ไฟนอล "สังเวียนสภา"- "สุราฯ-กัญชา" ศึกวัดพลัง !

ไฟนอล "สังเวียนสภา"- "สุราฯ-กัญชา" ศึกวัดพลัง !

เกมสภาในช่วงปัจฉิมบท กับ"2กฎหมายร้อน" พ.ร.บ.กัญชา-พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่กำลังก่อตัวเป็น "ศึกวัดพลัง" ระลอกใหม่

“สังเวียนสภา” ดำเนินมาถึงช่วงไฟนอล ก่อนจะมีการ “รูดม่าน” สมัยประชุมสุดท้าย ในรัฐบาลประยุทธ์ วันที่ 23 มี.ค.2566

จึงไม่แปลกที่เวลานี้จะปรากฎภาพของบรรดาพรรรคการเมือง โชว์ลวดลายด้วยการงัดสารพัดกลเม็ดในการชิงแต้มต่อทางการเมือง

โดยเฉพาะปม “กัญชา” ศึกร้อนซึ่งเป็น “ภาคต่อ” จากสมัยประชุมที่แล้ว ที่ปรากฏภาพเกมช่วงชิงความได้เปรียบของบรรดาพรรค การเมือง กระทั่งเกิดปรากฎการณ์ผสมโรง เมื่อ 3 พรรค ทั้ง “เพื่อไทย-พลังประชารัฐ-ประชาธิปัตย์” ประสานเสียงโหวต เห็นชอบถอนร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง ออกจากระเบียบวาระการประชุม เพื่อให้คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญ นำร่างกลับไปทบทวนใหม่

จนถูกมองว่า ไม่ต่างอะไรจาก “เกมเตะถ่วง” ที่สะท้อนกลเกมการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ  

ไฟนอล \"สังเวียนสภา\"- \"สุราฯ-กัญชา\" ศึกวัดพลัง !

ฝั่งสนับสนุนให้ถอนร่างทั้ง “ประชาธิปัตย์” และ “เพื่อไทย” ให้เหตุผลในทำนองเดียวกัน ในเรื่องการปรับแก้ที่เป็นเสมือนการ “ตัดกางเกงผิดแบบ” ซ้ำยังมีข้อเสนอที่ “สุดโต่ง” เพื่อเปิดให้มีการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ ชนิด “พี๊!ได้อย่างเสรี”

ฟาก“ภูมิใจไทย”  ในฐานะผู้เสนอร่างกฎหมาย แก้เกมด้วยการงัดสารพัดผลศึกษาจากหน่วยงานต่างๆ หวังประทับตราความถูกต้องของกฎหมาย ซ้ำยังตอกลิ่มเกมการเมือง ที่ไม่ต่างอะไรกับการ “รุมกินโต๊ะ” เสมือนแผนซ่อนกล หวังเตะสกัดนโยบายกัญชา ซึ่งเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง อันส่งผลไปถึงการ “โกยแต้มต่อ” ของพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น

สัญญาณล่าสุด  ยามนี้ยังคงมีความพยายามด้วยการ “ผสมโรง” จากบรรดาพรรคการเมืองหวัง “เตะถ่วง”กฎหมายฉบับดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ค้างอยู่ในสภาในวาระ 2 ซึ่งตามคิว น่าจะเข้าสู่การพิจารณาในช่วงสัปดาห์ที่สองของเดือนพ.ย. หวังผลยาวไปถึงเกมการเมืองที่กำลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง 

ไฟนอล \"สังเวียนสภา\"- \"สุราฯ-กัญชา\" ศึกวัดพลัง !

ทว่าด้วยกลเกมที่เกิดขึ้นท่าทีล่าสุดจาก "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  ดูเหมือนจะรู้สัญญาณ "ศึกวัดพลัง" ภายในขั้วรัฐบาล ที่ส่อแววเกิดแรงกระเพื่อมระลอกใหม่ ซ้ำยังอาจเป็นเกมที่ไปเข้าทางขั้วตรงข้าม

สะท้อนภาพจากวงประชุมครม.วันที่1พ.ย.ที่ผ่านมา ที่นายกฯมีการตรวจแถวพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมกำชับในเรื่องการคุมเกมสภา โดยเฉพาะการโหวตร่างกฎหมายที่จะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน หวังสยบแรงกระเพื่อมที่จะเกิดขึ้น

เช่นนี้ต้องจับตาไปที่พรรคร่วมรัฐบาลทั้งพลังประชารัฐ รวมถึงประชาธิปัตย์ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นตัวตั้งตัวตีในการถอนร่างพ.ร.บ.กัญชาออกจากวาระการประชุมว่าจะ "ว่านอนสอนง่าย" ตามที่ "บิ๊กตู่" มีบัญชาการมาหรือไม่ 

 

ไม่ต่างจากอีกหนึ่งปมร้อนคือ “ร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า”  ซึ่งเสนอโดยพรรคก้าวไกล ที่กำลังพิจารณาวาระ 2 และ 3 ก่อนหน้านี้

ท่ามกลางสัญญาณจากตึกไทยคู่ฟ้า ส่งสัญญาณไปยังสมาชิกโดยเฉพาะขั้วรัฐบาล ในการคว่ำกฎหมายฉบับดังกล่าว

ฟากพรรคก้าวไกล ดูเหมือนจะรู้สัญญาณโดดเดี่ยวที่กำลังเผชิญ  ก่อนหน้า “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรค ออกมาประกาศส่งสาสน์ไปถึง ส.ส.ในการสนับสนุนร่างฉบับดังกล่าว

ไม่เว้นแม้แต่ “พรรคร่วมฝ่ายค้าน”  อย่างพรรคเพื่อไทย ที่เดินคนละทางกับพรรคก้าวไกลเมื่อครั้งโหวตถอนร่างพ.ร.บ.กัญชา

ร้อนถึง “พิธา” ที่ต้องทวนความจำไปในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย เมื่อเดือน ก.ย.2545  ซึ่ง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ เคยจัดมหกรรมสุราไทยและโอท็อป จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกระแสธาร ที่ส่งต่อกระบวนการปลดล็อกสุราไทยให้สามารถเดินทางมาถึงจุดนี้ได้

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกคนจะเดินหน้าสานต่อวิสัยทัศน์นี้ ของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณต่อไปให้เกิดผลสำเร็จ ในการโหวตวันที่ 2 พ.ย.นี้” ข้อความในสาสน์ที่ “พิธา” ส่งถึงพรรคเพื่อไทย

ไฟนอล \"สังเวียนสภา\"- \"สุราฯ-กัญชา\" ศึกวัดพลัง !

ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์พรรคก้าวไกลยามนี้ ดูเหมือนกำลังเผชิญเกมเตะสกัด 2 ต่อ 

ต่อแรก คือความพยายามจากบางกลุ่มก้อนในการคว่ำกฎหมาย ขณะที่ต่อสอง คือกรณีที่ประชุม ครม.เมื่อ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 2 โดยมีไฮไลท์สำคัญในการปลดล็อก “สุราพื้นบ้าน” ให้สามารถดำเนินการได้ง่ายขึ้น

มติครม.ที่ออกมา แม้ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี จะพยายามอธิบายว่า รัฐบาลทำมา 6 เดือนแล้ว ก่อนที่พรรคก้าวไกลจะเสนอกฎหมาย อีกทั้งกฎหมายยังเป็นการอุดช่องโหว่บางประการที่พรรคก้าวไกลอาจมองข้าม

ทว่า มติครม.ที่ออกมาดูเหมือนจะเป็นการตอกย้ำ “ใบสั่ง” จากตึกไทยคู่ฟ้า ในการโหวตคว่ำกฎหมายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกล ขณะเดียวกันยังปรากฎภาพการชิงไหวชิงพริบ เสนอร่างกฎมายปาดหน้าหวังเตะสกัดนโยบาย อันถือเป็นจุดขายพรรคก้าวไกลไปในคราวเดียวกัน

ต่างๆ เหล่านี้ เป็นการตอกย้ำกลเกมการเมืองที่กำลังดำเนินสู่ช่วง “ปัจฉิมบท” ก่อนไปสู่วันเลือกตั้ง ที่จะทวีความร้อนแรงยิ่งขึ้น

สถานการณ์ของ 2 ขั้วที่แม้จะเริ่มเห็นสัญญาณเปิดดีลจับขั้วบางแล้ว ทว่ากลเกมที่เกิดขึ้นไม่ต่างอะไรกับการ “ซ่อนดาบในรอยยิ้ม”

มีสัญญาณยกธงรบเมื่อไหร่ ต่างฝ่ายต่างก็พร้อมชักดาบออกมาฟาดฟันกันได้ทุกเมื่อ ไม่เว้นแม้แต่ขั้วเดียวกัน!!