“สุชาติ ตันฯ” ปัดตบ “ส.จ.เปี๊ยก แปดริ้ว” แจง แค่เคาะหัว ทักทายลูกน้องเก่า

“สุชาติ ตันฯ” ปัดตบ “ส.จ.เปี๊ยก แปดริ้ว” แจง แค่เคาะหัว ทักทายลูกน้องเก่า

“สุชาติ” ปัด ตบ ส.จ.เปี๊ยก แค่ทักทายลูกน้องเก่า เคาะหัวเบาๆ ไม่ได้ข่มขู่ อาฆาตอย่างที่ถูกแจ้งความเท็จ ข้องใจ ทำเป็นเรื่องใหญ่โต ทำลายชื่อเสียงคนมีบุญคุณ ยัน เป็นไปไม่ได้ที่จะทำร้ายร่างกาย เหตุ มือปืนคุ้มกันเพียบ ฝาก ตร. กวาดล้างอาวุธ ช่วงใกล้เลือกตั้งด้วย

จากกรณีที่ นายวรรณา รอดพิทักษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ฉะเชิงเทราระบุว่าถูก นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ตบหัวพร้อมด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ระหว่างพบกันในงานศพที่วัดทุ่งส่อหงษา หมู่ 11 ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 26 พ.ย.65 และจะมีการแจ้งความดำเนินคดีนายสุชาติ ด้วยนั้น

นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ชี้แจงว่า นายวรรณา หรือ ส.จ.เปี๊ยก เคยเป็นลูกน้องคนสนิทคนหนึ่งของตน ที่ตามปกติเวลาที่ นายวรรณา มาหาตน ก็จะแสดงความเคารพกราบตักตน เพราะว่าตนเคยช่วยชีวิต นายวรรณาไว้ เมื่อครั้งถูกยิงเกือบถึงชีวิต และก็ยังดูแลครอบครัวของ ส.จ.เปี๊ยก ที่มีหลายบ้านเป็นอย่างดี เมื่อพบหน้าครั้งนี้ก็เป็นตนที่เป็นฝ่ายเข้าไปทักทาย โดยได้ใช้มือเคาะไปที่หัวในลักษณะที่ไม่ได้รุนแรง แต่เป็นการสัพยอกไปว่า ได้ยินว่า ส.จ.เปี๊ยก ชอบพูดจาว่าร้ายตนก็เพียงเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาข่มขู่ หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายอย่างที่ ส.จ.เปี๊ยก พยายามกล่าวหา เรื่องนี้สามารถสอบถามผู้ที่อยู่ในงานได้ว่า เหตุการณ์เป็นอย่างไร เพราะทราบว่าในเฟซบุ๊กก็มีผู้ที่เห็นเหตุการณ์เข้าไปคอมเมนต์ถึงข่าวที่มีการนำเสนอในสื่อท้องถิ่นว่า เป็นเพียงการทักทายกันเท่านั้น ดังนั้นที่ส.จ.เปี๊ยก บอกว่า จะไปแจ้งความนั้น ก็อาจจะเป็นการแจ้งความเท็จ

“ต้องถาม ส.จ.เปี๊ยก ว่าเหตุที่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต ทำลายชื่อเสียงคนที่มีบุญคุณกับชีวิต และทุกๆครอบครัวของ ส.จ.เปี๊ยก เป็นไปในลักษณะที่ชาวบ้านพูดกันและเรียกว่าเนรคุณใช่หรือไม่เพียงเพราะต้องการผลประโยชน์ส่วนตัวที่รับใช้กลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามและในด้านการเมืองหรือเปล่า” นายสุชาติ ระบุ

นายสุชาติ กล่าวอีกว่า หากถ้ามีการทำร้ายร่างกาย และต่อว่าหยาบคายใส่ ส.จ.เปี๊ยก จริง คงเป็นไปไม่ได้ เพราะ ส.จ.เปี๊ยก ไปร่วมงานนี้นั้น มีลูกน้องที่มีลักษณะคล้ายพวกมือปืน ขับรถติดตามอีก 3-4 คัน และขณะเกิดเหตุก็ยืนอยู่ด้านหลังงาน เฝ้าคอยระวังให้ ส.จ.เปี๊ยก อยู่ตลอดจึงยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการทำร้ายร่างกายและข่มขู่ตามที่ ส.จ.เปี๊ยก กล่าวหา และท้ายที่สุดนี้อยากฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ด้วยว่า ช่วงนี้ใกล้ถึงการเลือกตั้งใหญ่ ควรจะเข้มงวดกวดขันตรวจตราอาวุธปืน และอาวุธสงคราม ตรวจสอบประวัติมือปืนต่างๆ ให้เป็นตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ด้วย