ปลัด กทม.ถอดบทเรียนน้ำท่วม ระดมสมองผู้ปฏิบัติงานจริง แก้ปัญหาเป็นรูปธรรม

ปลัด กทม.ถอดบทเรียนน้ำท่วม ระดมสมองผู้ปฏิบัติงานจริง แก้ปัญหาเป็นรูปธรรม

“ปลัด กทม.” นั่งหัวโต๊ะประชุมถอดบทเรียน “น้ำท่วม” ระดมสมองจากผู้ปฏิบัติงานจริง สร้างระบบป้องกัน-แก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ชี้ ก.ย.ฝนตกหนักมากกว่าเกณฑ์เฉลี่ย 5 เท่า ยังเหลือน้ำท่วมขังในซอย 5-6 เขต

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2565 ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร (ปลัด กทม.) เป็นประธานการประชุมถอดบทเรียนสถานการณ์น้ำท่วมและการเตรียมการสำหรับปีต่อไป โดยมีผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

โดยนายขจิต กล่าวภายหลังการประชุมว่า สำหรับช่วงที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณทหารทุกหน่วย กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่มาช่วย กทม. โดยการประสานงานของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ทำให้การประสานงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและดีขึ้น โดยวันนี้มีการถอดบทเรียน ซึ่งในปีหน้าหรือในระยะต่อไปจะต้องดีขึ้นอีก เราจะต้องช่วยกัน ขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบว่าบริเวณใดมีปัญหาน้ำท่วมหรือเป็นอุปสรรค ตาของท่านสำคัญ ขอให้แจ้ง กทม. เพื่อดำเนินการแก้ไขทันที

สำหรับการประชุมวันนี้ มีการแบ่งกลุ่มเพื่อระดมความคิดเห็นออกเป็น 6 กลุ่มเขต  โดยมีรองปลัดกรุงเทพมหานคร 5 ราย และมีนายสุราษฎร์  เจริญชัยสกุล ผู้ตรวจราชการกรุงเทพมหานครสูง ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งที่สำนักการระบายน้ำมาก่อน เป็นหัวหน้าทีม มีปลัดกรุงเทพมหานครกำกับดูแลอีกชั้นหนึ่ง โดยที่ประชุมได้สรุปปัญหาที่เกิดจากฝนตกหนักที่ผ่านมา ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ 

  1. จุดอ่อนน้ำท่วมในพื้นที่ ในรอบที่ผ่านมา รวมทั้งในปี 2564 
  2. ปัญหาอุปสรรคที่ผ่านมา เช่น วัสดุอุปกรณ์ กระสอบทราย เครื่องสูบน้ำ  
  3. ข้อมูลที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในปีต่อไป 

โดยจะมีการสรุปข้อมูลในภาพรวมทุกกลุ่มเขตและทำให้เป็นระบบ ระบบนี้ คือ จะทำอย่างไรให้น้ำในพื้นที่เขตระบายลงคลองหลักให้เร็วที่สุด

ปลัด กทม. กล่าวว่า นายชัชชาติ แจ้งว่าตอนนี้เป็นช่วงที่สถานการณ์ยังร้อน เรายังรู้ข้อมูลว่าตรงไหนน้ำท่วม ตรงไหนน้ำไม่ท่วม วันนี้จึงจัดประชุมถอดบทเรียนสถานการณ์น้ำท่วม เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมามีฝนตกมากกว่าเกณฑ์เฉลี่ยประมาณ 5 เท่า ในพื้นที่ กทม. ประมาณ 800 กว่ามิลลิเมตร มี 2 จุดใหญ่ ๆ ที่มีฝนตกมากในเดือน ก.ย. 2565 คือ พื้นที่เขตหลักสี่ บางเขน ดอนเมือง และพื้นที่เขตลาดกระบัง ประเวศ 

“พอถอดบทเรียนได้ เราจะได้หัวข้อว่า เราจะต้องทำแบบไหน อย่างไรบ้าง ผมว่าผู้ปฏิบัติจริงผู้ทำงานจริงจะเห็นปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ได้ดีกว่า ประสบการณ์ทำให้รู้ว่าเราต้องทำอย่างไร ผมว่าวันนี้ จากประสบการณ์ของท่านรองปลัดแต่ละท่าน ผู้อำนวยการเขต และสำนักการระบายน้ำ มารวมหลอมกัน ซึ่งจะได้ข้อสรุปที่ทำให้น้ำท่วมน้อยลง” นายขจิต กล่าว

นายขจิต กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในปัจจุบันว่า ยังมีบางแห่งมีน้ำท่วมขังในซอย ประมาณ 5-6 เขต เช่น พระโขนง ประเวศ ลาดกระบัง เมื่อคืนมีฝนตกหนักที่หนองแขม บางแค มีน้ำท่วมเล็กน้อยบางเส้นทางซึ่งไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด ตามคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา น่าจะไม่เกินวันที่ 10-11 ต.ค. จะมีฝนน้อยลงไปอีก เกณฑ์เฉลี่ยของฝนเดือนตุลาคม ปกติจะตกไม่มากไม่ถึง 100 มิลลิเมตร ประมาณ 50-60 มิลลิเมตร คาดการณ์ว่าแนวโน้มฝนตกน่าจะดีขึ้น ในส่วนของคลองเปรมประชากร ที่มีการไหลของน้ำประมาณ 3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ได้ดำเนินการเพิ่มให้เป็น 5-6 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยนำสิ่งกีดขวางออกเพื่อทำให้น้ำไหลเร็วขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการใช้ระบบปิดล้อม หลักการคือต้องทำให้น้ำออกกับน้ำเข้ามีปริมาณเท่ากัน รวมทั้งคำนวณปริมาณน้ำที่ใช้ตามบ้านเรือน น้ำฝน และน้ำที่สูบออกไปด้วย 

ในส่วนของแนวแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีการแตกรั่ว จะทำอย่างไรให้น้ำไม่ไหลเข้าบ้านเรือนของประชาชน ปัจจุบันเขื่อนของ กทม. ที่เริ่มจากนนทบุรี มีความสูงประมาณ 3.50 เมตร ไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนมาสุดเขตที่สมุทรปราการ 2.80 เมตร ปัจจุบันระดับน้ำยังต่ำกว่าเขื่อน ยังเชื่อมั่นว่าน้ำเหนือที่ปล่อยลงมาจะไม่ล้นเขื่อน อย่างไรก็ตาม บริเวณจุดฟันหลอ ระยะทาง 2 กิโลเมตรกว่า ๆ ยังมีปัญหา ขอแจ้งประชาชนที่มีแนวรั้วอิฐบล็อกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้แจ้งสำนักงานเขต โทร. สายด่วน กทม. 1555 หรือสำนักการระบายน้ำ โทร. 02 248 5115 เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายไปเสริมกันด้านหลังอิฐบล็อกให้แข็งแรง ต้องเตรียมระวังเนื่องจากจะมีการปล่อยน้ำลงมามากขึ้น 

สำหรับน้ำเหนือมีอยู่ 2 ส่วนที่อาจส่งผลกระทบกับ กทม. ได้แก่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งได้แจ้งให้บ้านเรือนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำยกของขึ้นที่สูงได้ทันที โดย กทม. ได้สร้างทางเดินไว้ให้ อีกส่วนหนึ่งคือพื้นที่ที่จะผันน้ำออกไปทางรังสิต หากผันน้ำมาพอดีพื้นที่หนองจอก ลาดกระบังก็จะไม่ท่วม แต่ถ้าผันน้ำมามากเกินก็อาจจะมีปัญหาได้ ปัจจุบันทางกรมชลประทานดูแล กทม. อยู่แล้ว ต้องขอขอบคุณอธิบดีกรมชลประทานด้วย ขณะนี้การผันน้ำเข้าทางด้านตะวันออกของ กทม. ยังอยู่ในระดับปกติ ถ้าช่วงไหนที่น้ำมากผิดปกติ ทางกรมชลประทานจะแจ้งให้ทราบ และ กทม. จะแจ้งเตือนประชาชนต่อไป ช่วงที่ผ่านมา มีเรือกสวนไร่นาที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย ซึ่งมีสำนักพัฒนาสังคมเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลเยียวยาประชาชนในพื้นที่เกษตรกรรม 16 เขตของ กทม.