หวยล็อก "นริศ" ชิงดำมท.3 ทิ้งทวนรัฐบาล ปูทางเลือกตั้ง

หวยล็อก "นริศ" ชิงดำมท.3  ทิ้งทวนรัฐบาล ปูทางเลือกตั้ง

กลเกมการเมืองในช่วงปลายเทอมรัฐบาล เก้าอี้ "รมช.มหาดไทย" ถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในห้วงที่การเมืองกำลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง

โผรายชื่อรัฐมนตรี (ครม.) ชุดประยุทธ์ 2/5 ทดแทน “4 เก้าอี้รัฐมนตรี” ที่ว่างลง ไม่ว่า 2 เก้าอี้ “พรรคพลังประชารัฐ”  ในส่วนของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีต รมช.แรงงาน และ 1 เก้าอี้ “พรรคประชาธิปัตย์” ในส่วนของ นิพนธ์ บุญญามณี อดีต รมช.มหาดไทย รวมถึง 1 เก้าอี้ “พรรคภูมิใจไทย” แทน กนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ

จนถึงยามนี้ น่าจะมี ปชป.เพียงพรรคเดียว ที่ส่งสัญญาณชัดเจน ขอปรับตำแหน่ง “มท.3” ที่เป็นของนิพนธ์เดิม จึงต้องจับตาการประชุมพรรควันนี้ (12ต.ค.) ซึ่งจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับตัวบุคคล เพื่อเสนอไปยังนายกรัฐมนตรี 

สำหรับรายชื่อที่ ปชป.เตรียมเสนอ แกนนำทุบโต๊ะแล้วว่า จะต้องเป็น “สัดส่วนภาคใต้” ตามโควตาเดิม ทำให้รายชื่อที่อยู่ในลิสต์ตามลำดับอาวุโส ยามนี้จึงเหลือเพียง “นริศ ขำนุรักษ์” ส.ส.พัทลุง ประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา

สำหรับสเปก “มท.3” ตามที่ “นิพนธ์” ระบุ จะต้องไม่ใช่พิจารณาแค่การเป็น ส.ส.5 สมัย แต่จะต้องพิจารณาเรื่องความ “ตอบโจทย์” การทำหน้าที่ มท.3  ซึ่งกำกับดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย(ปภ.) และกรมที่ดิน

โดยเฉพาะในแง่ของพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ติด “กฎเหล็ก” 180 วัน ของ กกต.ทำให้ ส.ส.และผู้สมัครไม่สามารถลงพื้นที่ หรือแจกของได้อย่างเต็มที่ จะต้องอาศัยกลไกที่พรรคมีอยู่เป็นตัวช่วย

ฉะนั้น หากดูตามสเปกที่ “นิพนธ์”ระบุ บวกสัญญาณภายในพรรค ทำให้ยามนี้ หวยล็อกไปที่ “นริศ” ซึ่งมีความสนิทสนามกับ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค

อีกทั้ง เคยเป็นหนึ่งในลิสต์ ปชป.เมื่อครั้งปรับ ครม.ประยุทธ์ 2/4 แทน ถาวร เสนเนียม อดีต รมช.คมนาคม ก่อนที่ต่อมา ปชป.จะมีมติ เสนอชื่อ สินิตย์ เลิศไกร เป็น รมช.พาณิชย์ ซึ่งเป็นการสลับกระทรวงระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย

ยิ่งไปกว่านั้น หนึ่งในแคนดิเดตรับสภาพแล้วว่า “หวยล็อก” เป็นที่เรียบร้อย 

ขณะเดียวกัน “คนในพรรค” ยังขยายความอีกว่า “นริศ”  ซึ่งเป็นมุสลิม น่าจะตอบโจทย์ในแง่ของพื้นที่โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งถือเป็น “จุดโหว่” ของ ปชป. 

แต่กระนั้น ยังต้องลุ้นด่านสุดท้าย คือมติที่ประชุมพรรค ที่จะต้องรับรองเป็นด่านสุดท้าย ในวันนี้(12ต.ค.) ซึ่งล่าสุดในส่วนของกันตวรรณประกาศชัดไม่ชิงตำแหน่ง จึงทำให้เหลือเพียง "นริศ" และ "ประกอบ" เท่านั้น 

ต่างจาก “ค่ายภูมิใจไทย” ที่ล่าสุดมีประกาศิตมาจาก “ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยืนยันไม่เรียกคืน “โควตาปราจีนบุรี” ซึ่งเป็นของ “บ้านใหญ่วิลาวัลย์” เดิม เนื่องจากมองว่า ในส่วนของคดีความที่ “ครูโอ๊ะ” มีอยู่เวลานี้ ก็ยังไม่มีคำตัดสิน

เมื่อเทียบกับคดีการเมืองอื่นๆ โดยเฉพาะคดีโรงพักทดแทน ซึ่งที่สุด “สุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตแกนนำ กปปส.ตกเป็นผู้ต้องหา แต่รอดคดีในท้ายที่สุด

เวลานี้จึงไม่จำเป็นต้องเขย่าโควตารัฐมนตรี เพราะยุทธศาสตร์สำคัญของค่ายภูมิใจไทยยามนี้ กำลังมุ่งไปที่การ ดูด ส.ส.ตุนแต้มเพื่อเป็นพรรคแกนนำเป็นสำคัญ 

ขณะที่ ในส่วนของ “2 โควตาพลังประชารัฐ”ก่อนหน้า มีรายงานว่า “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  รองนายกฯในฐานะหัวหน้าพรรค พยายามส่งสัญญาณไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปแล้วรอบหนึ่ง แต่ด้วย “ตัวบุคคล” ที่มีการเสนอไป ทำให้ได้รับสัญญาณ “เซย์โน” จากพล.อ.ประยุทธ์ ในท้ายที่สุด 

เวลานี้ ยังต้องจับตากลเกมภายในค่ายพลังประชารัฐ ท่ามกลางกระแสข่าวย้ายค่าย รวมถึงการต่อรองยื่นหมูยื่นแมว ที่ล่าสุดยังมีความเคลื่อนไหว ของบรรดา ส.ส.วิ่งเข้าออกป่ารอยต่อกันให้วุ่น

ยิ่งนับถอยหลังในช่วง “ปลายเทอมรัฐบาล” สัญญาณเลือกตั้งที่เริ่มนับหนึ่ง การช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมืองจะยิ่งทวีความร้อนแรงมากขึ้น เมื่อเป้าหมาย “สามขั้ว” คือการเข้าสู่อำนาจรัฐบาล