“นายกฯ” นำ ครม. ยืนไว้อาลัย โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู สั่ง ตั้งบอร์ดปราบยาเสพติด

“นายกฯ” นำ ครม. ยืนไว้อาลัย โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู สั่ง ตั้งบอร์ดปราบยาเสพติด

“โฆษกรัฐบาล” เผย “นายกฯ” กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ “ในหลวง-ราชินี” พระราชทานความช่วยเหลือครอบครัวผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิต จากโศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู นำ ยืนไว้อาลัยก่อนประชุมครม. 1 นาที สั่งคุมเข้ม การพกอาวุธของ จนท.-ปชช. ทั้งให้ตั้งบอร์ดปราบยาเสพติด

นายอนุชา บูรพชัยศรี  รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้  พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้กล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระราชทานกำลังใจพระราชทานความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์จากเหตุสลดใจที่เกิดขึ้นที่ศูนย์เด็กเล็ก จ. หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมาสร้างความสะเทือนใจแก่พี่น้องประชาชนทั่วประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญคณะรัฐมนตรีร่วมยืนไว้อาลัยประมาณ 1 นาที ก่อนเริ่มการประชุมด้วย 

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้เน้นการปราบปราบยาเสพติดและกำหนดให้ยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นที่ จ. หนองบัวลำภู ส่วนหนึ่งมาจากปัญหายาเสพติดและสภาพจิตใจของผู้ก่อเหตุ ทำให้รัฐบาลยิ่งเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเร่งบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ในการป้องกัน ปราบปราบยาเสพติดให้เข้มงวดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นครอบคลุมทั้งการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับพิษภัยยาเสพติดในทุกๆ ช่องทาง เปิดช่องทางเพิ่มเติมให้ประชาชนช่วยสอดส่องเป็นหูเป็นตา มีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแสและแชร์ข้อมูล  อีกทั้งทบทวนมาตรการนำเสนอหรือเผยแพร่ภาพ เสียง หรือ บทสัมภาษณ์ หรือข่าวสารรวมทั้งการนำเข้าข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเคารพสิทธิ์ของผู้เสียหายและป้องกันไม่ให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ

นายกรัฐมนตรีได้ให้เร่งรัดจับกุม ดำเนินคดี และลงโทษผู้กระทำความผิด เกี่ยวกับยาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นการผลิตการนำเข้าการนำผ่านและการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด และสารตั้งต้นต่างๆอย่างรวดเร็วและจริงจัง ยึดทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด การทำลายยาเสพติดที่ได้จากการยึดโดยเร็ว รวมถึงการทบทวนหลักเกณฑ์การเสนอขอรับพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่เป็นตัวการ ผู้ใช้ และผู้สนับสนุน รวมทั้ง การประสาน และให้ความช่วยเหลือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อกำจัดแหล่งผลิตยาเสพติดและส่งเสริมอาชีพทดแทน อีกทั้งให้มีมาตรการลงโทษข้าราชการ พนักงานรัฐลูกจ้างรัฐและวิสาหกิจ ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด 

ขณะเดียวกัน เร่งบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด เยียวยา ฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้เสพ ให้กลับมาเป็นคนดีและพลังบวกของสังคม ไม่หวนกลับไปติดยาเสพติดอีก การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันครอบครัวอันเป็นพื้นฐานที่สำคัญของสังคม รวมทั้งการส่งเสริมการพัฒนาทักษะอาชีพและหางานให้ รวมถึงการเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้เสียหาย ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆ ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม รวมทั้งการเข้าถึงจิตแพทย์ของประชาชนทั่วไปเพื่อบำบัดรักษาผู้ซึ่งมีความเครียด ซึ่งอาจต้องเพิ่มจำนวนจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา อีกทั้งการเยียวยาหรือให้การสงเคราะห์ที่รวดเร็วแก่ผู้เสียหายจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อันเป็นคดีอาญาด้วย 

นอกจากนี้ ยังให้มีมาตรการเข้มงวดในการควบคุมและพกพาอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้มีการทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวกับยาเสพติดที่บังคับใช้อยู่ และที่อยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานต่างๆ ให้สอดคล้องกับเป้าหมายและมาตรการในการดำเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่เข็มข้นนี้ด้วย  

นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการบูรณาการการทำงานด้าน การป้องกันและปรับปรามยาเสพติด นายกรัฐมนตรีจึงมีข้อสั่งการให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่ง โดยนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีรองนายกรัฐมนตรีทุกท่าน และรัฐมนตรีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เป็นกรรมการ เพื่อขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้เข้มงวด และบูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  โดยมอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จัดทำระเบียบหรือคำสั่งที่เกี่ยวข้องเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต่อไป