ป.ป.ช.อัพเดตคดี “เสาไฟกินรี” แจ้งข้อหาแล้ว 2 สำนวน แจงช้าเพราะปัญหาโควิด

ป.ป.ช.อัพเดตคดี “เสาไฟกินรี” แจ้งข้อหาแล้ว 2 สำนวน แจงช้าเพราะปัญหาโควิด

ป.ป.ช.ภาค 1 อัพเดตคดี “เสาไฟกินรี” อบต.ราชาเทวะ 5 สำนวน แจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 2 อยู่ระหว่างรวมหลักฐานอีก 3 คาดเสร็จไล่เลี่ยกัน แจงล่าช้าเพราะติดปัญหาโควิด-19 ยันต้องทำให้ปราศจากข้อสงสัย พิถีพิถันเป็นพิเศษ

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2565 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 1 แถลงข่าวถึงผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 1 โดยมีประเด็นสำคัญคือ ความก้าวหน้าในการไต่สวนเรื่องกล่าวหากรณีการจัดซื้อเสาไฟฟ้าประติมากรรมกินรี พร้อมโคมไฟระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาเซลล์) พร้อมติดตั้งขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ราชาเทวะ

น.ส.ชฎารัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ไต่สวนแยกตามปีงบประมาณตามที่กระทำการทุจริตออกเป็น 5 สำนวน ขณะนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหาไปแล้ว 2 สำนวน ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาแก้ข้อกล่าวหา คาดว่าเมื่อฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามาแล้ว จะสรุปสำนวนเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.โดยเร็ว เพราะเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชนอย่างมาก ส่วนอีก 3 สำนวนอยู่ระหว่างพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา คาดว่าจะเสร็จไล่เลี่ยกัน

“ยืนยันไม่ได้นิ่งเฉย หรือปล่อยปละละเลยให้ล่าช้า เราพยายามรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงให้มากสุดเท่าที่จะมากได้ หาพยานหลักฐานพิสูจน์การกระทำว่าไม่ถูกตามที่กล่าวหาจริงหรือไม่ เพื่อให้ปราศจากข้อสงสัย การดำเนินการอาจไม่ทันใจสื่อมวลชน หรือประชาชนมากนัก แต่ขอให้ทราบว่า ป.ป.ช.ภาค 1 ที่รับผิดชอบไต่สวนคดีนี้ ไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือปล่อยให้ผลการดำเนินการล่าช้า” น.ส.ชฎารัตน์ กล่าว

น.ส.ชฎารัตน์ กล่าวอีกว่า เราพยายามเร่งสุดความสามารถ เพราะในช่วงที่ผ่านมาก่อนคดีนี้ดำเนินการสอบสวน ตั้งแต่ ป.ป.ช. มีมติให้ไต่สวนเรื่องนี้ อบต.ราชาเทวะ ติดปัญหาเรื่องโควิด-19 การส่งมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องมีการสะดุดไปบ้าง เสียเวลาไปหลายเดือนเหมือนกัน การดำเนินการตรงนี้มีองค์ประกอบหลายอย่างเป็นปัจจัยไม่อาจทำให้งานเสร็จภายในคาดการณ์ไว้แต่แรก โดยการรวบรวมพยานหลักฐานคดีนี้ค่อนข้างพิถีพิถันเป็นพิเศษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการจัดซื้อเสาไฟกินรีทั้งหมด ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบระหว่างปีงบประมาณ 2556-2564 รวมวงเงิน 871,020,971 บาท โดยเป็นการประกวดราคาปกติ และการสอบราคา แบ่งเป็น ปี 2556 วงเงิน 64,760,000 บาท ปี 2557 วงเงิน 2,534,519 บาท ปี 2561 วงเงิน 27,622,585 บาท ปี 2562 วงเงิน 171,840,000 บาท ปี 2563 วงเงินรวม 215,768,864 บาท ปี 2564 วงเงินรวม 388,505,000 บาท โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วอย่างน้อย 40 ราย