เส้นทางคดี "ครรชิต ทับสุวรรณ" อดีต ส.ส. พ้นโทษจำคุกตลอดชีวิตคดียิงคนตาย

เส้นทางคดี "ครรชิต ทับสุวรรณ" อดีต ส.ส. พ้นโทษจำคุกตลอดชีวิตคดียิงคนตาย

คนดังโซเชียล เส้นทางคดี "ครรชิต ทับสุวรรณ" อดีต ส.ส. สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ พ้นโทษจำคุกตลอดชีวิตคดียิงคนตาย

กรณีการปล่อยพ้นเรือนจำของ นายครรชิต ทับสุวรรณ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งต้องโทษศาลฎีกาจำคุกตลอดชีวิต ในคดีใช้อาวุธปืนยิงนายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร เสียชีวิตบนเวทีงานเลี้ยง

เส้นทางคดีและคำพิพากษา "ครรชิต ทับสุวรรณ" 

จากเหตุการณ์กรณี อดีต ส.ส.สมุทรสาคร นายครรชิต ทับสุวรรณ พรรค ปชป. ที่ตกเป็นผู้ต้องหาลงมือจ่อยิง นายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ อดีต นายก อบจ.สมุทรสาคร ที่ผ่านมา จนเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุในบริเวณหน้าห้องน้ำปั๊มน้ำมัน ปตท. ย่านถนนเศรษฐกิจ -คลองครุ ต.ท่าทราย อ.เมืองสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2554 หลังจากนายอุดรนั่งรถฟอจูนเนอร์สีเทา ของตนเองหมายเลขทะเบียน กก 2424 สมุทรสาคร พร้อมกับคนขับรถได้แวะเข้าจอดรถเพื่อทำภารกิจส่วนตัวภายในห้องน้ำดังกล่าว ก่อนไปร่วมงานณาปนกิจศพคนรู้จักกันที่วัดคลองครุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จากพยานหลักฐานที่รวบรวม ผู้ก่อเหตุซึ่งถูกระบุคนร้ายคือ อดีต ส.ส. ขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า 4 ประตูสีบรอนทอง ได้ขับมาจอดไล่หลังกันไม่นาน ก่อนที่จะมีการลงมือเดินลงจากรถก่อนเข้าจ่อยิงนายอุดรเข้าที่ศีรษะหลายนัดหลังจากมีการพูดคุยกันซักพักที่หน้าห้องน้ำ เป็นเหตุให้นายอุดรเสียชีวิตทันที

ต่อมา ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ได้นัดทั้งสองฝ่ายทั้งเครือญาติและทนาย ฝ่ายโจทย์และฝ่ายจำเลย เข้าร่วมฟังคำพิพากษาตัดสินคำพิพากษา (ศาลชั้นต้น) ในบัลลังก์ 8 ในคดีฆ่าผู้อื่นฯ ผู้พิพากษา เป็นผู้นั่งอ่านคำพิพากษาใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งจากการพินิจพิเคราะห์หลักฐานของการสืบสวนสอบสวนพยานบุคคลทั่วไป และประจักพยานในเชิงหลักวิทยาศาสตร์ ที่เจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมได้ ที่ใช้ในการประกอบสำนวนประกอบน้ำหนักเพื่อการตัดสินในคดีดังกล่าว ซึ่งเชื่อได้ว่าจำเลยเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว

ศาลจึงมีคำตัดสินให้บทลงโทษประหารชีวิต นายครรชิต ทับสุวรรณ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร ในฐานความผิด ได้แก่ มาตรา 289 (4) ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มาตรา 390 ข่มขู่ผู้อื่นให้เกิดความกลัว, มาตรา 392 ยิงปืนโดยไม่มีเหตุอันควรในที่สาธารณะฯ และ มาตรา 371 พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควรฯ นอกจากนี้ยังระบุฝ่ายโจทย์ สามารถฟ้องเรียกค่าชดเชยและสินไหมชดเชยค่าเสียหายจากเหตุการณ์นี้ได้ตามกฎหมายให้แก่ผู้ร้อง ในกรณีมีนางพอใจ ไกรวัตนุสสรณ์ มารดาของนายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ และนายมณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ ผู้เป็นพ่อ รวมทั้งมีภรรยา และบุตร-ธิดา ร่วมเป็นโจทย์รวมได้ต่อไป

 

วันพิพากษา (12 พ.ย. 2557) นายครรชิต ทับสุวรรณ อดีต ส.ส. สมุทรสาคร พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดสมุทรสาคร ด้วยรถยนต์ฮอนด้าแอคคอร์ทสีดำ ทะเบียนสมุทรสาคร เพื่อมาฟังคำพิจารณาตัดสินของศาลจังหวัด (ศาลชั้นต้น) ในฐานะตกเป็นจำเลย ยิงนายอุดร (ตุ่น) ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตนายก อบจ. 

หลังจากศาลจังหวัดสมุทรสาคร พิพากษาประหารชีวิต นายครรชิต ทับสุวรรณ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ตกเป็นจำเลยฆ่า นายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ อดีต นายก อบจ.สมุทรสาคร จากนั้นฝ่ายญาติของผู้ต้องหาได้ยื่นเรื่องพร้อมเงินสดจำนวน 1.4 ล้านบาท ขอประกันตัว ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาติให้ประกันตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่เตรียมคุมตัวนายครรชิต ผู้ต้องหาเข้าเรือนจำจังหวัดสมุทรสาคร และหากผู้ต้องหาจะขออุทธรณ์ ต้องยื่นเรื่องต่อศาลอุทธรณ์ภาค 7 จ.นครปฐม

หลังศาลจังหวัดได้มีคำการส่งตัวนายครรชิต เข้าคุมขังยังเรือนจำสมุทรสาคร แดน 6 ซอย 5 ในลักษณะห้องสามารถพักอยู่ร่วมอยู่ได้ประมาณ 10 คน 

ทนายและญาติของนายครรชิต ได้มีการยื่นขอประกันตัวต่อศาล แต่ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้พิจารณาแล้ว เห็นว่า ความหนักเบาแห่งข้อหา พฤติการณ์แห่งคดี หากปล่อยชั่วคราว เกรงจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ประกันตัว จากนั้นได้มีการนำตัวนายครรชิต ไปฝากขังยังเรือนจำสมุทรสาคร แต่สำหรับรายของนายครรชิต เป็นโทษประหารชีวิต อาจจะถูกย้ายไปหลายที่ แล้วแต่โทษ แล้วแต่คดี ซึ่งอาจจะเป็นเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี หรือเรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี 

ต่อมา นายครรชิต ได้ต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ปี 2558 ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต จนมาถึงชั้นศาลฏีกาปี 2559  และเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2559 ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุกตลอดชีวิต นายครรชิต ทับสุวรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จำเลยคดีฆ่านายอุดร ไกรวัตนุสสรณ์ อดีตนายก อบจ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2554 ภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.บริเวณ กม. 2 ตรงข้ามบิ๊กซีมหาชัย และให้ชดใช้ค่าสินไหมแก่ภรรยา และบุตร ของผู้เสียชีวิต จำนวน 13,300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จ ซึ่งเท่ากับว่า ติดคุกประมาณ 7-8 ปี นับคำพิพากษาศาลฎีกา