"พัชรินทร์" ชี้สถิติอัตรารอด"หยุดหายใจเฉียบพลัน" 2% จี้เพิ่มหลักสูตร CPR

"พัชรินทร์"  ชี้สถิติอัตรารอด"หยุดหายใจเฉียบพลัน" 2% จี้เพิ่มหลักสูตร CPR

"พัชรินทร์" กางสถิติอัตรารอดชีวิตจากเหตุหยุดหายใจเฉียบพลัน ไทยรอดเพียง 2% เทียบไม่ติดยุโรป 60% ขอฝ่ายบริหาร รับข้อเสนอ บรรจุ CPR ในหลักสูตรการศึกษา

น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต2 พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร  กล่าวถึงโครงการอบรม ให้ความรู้ CPR และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ภายในสถานศึกษา ซึ่งตนพยายามผลักดันมาตลอด ตั้งแต่ปีแรกของการเป็น ส.ส. ให้เกิดการเรียนรู้เรื่อง CPR และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เชิงปฏิบัติในหลักสูตรการศึกษาของไทยเรา ให้เด็กได้เข้าใจและสามารถปฏิบัติได้จริง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้เป็นเรื่องยาก ไม่ได้ใช้งบประมาณมาก หน่วยงานที่พร้อมจะช่วยกันมีอยู่แล้ว เพียงแต่ฝ่ายบริหาร ต้องเปิดกว้าง ที่จะรับข้อเสนอแนะนี้ไปผลักดันให้เกิดขึ้นจริง และหวังว่า ฝ่ายบริหารจะได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ เพื่อประโยชน์ของพวกเราทุกคน ชีวิตทุกชีวิตมีคุณค่า เพียงเรารักษาได้ 1 ชีวิต ก็คุ้มค่าที่สุดแล้ว

สองมือเหมือนกัน แต่ช่วยคนได้ไม่เหมือนกัน เพียงเพราะขาดองค์ความรู้ในการช่วยชีวิต #คนไทยต้องCPRเป็น" ดร.พัชรินทร์ กล่าวย้ำ

 

อัตราการรอดชีวิตเมื่อเกิดเหตุการณ์หยุดหายใจเฉียบพลัน

น.ส.พัชรินทร์ ยังได้ เปรียบเทียบให้เห็นถึง อัตราการรอดชีวิต เมื่อเกิดเหตุการณ์ หยุดหายใจเฉียบพลัน โดยประมาณ ในต่างประเทศกับไทย

  • ประเทศทางยุโรป อัตรารอด 60%
  • ประเทศญี่ปุ่น อัตราการรอด 40%
  • ขณะที่ไทย เรามีอัตราการรอดชีวิตเพียง 2% เท่านั้น

เท่ากับว่า เมื่อเกิดเหตุ ถ้าอยู่ๆ เราล้มตึงไปกลางถนน เรามีโอกาสรอดชีวิตเพียง 2% เพราะมีคนที่จะสามารถช่วย CPR ในประเทศไทย ยังไม่มากพอ แตกต่างกับในต่างประเทศ จะมีการสอนให้ความรู้ทั้งในทฤษฎี และปฏิบัติ กับเด็กๆ เยาวชน ตั้งแต่ในโรงเรียน เป็นความรู้พื้นฐาน แต่สำหรับของไทยเรา อาจมีการสอนในเรื่องการปฐมพยาบาลบ้าง แต่อาจยังไม่ทั่วถึง รวมทั้งการสอนภาคปฏิบัติ ให้เด็กมีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้อง ไม่สมบูรณ์นัก 

#คนไทยต้องCPRเป็น