“สหายผู้กอง”คัมแบ็ค“เพื่อไทย” ภารกิจโซ่ข้อกลาง เสี่ยงแลนด์ไถล

“สหายผู้กอง”คัมแบ็ค“เพื่อไทย” ภารกิจโซ่ข้อกลาง เสี่ยงแลนด์ไถล

ในมุมของ “ทักษิณ” เชื่อใจว่า “สหายผู้กอง” ที่มีสายสัมพันธ์แน่นปึ้กกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และเป็นเด็กในบ้านของ “ป.4” ซึ่งสนิทชิดเชื้อกับ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” จะสามารถต่อสายตรงกับ “หัวขบวนอนุรักษ์นิยม” ได้

กระแสข่าว “ผู้กองมนัส” ส.ส. พะเยา ขอกลับพรรคเพื่อไทย (พท.) หนาหูมาสักระยะ และเมื่อมีความชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ไปต่อ หลังรอดพ้นปม 8 ปี ความชัดเจนจึงเกิดขึ้น

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" จัดแจงให้ลูกพรรคเศรษฐกิจไทย จัดประชุม แจ้งวาระลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยไร้ชื่อทั้ง ส.ส.และกรรมการบริหารชุดเก่าเข้าประจำการ

สถานีต่อไปของ “ร.อ.ธรรมนัส-ลูกพรรคศท.” ถูกเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย ว่ากันว่า “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร การันตีที่ยืน คือ “เป็นหนึ่งในขุนพล” ค่ายสีแดง ลงสู้ศึกเลือกตั้งรอบหน้า

แม้จะมีแรงต้านจาก “ทีมยุทธศาสตร์เพื่อไทย” และ “ทีมอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อกระแส “แลนด์สไลด์” ที่ปลุกปั้นกันมาแรมปี เนื่องจากภาพจำ “มันคือแป้ง” หากถูกฝั่งตรงข้ามจี้จุดอ่อนนี้ โอกาสที่คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทย รวมทั้งจากคนรุ่นใหม่ อาจลดน้อยถอยลง

โดยเฉพาะ “ส.ส.-ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.” ในพื้นที่เขตเมือง เกรงว่าจะสูญเสียแต้มการเมืองจากกระแสนี้ 
 

วงในเพื่อไทย เล่าว่า มี “ส.ส. กทม.” รายหนึ่ง ส่งลิงค์ข่าว “ธรรมนัส” กลับเข้าพรรคเพื่อไทย เข้าไปยังกลุ่มไลน์พรรคเพื่อไทย พร้อมสอบถามว่า “จะรับคนแบบนี้กลับจริงหรือ” แต่ไร้คำชี้แจงจาก “บิ๊กเนม” ของพรรค

เมื่อไม่มีสัญญาณตอบกลับ จึงตีความได้ว่า ข่าวคราวดังกล่าวเป็นความจริง และมีคอนเฟิร์มอย่างไม่เป็นทางการว่า “เจ้าของพรรค”เคาะแล้วว่าจะเลือกใช้บริการ “สหายผู้กอง” ทำให้ลูกพรรคซึ่งอยู่ในฐานะผู้อาศัย ต้องยอมจำนน

ว่ากันว่า ในมุมของ “ทักษิณ” เชื่อใจว่า “สหายผู้กอง” ที่มีสายสัมพันธ์แน่นปึ้กกับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และเป็นเด็กในบ้านของ “ป.4” ซึ่งสนิทชิดเชื้อกับ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” จะสามารถต่อสายตรงกับ “หัวขบวนอนุรักษ์นิยม” ได้

อย่าลืมว่า หนทางของ “ทักษิณ” ที่จะมีโอกาสกลับมาเหยียบแผ่นดินไทย นอกจากจะต้องชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์แล้ว จำเป็นต้องมี “มือดีล” ที่สามารถเปิดดีลกับ “หัวขบวนอนุรักษ์นิยม” ให้ยอมเชื่อใจได้ ซึ่ง “สหายผู้กอง” อาจตอบโจทย์ตรงนี้ได้
 

ขณะเดียวกัน สไตล์การทำงานการเมืองของ ร.อ.ธรรมนัส อาจการันตีตัวเลข ส.ส.ให้กับพรรคเพื่อไทยได้ หากแบ่งโซน-แบ่งพื้นที่ให้รับผิดชอบ โฟกัสหลักไปที่ จ.พะเยา ซึ่งทางพรรคเว้นพื้นที่รอไว้อยู่แล้ว ตัวว่าที่ผู้สมัครที่มาเปิดตัว อยู่ในฐานะเบอร์รอง และพร้อมหลีกทางให้ตลอดเวลา

ขณะเดียวกัน ส.ส. เศรษฐกิจไทย ที่จะย้ายตามมาด้วย อย่างน้อย 6 ราย อาทิ “ไผ่ ลิกค์” ส.ส. กำแพงเพชร “ปัญญา จีนาคำ” ส.ส.แม่ฮ่องสอน “สมศักดิ์ คุณเงิน” ส.ส.ขอนแก่น “พรชัย อินทร์สุข” ส.ส.พิจิตร “ทัศนาพร เกษเมธีการุณ” ส.ส. นครราชสีมา “เกษม ศุภรานนท์” ส.ส. นครราชสีมา เป็นต้น ยังพอการันตีเก้าอี้ ส.ส.ให้กับพรรคเพื่อไทยได้

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องยอมรับว่า “ธรรมนัส” ในวันที่ไร้เงา “3 ป.” เป็นแบ็คอัปให้ พลังในการขับเคลื่อนงานการเมืองใต้ดิน ย่อมลดน้อยถอยลงไปด้วย 

บทเรียนจากการเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง ที่ “วัฒนา สิทธิวัง” พรรคเศรษฐกิจไทย พ่ายแพ้อย่างยับเยินให้กับ “เดชทวี ศรีวิชัย” จากพรรคเสรีรวมไทย ได้ให้บทเรียนเสือไร้เขี้ยว

จากนี้ “ทักษิณ-ขุนพลเพื่อไทย” คงต้องคำนวณทุกทางว่า การไฟเขียวให้ “ร.อ.ธรรมนัส” กลับเข้าพรรคเพื่อไทย จะได้คุ้มเสียหรือไม่ เมื่อบรรดาลูกพรรค ผวาจะกลายเป็นแลนด์ไถล