“พลังเฮ้ง”แบ็คอัพ “ประยุทธ์” ภารกิจศึกใหญ่ชนแลนด์สไลด์

“พลังเฮ้ง”แบ็คอัพ “ประยุทธ์” ภารกิจศึกใหญ่ชนแลนด์สไลด์

"ถ้าเลือกความห่วง ผมห่วงพล.อ.ประยุทธ์ เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร มีองคาพยพ เก่งๆ เยอะ รู้บริบทการเมือง ผมไปเพราะผมเป็นห่วง มันจะเข้าโหมดการเมือง นี่เป็นการออกศึกใหญ่"

หนึ่งเดือนที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม ส่งสัญญาณชัดเจนว่า จะร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทำให้เกิดการถ่ายเทกำลังพลจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สายตรง “ประยุทธ์” เข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

ชื่อของ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นหนึ่งในหัวหมู่ทะลวงฟัน เปิดดีล ส.ส. - อดีตผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐ ให้ย้ายพรรค บางดีลประสบความสำเร็จ หลายดีลต้องล้มเหลว

“สุชาติ” ให้สัมภาษณ์รายการคมชัดลึก เนชั่นทีวี ช่อง 22 ถึงเส้นทางการเมืองของเขาต่อจากนี้ ว่า “ถ้านายกฯจะเปลี่ยนแปลง ยังไงผมก็ไปกับนายกฯ ส่วนตำแหน่งผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐนั้น ควรจะให้คนที่มีความรู้ความสามารถ พร้อมมาทำหน้าที่ผู้อำนวยการพรรคมากกว่าผม ผมไม่นั่งทับตำแหน่งนี้ ต้องปล่อยให้พรรคเข้มแข็งเติบโตไปเรื่อยๆ ถ้าผมอยู่อย่างนี้ โดยไม่แสดงอะไรเลย ถ้าเกิด พล.อ.ประยุทธ์ออกไปอีกพรรค แล้วผมออกไป ผมใช้ไม่ได้ ไม่อยากให้ใครว่าทีหลัง ถ้านั่งทับตรงนี้ ทำให้คนอื่นไม่สบายใจ เราจะอยู่ทำไม”

สำหรับคำถามที่ว่าเหตุใด พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่เป็นตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ “สุชาติ” ตอบว่า “มันเป็นข้อกฎหมาย และเป็นมารยาททางการเมือง อย่างตัวผมเองไม่เป็นไร ไม่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค แต่นายกฯ กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมายาวนาน บางครั้งก็ต้องให้เกียรติพรรค อันนี้ตอบแทนไม่ได้ขนาดนั้น”

“ผมบังเอิญนั่งทับตำแหน่งสำคัญในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง มันไม่ได้ ผมถอยดีกว่า อีกอย่างแสดงจุดยืนว่า เราจะไม่เข้ามารับรู้เรื่องจัดตัว ถ้าเกิดเราอยู่ เกิดเราจัดตัวเข้ามา แล้ววันหนึ่งเราไม่อยู่ เราเอาตรงนี้ไป พรรคก็เสียหาย”

“สุชาติ” ย้ำว่า "ความรักที่มีให้กับพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร มีพอๆ กัน ทั้งสองคนมีบุญคุณ แต่ถ้าเลือกความห่วง ผมห่วงนายกฯ เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร มีองคาพยพ เก่งๆ เยอะ และเป็นหัวหน้าพรรคหลายปี รู้บริบทการเมือง รู้บริบทการเลือกตั้งที่ไม่มีใครหลอกท่านได้ ไม่ได้ว่านายกฯไปแล้วโดนหลอกนะ ท่านนายกฯถ้าไปอย่างนั้น ผมไปเพราะผมเป็นห่วง มันจะเข้าโหมดการเมือง นี่เป็นการออกศึกใหญ่เหมือนกัน"

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการวิเคราะห์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร จับมือกันเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่ “สุชาติ” มองว่า มันมีเหตุและผลบางอย่างที่เราไม่สามารถตัดสินใจอนาคตแทนผู้ใหญ่ได้ เหมือนเราเป็นลูก พ่อตัดสินใจไปทำงานต่างประเทศ เพื่อสร้างหลักให้ครอบครัว แต่แม่บอกไม่ต้องหรอก อยู่กันแบบพอกินพอใช้ก็ได้ มันอยู่ที่มุมมองของผู้ใหญ่แต่ละท่าน

ผู้ดำเนินรายการถามว่า คนไหลตามออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่เป็นไปตามแผนใช่หรือไม่ “สชาติ” กล่าวว่า ความชัดเจนหลายอย่าง ก็มาเยอะนะ แต่เราไม่อยากอะไรมากมาย และเราเองก็มีความรักความผูกพันกับพรรค นอกจากเพื่อนที่มีความประสงค์จะอยู่พรรคอื่นอันนี้เราจะชวนมา

“ถ้าอยู่ตรงนี้แล้วไม่ได้ ไปอยู่กับเราไหม แต่ถ้าชวนมาเลย เราทำไม่ลง จะไปบอกว่า เพื่อนมาอยู่กับเราเลยไหม เราก็รักพรรค วันนี้เราออกมา ถ้าเราแพ้เราบาดเจ็บ แต่เพื่อนที่อยู่ในพลังประชารัฐได้เป็นรัฐมนตรี เป็น ส.ส.นั่นเป้าหมายที่อยากเห็นเพื่อนทุกคน”

“ผมไม่ได้ยึดติดว่าอยู่ตรงไหนจะเป็นรัฐบาลเป็นฝ่ายค้าน ยังไงผมลง ส.ส.เขตแน่นอน ส่วนจะเป็นรัฐบาลหรือรัฐมนตรีนั่นอีกขั้นตอนหนึ่ง แต่ถ้าเหตุและผลองค์ประกอบต้องได้ก็ต้องได้นะ ถ้าไม่ได้ยังงี้ผิดเงื่อนไข ถ้าสิ่งที่เราตกลงไว้ หรือเป็นอย่างที่เราทำได้ ถ้าเป็นคนที่ออกไปรบตามเงื่อนไข แล้วสุดท้ายไม่ได้ ยังงี้ก็รับไม่ได้”

“สุชาติ” ตัดพ้อว่า “มีบางสื่อเขียนว่า ผมทำตัวเป็นผู้จัดการ เอาคนออกไปหลายสิบคน เพื่อไปเป็นเลขาฯ แล้วไม่ได้เป็น ผมบอกว่า คนเขียนสงสัยใช้จิตตัวเองเขียน เราไม่ได้คิดแบบนั้น เราคิดอย่างเดียวถ้าจะไปกับคนที่มีบุญคุณ ต้องเต็มที่กับเขา อยู่ตรงไหนสถานะไหน ไม่เป็นไร ผมถามว่า เป็นเลขาฯพรรค เป็นหัวหน้าพรรค แต่ไม่ได้ไปออกรบ มันจะมีความสุขได้ไง เรามันนักรบ ถ้าเราออกรบไม่ต้องมีตำแหน่งได้ แต่สิ่งที่คุยกันไว้ตามข้อตกลง พูดอย่างนี้เหมือนคาดหวังต้องมีตำแหน่ง ผมบอกว่าไม่ใช่ ถ้าเหตุการณ์ไปแล้วเป็นรัฐบาล แล้วผมไปทำมาแล้ว อยู่ๆไม่ให้ผม ยังงี้ก็ไม่ได้”

“ผมลงพื้นที่ พูดไปเหมือนอวยนายกฯ คนรักนายกฯไม่น้อย คนที่รักนายกฯมีเยอะมาก เมื่อวานลงพื้นที่ชาวบ้านกระซิบข้างหู อย่าทิ้งลุงตู่นะ นักธุรกิจกลัวที่สุดคือ โกง เขาพูดว่า ลุงตู่ไม่โกง ไม่มีม็อบไม่มีชุมนุม นักลงทุนมั่นใจ ส่งออกได้”

สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติ ถนัดพื้นที่โซนภาคใต้ เป็นโซนพรรคร่วมด้วยกัน แต่ก้อนที่ตนต้องมาทำ คือก้อนที่ต้องสู้กับพรรคที่จะมาแลนด์สไลด์ มันต่างกัน พวกตนมีความช่ำชอง สมรภูมิรบทางนี้ ตะวันออก ภาคกลาง ตะวันตก โซนนี้คือตัวแปร ถ้าพรรคที่จะแลนด์สไลด์เขาได้ พรรครัฐบาลก็หาย มันไปกลับกันแบบนี้

บทสัมภาษณ์ของ “สุชาติ ชมกลิ่น” กับภารกิจขน ส.ส. เข้าสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ บนความหวังที่จะผลักดันให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ไปต่อในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า