"ส.ว." จี้ทบทวน กม.ยาเสพติด-อาวุธปืน กันซ้ำรอย "ทาสยาคลั่ง" ก่อเหตุรุนแรง

"ส.ว." จี้ทบทวน กม.ยาเสพติด-อาวุธปืน กันซ้ำรอย "ทาสยาคลั่ง" ก่อเหตุรุนแรง

กมธ.พัฒนาสังคม วุฒิสภา จัดเสวนาโต๊ะกลม หาแนวป้องกันเหตุรุนแรงสังคม "ปิยฉัฏฐ์" แนะเร่งทบทวนกม.ยาเสพติด-อาวุธปืน ชี้มีช่องโหว่ ด้าน "สมหมาย" ชี้ "ปัญญา" คือเหยื่อสังคม "ผบ." ไม่เป็นที่พึ่ง

           ผู้สื่อข่าวรายงาว่า คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรีมผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา ที่มีนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานกรรมาธิการ จัดโครงการเสวนาโต๊ะกลม เรื่องแนวทางป้องกันและลดความรุนแรงในสังคมไทย ภายหลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู  

 

           โดยนายวัลลภ กล่าวว่า ตนเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วัตถุประสงค์ของการเสวนาครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าเหตุโศกนาฏกรรมลักษณะนี้ เกิดขึ้นในเมืองไทยบ่อยครั้ง โดยมีครั้งใหญ่ 2 เหตุการณ์ ได้แก่ เหตุการณ์กราดยิงที่จังหวัดนครราชสีมา และล่าสุดที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งถือเป็นความสะเทือนใจที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ในฐานะที่ คณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมฯ มีหน้าที่เชิงนิติบัญญัติ เห็นว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ใหญ่มาก และมีความสัมพันธ์มาสู่ปัจจัยปลีกย่อยอีกมาก ซึ่งปัจจัยหลักที่สำคัญในการก่อเหตุอย่างหนึ่งคือ ยาเสพติด และการที่มีอาวุธอยู่ใกล้ตัว กรรมาธิการจึงจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยเหล่านี้

 

           “แนวทางแก้ไขผมมองว่าควรมีศูนย์เพื่อปรึกษาและให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่มีความเครียดหรือความทุกข์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการก่อเหตุการใช้ความรุนแรง โดยมีงานวิจัยรองรับว่าอาชญากรที่ก่อเหตุทั่วโลก เป็นเพราะสะสมความรุนแรงตั้งแต่วัยเด็ก มองว่าปัจจัยที่มีผลต่อการสะสมความรุนแรงน่าจะมาจากการเล่นเกม จึงอาจเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่จะหารือกันว่าจะมีการควบคุมหรือจำกัดกลุ่มอายุของผู้เล่นเกมได้อย่างไร ซึ่ง ส.ว.เคยเสนอร่างกฎหมาย กำหนดเรตติ้งความรุนแรงของเกม แต่ยังไม่ได้เข้าสู่วาระการประชุม มองว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้อาจมีการผลักดันให้เร็วขึ้น”นายวัลลภ กล่าว

 

           ขณะที่ในเวทีดังกล่าวมีประเด็นข้อเสนอจากผู้ร่วมงาน อาทิ น.ส.ปิยฉัฏฐ์ วันเฉลิม  ส.ว. กล่าวในงานเสวนาโต๊ะกลม เรื่อง แนวทางป้องกันและลดความรุนแรงในสังคมไทย ภายหลังเกิดเหตุโศกนาฏกรรมภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรีมผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา   ว่า ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ ที่กำหนดให้ผู้ติดยาเสพติดที่สมัครใจเข้ารับการบำบัดจะไม่ถูกบันทึกประวัติอาชญากร ตนมองว่าในเนื้อหาของกฎหมายดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดี สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน สภาพสังคม แต่การปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์กฎหมายต้องมีเงื่อนไข เพื่อไม่เปิดช่องให้ผู้เสพยาเสพติดใช้การสมัครใจเข้ารับบำบัดใช้เป็นตัวหลบเลี่ยงถูกจับดำเนินคดี อีกทั้งการเปลี่ยนแนวคิดผู้เสพคือผู้ป่วยพบว่าไม่มีความพร้อมที่สมมบูรณ์

"ส.ว." จี้ทบทวน กม.ยาเสพติด-อาวุธปืน กันซ้ำรอย "ทาสยาคลั่ง" ก่อเหตุรุนแรง

 

           “ประมวลกฎหมายอาเสพติดเป็นช่องทางที่ตั้งใจบำบัด เพื่อไม่ให้ติดประวัติอาชญากรทำให้ สาธารณสุขต้องรับมือ ในพช่วงเปลี่ยนผ่าน บางแห่งพร้อม แต่บางแห่งไม่พร้อม สิ่งที่อยากเห็นคือ กรณีเลือกสมัครใจบำบัด ฟื้นฟู รักษา ต้องไม่ใช่เพื่อเลี่ยงการถูกดำเนินคดี หากพบว่าสมัครใจเข้าบำบัด แต่เมื่อออกมาแล้วยังพบการเสพอีก ต้องมีเงื่อนไข ไม่ใช่ถูกจับทุกครั้ง เลือกสมัครใจบำบัดได้ตลอดไม่มีข้อจำกัด” น.ส.ปิยฉัฏฐ์ กล่าว

 

           น.ส.ปิยฉัฏฐ์ กล่าวด้วยว่า ขณะที่การครอบครองอาวุธปืน พบว่าเป็นกฎหมายที่ออกมานาน ตั้งแต่ปี 2490 แม้จะแก้ไขในปี 2557 แต่นานมากแล้ว  ดังนั้นเนื้อหาไม่เป็นปัจจุบัน ดังนั้นสิ่งที่ทำได้รวดเร็วคือการออกกติกาและแนวทางออก 

           “กฎหมายอาวุธปืน กำหนดบทยกเว้นผู้ที่ต้องโทษเพราะถูกยั่วโทสะ ให้สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ หากไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ควรได้รับยกเว้นหรือไม่ อีกทั้งต้องมีเนื้อหาเพื่อจำกัดการครอบครอง เพื่อขอมีและใช้ ที่เปิดช่องให้คนสามารถมีอาวุธได้มาก เข้าถึงอาวุธได้ง่าย นอกจากนั้นความเคร่งครัดในคุณสมบัติต่างๆ  คนที่จะได้รับอนุญาต คนทำผิดอาญาบางมาตราสามารถมีและใช้อาวุธปืนได้”  น.ส.ปิยฉัฏฐ์

 

           ขณะที่พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ส.ว.  กล่าวตอนหนึ่งในเวทีสัมมนา ว่า ตนฐานะอดีตผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ดังกล่าว มองว่าเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นที่จ.หนองบัวลำภู โดย ส.ต.อ.ปัญญา เป็นเพราะความบกพร่องของการบริหารงานตำรวจ ที่ไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้กับคนในองค์กรตนเองได้ นอกจากนั้นหากบังคับใช้กฎหมายและทำงานได้จริงจังปัญหาจะน้อยลง ทั้งนี้ตนเชื่อว่าส.ต.อ.ปัญญา ฐานะผู้ก่อเหตุไม่ได้มีความโหดร้าย แต่เป็นเหยื่อของสังคมที่ใช้ยาเสพติดเยอะ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่มีแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน ที่คนสงสัยว่าทำไมยาบ้าระบาดเยอะ เพราะปัญหาน้ำท่วมที่น้ำท่วมถ้ำซึ่งซุกซ่อนยา ทำให้ต้องเร่งระบาย ขณะที่ต้นทุนการผลิตนั้นเม็ดละ 1 บาท เมื่อนำมาขายเม็ด2บาทกำไรเท่าตัว นอกจากนั้นผู้ใช้แรงงานระดับล่าง เช่น คนตัดอ้อย เก็บมันสำปะหลัง ต้องพึ่งยาเพื่อให้มีแรงทำงาน

"ส.ว." จี้ทบทวน กม.ยาเสพติด-อาวุธปืน กันซ้ำรอย "ทาสยาคลั่ง" ก่อเหตุรุนแรง

           “วันที่ส.ต.อ.ปัญญาขึ้นศาล เขามีผู้พิพากษาเป็นที่พึ่ง เขาอ่อนน้อม ถ่อมตนไม่ก้าวร้าว ไม่เคยทำร้ายแม่ วันที่เขาไปศาลแม่ไปด้วย แต่จากสิ่งที่ถูกจับดำเนินคดีและขึ้นศาลนั้น ผู้พิพากษาให้คำแนะนำ  กรณีที่ถูกจะออกจากราชการ ให้หาคนรับรองความประพฤติ ทั้งจากผู้บังคับบัญชา และ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเพื่อให้รับรองความประพฤติเพื่อไปสู้คดีทางวินัยแต่ทุกคนหนีเขาหมด ทำให้สร้างอาชญากรในอากาศกลายเป็นตัวจริง” พล.ต.ท.สมหมาย กล่าว