ยึดเมืองเจดีย์ใหญ่ บ้านใหญ่“แก้วพิจิตร”เปลี่ยน

สมรภูมิเมืองเจดีย์ใหญ่ มี ส.ส. 5 คน 2 บ้านใหญ่แก้วพิจิตร-สะสมทรัพย์ ก็พร้อมลุยสังเวียนเลือกตั้ง เช่นเดียวกับพรรคก้าวไกล ได้เตรียมผู้สมัคร ส.ส.ไว้ครบแล้ว
สมรภูมิเลือกตั้งเมืองเจดียใหญ่ สมัยหน้า จะเข้าสู่ยุคการเมืองเปลี่ยนรุ่น คงจะเป็นเวทีของคนรุ่นใหม่ ในสีเสื้อบ้านใหญ่ ลงแข่งขันกับผู้สมัคร ส.ส.หน้าใหม่จากพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย
ยกตัวอย่าง “เสธ.แก้ว” พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม เขต 1 ที่เตรียมตัวย้ายจากพรรคประชาธิปัตย์ ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็พาหลานชาย ปั้น-ณัทกร แก้วพิจิตร ที่ปรึกษาเทศบาลนครปฐม ไปตามงานบุญ งานสังคมต่างๆ เพื่อแนะนำตัวให้ชาวบ้านได้รู้จักทายาทรุ่น 3 ของ “บ้านใหญ่แก้วพิจิตร”
ภูมิศาสตร์การเมืองนครปฐม แบ่งกันโดย 2 บ้านใหญ่ 2 ตระกูลคือ “แก้วพิจิตร” จะมีฐานเสียงอยู่ในเขตเทศบาลเมืองนครปฐม ส่วน “สะสมทรัพย์” กินพื้นที่รอบนอก ไล่ไปตั้งแต่ กำแพงแสน, บางเลน, ดอนตูม, พุทธมณฑล, นครชัยศรี และสามพราน
สมัยพรรคชาติไทย ยังรุ่งเรืองในภาคกลาง บรรหาร ศิลปอาชา ยึดเขต 1 นครปฐม (อ.เมืองนครปฐม) มาโดยตลอด ขนาดพรรคชาติไทย ปราศรัยใหญ่ส่งท้ายยังตั้งเวทีที่หน้าองค์พระปฐมเจดีย์ เป็นสัญลักษณ์ของพรรคบ้านใหญ่ภาคกลาง
แรกๆ บรรหาร อาศัยกำนันประสานต์ บุญมี คอยยึดพื้นที่เขต 1 นครปฐม เมื่อไม่มีกำนันประสานต์ บรรหารก็ดึง “กำนันไก่” สมพัฒน์ แก้วพิจิตร มารักษาพื้นที่ไว้
หลังจากกำนันไก่ เสียชีวิต พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ก็ลงเล่นสนามแทนพี่ชาย ได้เป็น ส.ส.นครปฐม เขต 1 ในสีเสื้อพรรคชาติไทยพัฒนา
ปี 2562 เสธ.แก้ว-สินธพ ได้ย้ายมาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีความสนิทสนมกับสาธิต ปิตุเตชะ และได้รับชัยชนะชนิดหืดจับ ต้องลุ้นนับคะแนนใหม่
คืนวันที่ 24 มี.ค.2562 กกต.ประกาศผลอย่างไม่เป็นทางการเขต 1 นครปฐม พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ได้ 36,762 คะแนน สาวิกา ลิมปะสุวัณณะ พรรคอนาคตใหม่ได้ 35,615 คะแนน ห่างกันเพียง 147 คะแนน ฝ่ายอนาคตใหม่ จึงร้อง กกต.ให้นับคะแนนใหม่
สาธิต ปิตุเตชะ แม่ทัพภาคกลาง ที่เป็นคนชักชวน พ.ท.สินธพ จากชาติไทยพัฒนามาอยู่ ปชป. ได้ไปคุมการนับคะแนนใหม่ ปรากฏว่า เสธ.แก้ว ได้ 35,711 คะแนน สาวิกาได้ 35,707 คะแนน เสธ.แก้ว ชนะคู่แข่ง 4 คะแนน
บทเรียนจากการเลือกตั้งสมัยที่แล้ว ทำให้ตระกูล “แก้วพิจิตร” ต้องปรับขบวนใหม่ เริ่มจากย้ายพรรค ที่มีแบรนด์ติดตลาดมากกว่าแบรนด์เดิม และหาตัวผู้สมัครคนรุ่นใหม่ลงสนาม ส.ส.เขต
พูดถึงตระกูล “แก้วพิจิตร” ก็ต้องนึกเห็นนักการเมืองอาวุโสคนนี้คือ สุนทร แก้วพิจิตร วัย 92 ปี ผู้ก่อตั้งกลุ่มสันติธรรม และยึดครองเก้าอี้นายกเทศมนตรีเมืองนครปฐม มายาวนานกว่า 40 ปี
“ป๋าสุนทร” ได้ชื่อว่าเป็นบ้านใหญ่แก้วพิจิตร ยึดพื้นที่การเมืองในเขต อ.เมืองนครปฐม โดยก่อตั้งกลุ่มสันติธรรม มาตั้งแต่ปี 2528 นำทีมลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครปฐม จนได้เป็นนายกเทศมนตรีหลายสมัย
9 ปีที่แล้ว ป๋าสุนทร หนุนหลานชาย เอกพันธุ์ คุปตวัช เป็นนายกเทศมนตรีนครนครปฐม และปี 2564 เสรินทร์ แก้วพิจิตร ลูกชายคนเล็กของป๋าสุนทร รีเทิร์นมาเป็นนายกเทศมนตรีเมืองนครปฐมอีกสมัย
สำหรับตระกูล “คุปตวัช” กับ “แก้วพิจิตร” ทำธุรกิจในนามบริษัท สหอรพรรณ จำกัด และบริษัทในเครืออรพรรณ ซึ่งประกอบกิจการรถบรรทุก สถานีบริการน้ำมัน โรงแรม และรับเหมาก่อสร้าง
เฉพาะ กมล คุปตวัช บิดาของเอกพันธุ์ เคยเป็นนายกสมาคมรถบรรทุกจังหวัดนครปฐม นายกสมาคมอู่ซ่อมรถยนต์และเครื่องจักรกลจังหวัดนครปฐม กมลได้ชื่อเป็นเจ้าพ่อสิบล้อตัวจริง และเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่นานมานี้
การเลือกตั้งสมัยหน้า บ้านใหญ่สะสมทรัพย์ ยังอยู่กับพรรคชาติไทยพัฒนา ภายใต้การบริหารของเสี่ยหนึ่ง-จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ ลูกชายคนโตของไชยา สะสมทรัพย์ และนายก อบจ.นครปฐม ทีมสะสมทรัพย์ก็วางตัวผู้สมัคร ส.ส.ไว้ครบทุกเขต
ปกติ ตระกูลสะสมทรัพย์ จะไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.ระดับบิ๊กเนมชนกับทายาทตระกูลแก้วพิจิตร ที่เขต 1 เนื่องจาก 2 ตระกูลนี้ ต่างเคารพนับถือกัน เสี่ยอ้อน ไชยา สะสมทรัพย์ ยกให้ป๋าสุนทร เป็นผู้อาวุโสแห่งวงการเมืองนครปฐม
การเลือกตั้งสมัยหน้า พรรคชาติไทยพัฒนา ได้เปิดตัว สจ.ฟิล์ม-ศุภโชค ศรีสุขจร ลูกชาย ธงชัย ศรีสุขจร อดีต ส.ว.นครปฐม และเจ้าของบริษัทแสงโชคชัย ภายใต้การสนับสนุนของบ้านใหญ่สะสมทรัพย์
สจ.ฟิล์ม ศุภโชค วัย 28 ปี นักเรียนนอก เพิ่งลงสมัคร ส.อบจ.นครปฐม เขต อ.เมืองนครปฐม ในนามกลุ่มชาวบ้าน ของตระกูลสะสมทรัพย์ และได้เป็น สจ.หนุ่ม ขวัญใจชาวบ้าน สมใจพ่อ ส.ว.ธงชัย
แสดงว่า สมัยหน้า 2 บ้านใหญ่นครปฐม จะต้องต่อสู้กันเอง ระหว่าง สจ.ฟิล์ม ตัวแทนบ้านใหญ่สะสมทรัพย์ กับ ปั้น-ณัทกร แก้วพิจิตร หลานชายบ้านใหญ่แก้วพิจิตร
สมรภูมิเมืองเจดีย์ใหญ่ มี ส.ส. 5 คน 2 บ้านใหญ่แก้วพิจิตร-สะสมทรัพย์ ก็พร้อมลุยสังเวียนเลือกตั้ง เช่นเดียวกับพรรคก้าวไกล ได้เตรียมผู้สมัคร ส.ส.ไว้ครบแล้ว







