"นพ.ระวี" เปิดดีลรวมพรรคเล็ก สร้างพรรคแนวร่วม ดิ้นหนีตายสูตรหาร100

"นพ.ระวี" เปิดดีลรวมพรรคเล็ก สร้างพรรคแนวร่วม ดิ้นหนีตายสูตรหาร100

"นพ.ระวี" เจรจา20พรรคการเมือง เพื่อควบรวม สร้างพรรคแนวร่วม สู้เลือกตั้ง-กติกาหาร100 คาด 7วันชัดเจน แต่ไม่ปิดทางร่วมงานพรรคใหญ่ หากรับนโยบายพลังธรรมใหม่ไปทำงาน-ไม่ยุบพลังธรรมใหม่

           นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางของพรรค หลังจากที่กติกาเลือกตั้ง และสูตรคำนวณส.ส.มีความชัดเจน ว่า ทิศทางของพรรคพลังธรรมใหม่ จะเดินหน้าสู้ศึกเลือกตั้ง แต่จะปรับยุทธวิธีไปตามกติกาที่เหมาะสม โดยล่าสุดตนได้พูดคุยกับพรรคการเมือง ประมาณ 20 พรรค ทั้งที่เป็นพรรคที่มีส.ส.ในสภา และไม่มีส.ส. ถึงการทำงานร่วมกัน หลังจากที่สูตรคำนวณ ส.ส. ชัดเจนว่าจะใช้จำนวน 100 คนหาค่าเฉลี่ยส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่จะส่งผลให้พรรคเล็กสูญพันธุ์เกือบหมด เพราะคะแนนที่จะได้ 3.7แสนคะแนนต่อส.ส. 1 คนนั้นได้มาไม่ง่าย อย่างไรก็ดีขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา  

 

           นพ.ระวี กล่าวด้วยว่า ในเบื้องต้นหากมีพรรคที่มีอุดมการณ์เดียวกัน 4-5 พรรค ผนึกกำลังในรูปแบบที่เหมาะสม อาจให้พรรคใดพรรคหนึ่งเป็นแกนหลัก แล้วย้ายสมาชิกพรรคไปรวมกัน จากนั้นจะใช้การปรับโครงสร้าง เปลี่ยนชื่อพรรคเป็นแนวร่วม  เบื้องต้นตนคาดว่าเรื่องดังกล่าวจะมีความชัดเจน ใน 7 วัน แต่หากแนวทางดังกล่าวไม่มีพรรคคใดที่พร้อมจะควบรวม  ตนจะเดินหน้าทำพรรคพลังธรรมใหม่ต่อไป

           “ตอนนี้อยู่ระหว่างการคุยกัน และพรรคต่างๆ ต้องไปปรึกษากันในพรรคและหาข้อสรุปแต่ละพรรค เบื้องต้นในรายละเอียด คือ หากมีพรรคการเมืองร่วมกันได้ 5 พรรค ข้อแรก ต้องเลือกพรรคที่จะใช้เป็นพรรคที่รวมกัน ผมไม่ได้ผูกว่าต้องเป็นพรรคพลังธรรมใหม่ สำหรับชื่อพรรคอาจตั้งชื่อใหม่ เช่น พรรคแนวร่วม จากนั้นเปลี่ยนโครงสร้าง ส่วนอีก 4 พรรคจะยุบหรือคงไว้ก็แล้วแต่การหารือในแต่ละพรรค แต่พรรคพลังธรรมใหม่จะไม่ยุบ” นพ.ระวี กล่าว

 

           นพ.ระวี กล่าวด้วยว่า นอกนี้ พรรคพลังธรรมใหม่ อยู่ระหว่างการยกร่างนโยบายที่จะกำหนดเป็นนโยบายสำคัญ 2-3 ข้อ หากมีพรรคใหญ่พร้อมรับนโยบายของพลังธรรมใหม่  พรรคพร้อมเข้าร่วม  โดยไม่มีเงื่อนไขต่อรองใดๆ ยกเว้นการรับนโยบายหลักของพรรคพลังธรรมใหม่ แต่แนวทางดังกล่าวจะเป็นทางเลือกสุดท้าย แต่หากไม่รับ พรรคพร้อมเดินหน้าสู้เลือกตั้ง 

           “ผมประเมินว่าเลือกตั้งครั้งหน้า อาจะได้ส.ส.เข้าสภา 1-2 คน ซึ่งเป็นเรื่องยากต่อการทำงานทั้งเสนอร่างกฎหมายและกรรมาธิการ ที่ต้องไปขอเสียงสนับสนุนจากพรรคอื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ผมไม่ยุบพรรคพลังธรมใหม่ เพราะประเมินว่าการเมืองสมัยหน้าจะมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อร่างรับธรรมนูญใหม่ หากเอื้อให้พรรคเล็กทำงาน เราจะอยู่พรรคนั้นสมัยเดียว แล้วจะกลับมาทำพรรคพลังธรรมใหม่ต่อ ทั้งนี้ต้องดูทิศทางและการปรับตัวการทำงานให้คล่องขึ้น” นพ.ระวี กล่าว 

 

 

           นพ.ระวี กล่าวด้วยว่า ตอนตั้งพรรคพรรคพลังใหม่ ในปี 2560   กำหนดว่าต้องการสร้างพรรคแบบพรรคอัมโน ของมาเลเซีย  แต่ของเราคือการทำให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ จากนั้นในปี 2562 ที่มีการเลือกตั้ง กติกาเลือกตั้งและสูตรหาร500 พรรคเล็กนั้นสู้ได้ จึงไม่ควบรวมกันตามกฎหมาย หลังจากนั้นมีแนวคิดที่ได้คุยกับแต่ละพรรค เมื่อมีประเด็นการแก้ไขสูตรคำนวณส.ส. และตนต่อสู้เรื่องสูตรหาร 500  แต่สุดท้ายสูตรคำนวณ เป็นหาร 100 ดังนั้นต้องแสวงหาการทำงานร่วมกันของพรรคการเมืองในระบบ