“ชัชชาติ” ไม่กังวล “บีทีเอส” ออกคลิปทวงหนี้ 4 หมื่นล. ยันให้ สภา กทม.เคาะก่อน

“ชัชชาติ” ไม่กังวล “บีทีเอส” ออกคลิปทวงหนี้ 4 หมื่นล. ยันให้ สภา กทม.เคาะก่อน

“ชัชชาติ” ไม่กังวล “บีทีเอส” ออกคลิปทวงหนี้รัฐ 4 หมื่นล้านบาท ปม กทม.ไม่ชำระสัญญาค่าจ้างเดินรถ ยันต้องให้สภา กทม.เห็นชอบก่อน ครม.เคลียร์เรื่องควบรวมสัมปทาน

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2565 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) กล่าวถึงกรณีบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ “บีทีเอสซี” เผยแพร่วิดีโอโฆษณาบนรถไฟฟ้าเรียกร้องให้ภาครัฐชำระหนี้คืนบริษัทกว่า 40,000 ล้านบาท จากการที่ กทม.ไม่ชำระค่าจ้างเดินรถให้ ว่า มีเพียงประเด็นกฎหมาย จากที่ข้อบัญญัติ กทม.ระบุว่า การสร้างภาระหนี้ผูกพันงบประมาณ จะต้องผ่านความเห็นชอบจากสภา กทม.ก่อน 

นายชัชชาติ กล่าวว่า จะเห็นว่าสภา กทม.ยังไม่ได้เห็นชอบทำสัญญาจ้างเดินรถ และติดตั้งงานระบบ รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จึงมีการทำหนังสือเพื่อสอบถามทางสำนักงานเลขาธิการสภา กทม.ว่า ส่วนนี้ผ่านการอนุมัติจากสภา กทม.แล้วหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ต้องมีการทำสัญญาใหม่ให้เรียบร้อยก่อน เข้าใจว่าได้มีการส่งหนังสือไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หรือไม่ก็ภายในสัปดาห์นี้ โดยส่วนของมูลหนี้จากส่วนต่อขยายส่วนที่ 1 เหลือเพียงแต่ให้ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้ดำเนินการตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2562 ที่ต้องการนำมูลหนี้ไปรวมกับการต่อสัญญาสัมปทาน ยืนยันว่า ใจเราไม่ได้มีปัญหา กทม.เป็นหนี้ก็ต้องจ่าย แต่ต้องเป็นหนี้ที่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามกฎหมายด้วย

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ขณะที่การรับโอนทรัพย์สินในส่วนต่อขยายส่วนที่ 2 จากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ก็ถือว่าเป็นการก่อหนี้ผูกพันเช่นเดียวกัน ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากสภา กทม.เช่นเดียวกัน ดังนั้นหากไม่ผ่านสภา กทม.จะต้องทำให้ถูกกฎหมาย ถ้าจะเป็นการสร้างหนี้ในอนาคต ก็ต้องผ่านทางสภา กทม. อาจจะต้องทำสัญญาใหม่ หรือจากนี้ในอนาคต

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า ส่วนการสืบสวนการทำสัญญามอบหมายงานในขณะนั้น ก็มีความเห็น 2 ส่วนด้วยกัน คือต้องผ่านสภา กทม.ก่อน และเมื่อเกิดหนี้ค่อยมาขออนุมัติงบประมาณจากสภา กทม. ภายหลัง แต่แนวคิดของผู้บริหารชุดปัจจุบันถือว่าเป็นการก่อหนี้ผูกพัน จะต้องให้สภา กทม.เห็นชอบก่อน ไม่ใช่พอทำสัญญาแล้ว แล้วบังคับให้ทางสภา กทม.เป็นผู้อนุมัติเงิน จะเป็นการทำผิดตามข้อบัญญัติ