"ประยุทธ์" เตรียมลงพื้นที่ จ.เชียงราย ติดตามโครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model

"ประยุทธ์" เตรียมลงพื้นที่ จ.เชียงราย ติดตามโครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model

"ประยุทธ์" เตรียมลงพื้นที่ จ.เชียงราย ติดตามโครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model นำร่อง ระยะที่ 1 พร้อมเป็นประธานงาน “เกี่ยวข้าวรักษ์โลก” และร่วมเสวนาหัวข้อ “การปฏิวัติการทำนาสู่ความยั่งยืน” 30 พ.ย.นี้

วันนี้ (29 พฤศจิกายน 2565) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ในวันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565

โดยมีกำหนดการ ดังนี้

เวลาประมาณ 11.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย

เวลา 13.15 น. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในงาน “เกี่ยวข้าวรักษ์โลก” ณ บ้านเชียงคาน หมู่ที่ 14 ตำบลสถาน อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย พร้อมติดตามผลการดำเนินงานโครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model นำร่อง ระยะที่ 1 ร่วมพบปะพูดคุยกับกลุ่มเกษตรกรและเสวนาหัวข้อ “การปฏิวัติการทำนาสู่ความยั่งยืน”

จากนั้น เวลาประมาณ 16.15 น. นายกรัฐมนตรีจะตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลวัดห้วยปลากั้งเพื่อสังคม ตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย และเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 18.35 น. ทั้งนี้ กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

“สำหรับโครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลตามดำริของท่านนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้เกษตรกรทำการปฏิวัติการทำนาสู่ความยั่งยืน มีความตั้งใจช่วยเหลือชาวนา ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ภายใต้เศรษฐกิจ BCG Model โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการข้าวที่มีคุณภาพ และสอดคล้องกับบริบทในแต่ละพื้นที่ มีการดูแลควบคุมกระบวนการผลิตเมล็ดพันธุ์ให้ได้มาตรฐาน กระจายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี ตลอดจนบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรม (Zoning) อย่างเป็นระบบ คำนึงถึงการรักษาระบบนิเวศ

พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี ช่วยลดค่าแรง ลดเวลา และลดต้นทุนในการผลิตลง ทำให้ได้ผลผลิตดีมีคุณภาพ ขายได้ในราคาดีและเหมาะสม ส่งผลให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้นและสามารถผลิตข้าวได้อย่างยั่งยืน ทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่าข้าวและส่งเสริมโอกาสในการส่งออกได้อีกด้วย” นายอนุชาฯ กล่าว