งัดอีเวนท์ "ล็อก ส.ส.เปิดตัว" “บิ๊กป้อม”สกัดพปชร.เลือดไหล

ถึงไทม์มิ่งที่ทุกพรรคการเมืองต้องขยับจัดทัพรับเลือกตั้ง ไม่เว้นแม้แต่พรรคพลังประชารัฐ ที่อยู่ในภาวะระส่ำระสายอย่างหนัก สุ่มเสี่ยงจะสูญเสียขุนพล และคนบ้านใหญ่จำนวนไม่น้อย ที่ตั้งท่าจะย้ายตาม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปรวมกันที่พรรครวมไทยสร้างชาติ

ทำให้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ยังไม่ยอมลงจากหลังเสือ แม้มีโอกาสสูงที่จะต้องแยกทางกันเดินกับ “น้องตู่-น้องป๊อก”

เนื่องจาก “น้อง ป.4” ผู้อยู่เบื้องหลังเกมล้มอำนาจ “ประยุทธ์-อนุพงษ์” ยังต้องเชิดให้ “พี่ป้อม” ต้องไปต่อ เพราะหากไม่มีพรรคพลังประชารัฐ ไม่มี ส.ส.อยู่ในมือ “บ้านป่ารอยต่อ”ย่อมหมดสิ้นอำนาจทางการเมืองทันที

ส่งผลให้ “ทีมบ้านป่ารอยต่อ” จำเป็นต้องกวาดต้อน ส.ส.ให้อยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อไปโดยเร่งสกัด ส.ส.ที่จ้องย้ายออก ด้วยวิธีล็อกเอาไว้ งัดแผนจัดอีเวนท์ เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. และจัดอบรมเลือกตั้งควบคู่ไปด้วย

โดยในวันที่ 10 พ.ย.นี้ พลังประชารัฐ จะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 4 ภาค ก่อนจะจัดสัมมนาติวเข้มผู้สมัครในวันที่ 11-12 พ.ย.นี้ 

 แสดงให้เห็นว่าพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ “ประวิตร” ยังต้องทุ่มทุนสร้างเพื่อสู้ต่ออีกยกแม้กำลังเผชิญความถดถอยในเรื่องกระแส และความเข้มแข็งที่ลดน้อยถอยลง หาก “ประยุทธ์” แยกทาง

ปฏิกิริยาหลายอย่างบ่งบอกว่า 2 ป. แยกกันเดินค่อนข้างแน่ ความเคลื่อนไหวสำคัญในพลังประชารัฐตอนนี้ บุคคลที่เป็น"สายตรงประยุทธ์" ต่างเดินเกมล็อบบี้ดึง ส.ส.พลังประชารัฐ ให้ย้ายพรรคตามไปเป็นแถว เพราะมั่นใจว่าชื่อ “ประยุทธ์” จะเป็นแม่เหล็กดึงคะแนนเสียงได้

เวลานี้ ส.ส.หลายคนในพลังประชารัฐ กำลังรอดูความชัดเจนจากประยุทธ์ว่า สุดท้ายจะลงเอยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยหันหลังให้กับพลังประชารัฐหลังเอเปคทันทีหรือไม่ 

สัญญาณหนึ่งที่สร้างความชัดเจนมากขึ้น คือการที่ประยุทธ์ แต่งตั้ง “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ทั้งคู่ต่างถูกคาดหมายว่าจะเป็นขุนพลสำคัญในการเลือกตั้งของรวมไทยสร้างชาติ และมีความสัมพันธ์อันดีกับ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

ถึงแม้ “ไตรรงค์” จะยังไม่ได้เปิดตัวใดๆ กับพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ก็พอจะเห็นความเคลื่อนไหวในการเป็นมือประสานดึงนักการเมืองบางส่วนมาอยู่กับพรรค ด้วยความเป็นผู้อาวุโส มีคนนับหน้าถือตา คนในแวดวงจึงให้ความเคารพนับถือ และเกรงใจ

ความเป็นไปของพรรครวมไทยสร้างชาติที่ค่อยๆ ชัดเจนขึ้น ย่อมเป็นปัจจัยที่กระทบกับพลังประชารัฐอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะตัวบุคคลที่จะไหลออกอีกบานตะไท “แกนนำพลังประชารัฐ” จึงต้องฮึ่มๆ ขู่คนที่ยังลังเล เอาให้ชัด ไม่เช่นนั้นจะหาคนมาลงสมัคร ส.ส. แทน

ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา “พลังประชารัฐ” ก็ทยอยเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.มาแล้วหลายล็อต แต่เมื่อสแกนรายชื่อส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยเรียกเสียงฮือฮา หนำซ้ำคนในพรรคด้วยกันเอง ยังวิจารณ์แบบไม่มีชิ้นดี 

ผู้สมัคร ส.ส.บางคน นอกจากจะแพ้เลือกตั้งมาในครั้งที่แล้ว ไม่พอ ผลงานกวาดคะแนนได้น้อยจนน่าตกใจ ก็เป็นข้อกังขาให้กับบางฝ่ายในพลังประชารัฐ

การเลือกตั้งครั้งหน้าคงจะได้เห็นการเดินการเมืองแบบทางใครทางมันของ “ประยุทธ์” และ“ประวิตร” ที่กินแหนงแคลงใจกันมานาน เนื่องจากคนรอบกายแต่ละฝ่าย ล้วนเป็นตัวกัดกร่อนความสัมพันธ์ “3 ป.”ให้เป็นอย่างทุกวันนี้

ฉะนั้น การมัดรวม เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ จึงถือเป็นการเช็คลิสต์ ว่าใครมีใจจะอยู่ร่วมหัวจมท้าย ก็ต้องเปิดตัวกับพรรค หากใครไร้ใจ จะต้องมีคำอธิบายแจ้งต่อ “ทีมบ้านป่ารอยต่อ” ไม่เช่นนั้น ชื่อจะถูกกาทิ้ง โยนไปอยู่ในตะกร้าเดียวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ

จากนี้ไป ต้องจับตาทุกความเคลื่อนไหวของพี่น้อง 2 ป. “ประยุทธ์” และ “ประวิตร” ที่ต่างต้องชิงไหวชิงพริบ แย่งตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เกรดเอ เข้าสังกัด 

การเลือกตั้งครั้งหน้า จะเป็นเดิมพันที่สูงลิบของ “ทีมตึกไทยคู่ฟ้า” VS “ทีมบ้านป่ารอยต่อ” ที่นอกจากจะต้องรบกับ “ขั้วตรงข้าม”แล้ว ยังต้องห้ำหั่นกันเองอย่างเลี่ยงไม่ได้