"เสรีพิศุทธ์" พร้อมร่วมงานกับทุกพรรค ที่ไม่ชู "ประยุทธ์" เป็นนายกฯ

"เสรีพิศุทธ์" พร้อมร่วมงานกับทุกพรรค ที่ไม่ชู "ประยุทธ์" เป็นนายกฯ

"เสรีพิศุทธ์" แจงเหตุผลไม่รวมพรรคกับ "เพื่อไทย-ไทยสร้างไทย" เหตุ แกนนำ2พรรค มีปัญหากัน หวั่นถูกมองไม่ดี ระบุพร้อมจับมือการเมือง ร่วมงานกับ "ประวิตร" หากชู "ประยุทธ์" เป็นนายกฯ

        พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย ถึงการถูกชวนไปร่วมงานทางการเมืองกับพรรคการเมือง ว่า ชื่อของพรรคตนคือ พรรคเสรีรวมไทยสามารถรวมได้กับทุกพรรค ยกเว้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพราะเป็นเผด็จการที่ยึดอำนาจ ตนยืนยันว่าไม่เอา แต่หากเป็นพล.อ.วิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคคพลังประชารัฐ ยังพอคุยกัน เพราะพล.อ.ประวิตรไมม่ใช่ตัวหลักของการยึดอำนาจ 

 

        “ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะสามารถรวมได้หมด ผมไม่มีปัญหากับใคร แต่กรณีที่พรรคเพื่อไทย และ พรรคไทยสร้างไทยที่มาชวน ผมทราบว่าแกนนำของทั้ง2 พรรคมีปัญหากัน หากตอบตกลงไปรวมกับฝ่ายใด อีกฝ่ายจะมองได้ ทั้งนี้ผมรู้จักกับ นายทักษิณ ชินวัตร มากว่า 50 ปี สมัยเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เมื่อรับราชการมาเจอกันจนถึงทำงานการเมือง ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์รู้จักกันตอนที่เป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์ และถูกขอให้ไปช่วยแก้ปัญหาลำใยในพื้นที่ภาคเหนือ ดังนั้นผมรู้จักกับทั้ง 2 ฝ่ายเป็นอย่างดี” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว

        พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่าขณะนี้การระบุว่าไม่ไปรวมพรรคเพื่อไทย หรือพรรคไทยสร้างไทย ต้องพิจารณาและต้องดูการตกผลึก เช่น หาก คุณหญิงสุดารัตน์กลับมาเป็นนายกฯ สามารถจับมือกันทางการเมืองได้ หากเขายังคุยกันไม่ได้ พรรคเสรีรวมไทยยังไม่ตกผลึก 

 

         เมื่อถามว่าถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศพร้อมร่วมงานการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐ   พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวย้ำว่า “ผมไม่เอาพล.อ.ประยุทธ์ คนเดียว หากเพื่อไทยไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะพล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค ผมตกลงได้ แต่หากพล.อ.ประวิตร ชูพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ผมไม่เอา และผมมีเงื่อนไขเดียว ทั้งนี้มองว่าพล.อ.ประวิตร พูดง่ายกว่า”

 

 

 

        เมื่อถามถึงการตรวจสอบพล.อ.ประวิตร ในชั้นกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ฐานะประธานกรรมาธิการ บอกว่า ต้องตรวจสอบในรนายละเอียดแต่ไม่ใช่การสรุปว่ามีความผิดหรือไม่ ดังนั้นเป็นการทำหน้าที่ ให้ความเป็นธรรมกับทุกคน