลให้ดียิ่งขึ้น และ ป.ป.ช.ยังได้มีข้อเสนอแนะต่อ ครม. เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้สนับสนุนและช่วยเหลือดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อยกระดับผลการประเมิน ITA ให้ดีขึ้น ทั้งนี้ ป.ป.ช.หวังว่า ในปี 2566 นี้ หน่วยงานภาครัฐจำนวน 8,323 แห่งทั่วประเทศ จะร่วมมือกันยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานให้บรรลุค่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ร่วมกันได้ 

ส่วนนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในหัวข้อ “การเปลี่ยนผ่านสู่การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ และการส่งเสริมสนับสนุนให้หน่วยงานภาครัฐมีคุณธรรมและความโปร่งใสผ่านการประเมิน ITA” ตอนหนึ่งว่า เท่าที่รัฐบาลยังบริหารราชการแผ่นดินในเวลาที่เหลืออยู่จำกัดนี้ รัฐบาลยังยึดมั่นในนโยบายป้องกันการทุจริต โดยที่ผ่านมามีมาตรการต่างๆออกมาจำนวนมาก เพื่อทำให้ข้าราชการเพิ่มความระมัดระวังเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตให้มากขึ้น ทั้ง พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม ที่กำหนดให้มีคณะกรรมการมาตรฐานกลาง กำกับดูแลการจัดทำประมวลจริยธรรมของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งหลายไม่มีผู้ใดเล็ดรอดไปจากการอยู่ภายใต้ประเมินจริยธรรมของหน่วยงานตัวเองได้เลยแม้แต่รัฐวิสาหกิจและองค์การมหาชน ซึ่งจะช่วยป้องกันและปราบปรามการทุจริตไปได้ เพราะการทุจริตส่วนหนึ่งเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรม

“เท่ากับเป็นการล้อมคอกได้อีกอย่างหนึ่ง แม้วัวจะหายไปแล้วหลายตัว แต่ก็ยังมีวัวเหลืออยู่ในคอกอีกหลายตัว จึงจำเป็นต้องล้อม วันนี้กรอบเราถึงมีหลายกรอบ คอกที่ล้อมที่มีหลายคอก โดยเรื่องจริยธรรมก็เป็นส่วนหนึ่ง การแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับวิธีทำงานของข้าราชการก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะล้อมคอกเอาไว้ ซึ่งวันนี้หลุดไปด่านหนึ่ง ก็จะไปเจออีกด่านหนึ่ง เพราะยังมีคอกล้อมอยู่อีกหลายชั้น” นายวิษณุ กล่าว

ป.ป.ช.หวัง ITA ปี 66 หน่วยงานรัฐผ่าน 84% “วิษณุ” ชี้รัฐบาลมุ่งแต่ล้อมคอก

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ป.ป.ช. ได้เสนอมายังรัฐบาลว่ามาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตอย่างหนึ่งคือทำให้โปร่งใส โดยเรามีกฎหมายข้อมูลข่าวสารทางราชการ และยังมีอีกสิ่งหนึ่งคือการที่รัฐบาลประกาศทำให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยลดการพบปะกันของประชาชนและข้าราชการในการติดต่อราชการ ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีเครื่องมือต่างๆเข้ามาช่วย โดยรัฐบาลเพิ่งออก พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ ที่กำหนดว่าประชาชนสามารถติดต่อราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ทั้งเรื่องภาษี การขอใบอนุญาต การขอขึ้นทะเบียนต่างๆ ให้เปลี่ยนมาติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์ได้โดยไม่ต้องมาเจอกัน ซึ่งจะช่วยให้ลดการเผชิญหน้าระหว่างข้าราชการกับประชาชน ลดโอกาสการเรียกเงินใต้โต๊ะ ทั้งนี้กฎหมายเพิ่งออกมาใช้ คงต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี ถึงจะเข้าสู่ระบบดังกล่าวได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งในการลดทุจริต ถือเป็นอีกคอกที่ล้อมวัวไว้ ให้ระบบราชการอยู่ในร่องในรอย นอกจากนั้นรัฐบาลยังสนับสนุนการประเมิน ITA ซึ่งเกิดประโยชน์มาก ทั้งประโยชน์ต่อประชาชน และเกิดประโยชน์ต่อหน่วยงานภาครัฐ ที่รู้ว่าถูกจับตาอยู่ หน่วยงานรัฐจะได้เตือนกันเอง ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติราชการได้ผลดีขึ้น

ป.ป.ช.หวัง ITA ปี 66 หน่วยงานรัฐผ่าน 84% “วิษณุ” ชี้รัฐบาลมุ่งแต่ล้อมคอก

ขณะที่ นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวในหัวข้อ “รายละเอียดและความเปลี่ยนแปลงในการประเมิน ITA ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566” ว่า การประเมิน ITA ในปี 2566 มีหน่วยงานภาครัฐเข้าร่วม 8,323 หน่วยงาน โดยมีหน่วยงานภาครัฐในส่วนกลางและหน่วยงานกองทุนต่างๆ เข้าร่วมประเมินเพิ่มขึ้น โดยวันนี้จะใช้ผลการประเมิน ITA ในเชิงบวกยังไม่มีบทลงโทษ เป็นเมือนเครื่องมือตรวจสุขภาพหน่วยงานภาครัฐ แต่ ป.ป.ช. และ ก.พ.เห็นว่า หากการเครื่อง ITA มีมาตรฐาน สามารถชี้วัดการทำงานผู้บริหารในหน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจจะนำ ITA ไปมีส่วนในการประเมินสมรรถนะของผู้บริหารในหน่วยงาน รวมทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายในหน่วยงาน อาจจะนำคะแนน ITA ไปชี้ในในการแต่งตั้งผู้บริหารในหน่วยงานได้ ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้นำผลประเมิน ITA ไปใช้ในการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วในส่วนหนึ่ง 

เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวด้วยว่า ความเปลี่ยนแปลงในการประเมิน ITA ในปี 2566 จะเพิ่มเวลาในการประเมินจากบุคคลภายในองค์กรและภายนอกองค์กร ซึ่งจากเดิมกำหนดไว้ 3 เดือน เพิ่มเป็น 6 เดือน นอกจากนั้นยังมีการปรับเปลี่ยนวิธีตอบแบบสอบถามโดยใช้รหัส OTP ส่งเข้าหมายเลขโทรศัพท์มือถือเพื่อยืนยันตัวตน แทนหมายเลขบัตรประชาชน เพื่อป้องกันการล็อคคำตอบในผลประเมิน  นอกจากนั้น ป.ป.ช.จะเข้าไปจัดเก็บข้อมูลผู้มีส่วนได้เสียและบุคคลภายนอกเองโดยตรง ลดโอกาสการล็อคผลประเมินเช่นกัน