“ก้าวไกล” เปิด 3 ปัญหาตัวบทกฎหมาย ย้ำจุดยืนต้องแก้ ม.112
“ก้าวไกล” ย้ำจุดยืนแก้ไข ม.112 เพื่อคุ้มครองประมุขของรัฐ ปกป้องเสรีภาพประชาชน เปิด 3 ปัญหาตัวบทต้องแก้ เพื่อให้สอดคล้องหลักประชาธิปไตย-สิทธิมนุษยชน ธำรงไว้ซึ่งเกียรติของสถาบันฯ
เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2565 พรรคก้าวไกล เผยแพร่ข้อมูลและอธิบายเหตุผลของนโยบายการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า นโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือกฎหมายเกี่ยวกับการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ เป็นหนึ่งในหลายนโยบายของพรรคก้าวไกลในชุด "การเมืองไทยก้าวหน้า" ที่นำมาสู่ข้อถกเถียงในสังคมที่หลากหลาย
พรรคก้าวไกลยืนยันว่าข้อเสนอในการแก้ไข 112 ของพรรคก้าวไกล ไม่ได้ทำให้ประเทศเราขาดการคุ้มครองประมุขของรัฐหรือพระมหากษัตริย์ในทางกฎหมาย เพียงแต่เป็นข้อเสนอในการทำให้กฎหมายคุ้มครองประมุขของเราทำหน้าที่ได้ดียิ่งขึ้นในการพัฒนาและรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
พรรคก้าวไกลเห็นว่ากฎหมายมาตรา 112 มี 3 จุดสำคัญที่อาจมีปัญหา จึงต้องการแก้ไขใน 3 ส่วนดังกล่าว เพื่อทำให้กฎหมายคุ้มครองประมุขของประเทศเรา สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนสากล และมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพและความสง่างามของสถาบันพระมหากษัตริย์
- การลดความหนักของโทษ
การแก้ไข 112 ของพรรคก้าวไกล ไม่ได้จะทำให้การหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ถูกกฎหมาย แต่จะทำให้โทษสำหรับความผิดดังกล่าว มีความเหมาะสมและได้สัดส่วนขึ้น
ปัจจุบัน มาตรา 112 กำหนดโทษของการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ไว้อยู่ที่จำคุก 3-15 ปี ซึ่งนับเป็นโทษที่หนักเท่ากับการฆ่าคนโดยไม่เจตนา และสูงกว่าโทษหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ในประเทศอื่นที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงเสนอให้ลดโทษการหมิ่นประมาทพระมหากษัติรย์ จากโทษจำคุก 3-15 ปี เป็น โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือการปรับไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งยังคงเป็นโทษที่สูงกว่าโทษหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาที่พรรคก้าวไกลจะลดลงจากโทษจำคุก 0-2 ปี มาเหลือแค่โทษปรับ
- กำหนดผู้ฟ้องให้ชัดเจน
ปัจจุบัน มาตรา 112 เป็นกฎหมายที่ใครๆก็สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษคนอื่นได้ ซึ่งอาจส่งผลอันไม่พึงประสงค์ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ได้
คนบางกลุ่มอาจตัดสินใจฟ้องมาตรา 112 คนอื่น ไม่ว่าจะด้วยเจตนาที่ต้องการปกป้องสถาบันฯ หรือด้วยความต้องการจะกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง แต่เมื่อจำเลยถูกดำเนินคดีหรือตัดสินว่าผิด ความรู้สึกไม่พอใจก็อาจไปตกอยู่ที่สถาบันฯโดยอัตโนมัติ แม้ในบางครั้งสถาบันฯ อาจจะไม่ได้รับรู้ถึงกรณีดังกล่าวก็ตาม
ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงเสนอให้สำนักพระราชวังเป็นผู้มีสิทธิแจ้งความหรือร้องทุกข์กล่าวโทษเพียงผู้เดียว ซึ่งจะเป็นการปกป้องสถาบันฯ จากการถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยผู้ที่ไม่หวังดี
- การวางขอบเขตการบังคับใช้
คงไม่มีใครปฏิเสธ ว่าการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต กับการหมิ่นประมาทนั้น เป็นคนละเรื่องกัน จริงอยู่ ว่าบทกฎหมายในมาตรา 112 ระบุถึงแค่ความผิดจากการ “ดูหมิ่น หมิ่นประมาท และ อาฆาตมาดร้าย”
แต่ในเชิงปฏิบัติที่ผ่านมา เราเห็นถึงความคลุมเครือและความไม่แน่นอนในการบังคับใช้มาโดยตลอด รวมถึงการฟ้องร้องดำเนินคดีหรือพิพากษาจำคุก กับบางกรณีที่ไม่น่าจะเป็นการกระทำที่เกินเลยการแสดงความเห็นโดยสุจริตหรือเข้าข่ายหมิ่นประมาท
ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงเสนอให้มีการบัญญัติให้ชัดเจนในกฎหมาย เพื่อคุ้มครองกรณีการแสดงความเห็นโดยสุจริตหรือการพูดความจริงที่เป็นประโยชน์ต่อสาธาณะ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกัน กับเหตุยกเว้นความผิด และเหตุยกเว้นโทษ สำหรับการหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดา ณ ปัจจุบัน
จากทั้งหมด 3 ประเด็นที่ได้กล่าวมา จะเห็นได้ว่าข้อเสนอการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลไม่ได้ทำให้การหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ถูกกฎหมาย ไม่ได้ทำให้เราขาดกฎหมายคุ้มครองพระมหากษัตริย์ในฐานะประมุข และไม่ได้ทำให้ประเทศเป็นอะไร นอกเหนือจากระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
แต่การเสนอการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล คือการลดโทษให้มีความเหมาะสมและได้สัดส่วน กำหนดผู้ฟ้องให้ชัดเจนเพื่อปกป้องชื่อเสียงของสถาบันพระมหากษัตริย์และคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออก ที่ไม่เข้าข่ายการหมิ่นประมาท
พรรคก้าวไกลเชื่อว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ กับประชาธิปไตย สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสง่างาม แต่การทำให้สองเสาหลักนี้ มั่นคงและแข็งแรงได้ ก็ต้องกระทำด้วยเหตุและผล ความจริงใจ และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างกว้างขวาง
การแก้ไขมาตรา 112 เป็นหนึ่งในหลายนโยบายในชุด “การเมืองไทยก้าวหน้า” ที่พรรคก้าวไกลต้องการเสนอกับประชาชน และนอกจากชุดนโยบายนี้ เรายังมีอีก 8 ชุดนโยบาย รวมกันเป็น 9 ชุดนโยบาย ที่เราจะทยอยเปิดต่อประชาชนต่อไป
นโยบายชุดต่อไปที่เราจะเปิดในวันเสาร์ที่ 5 พ.ย. คือชุด “สวัสดิการไทยก้าวหน้า” เพื่อฉายภาพให้ประชาชนเห็นถึง ระบบสวัสดิการแบบครบวงจร ที่พรรคก้าวไกลต้องการสร้าง เพื่อรับประกันความมั่นคงในชีวิตกับประชาชนคนไทยทุกคนตลอดช่วงชีวิต