มท.1 ชี้มือกราดยิงจิตใจผิดปกติ อย่ามองปมใช้อาวุธปืนแค่มุมเดียว

มท.1 ชี้มือกราดยิงจิตใจผิดปกติ อย่ามองปมใช้อาวุธปืนแค่มุมเดียว

มท.1 ชี้มือกราดยิงจิตใจผิดปกติ ต้องเร่งหามาตรการควบคุม มองแค่เรื่องครอบครองอาวุธปืนมุมเดียวไม่ได้ เผยที่ผ่านมาการพิจารณาออกใบอนุญาตรอบคอบอยู่แล้ว

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2565 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปหนองบัวลำภู ถึงมาตรการและกฎเกณฑ์การออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทยว่า การออกใบอนุญาตเราจะมีกฎเกณฑ์และขั้นตอนต่างๆ ในการพิจารณา ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการอย่างรอบคอบ โดยเกณฑ์การพิจารณามีขั้นตอนละเอียดรอบคอบอยู่แล้ว

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า แต่สิ่งที่อยากจะบอกวันนี้ก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องลึก ๆ ข้างใน เราดูคุณสมบัติว่าเขามีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่จะสามารถพกพาอาวุธได้หรือไม่ ก็มีหลักเกณฑ์ทั่วไป แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้คิดว่าเป็นเรื่องของจิตใจภายใน คนที่ก่อเหตุเช่นนี้ เป็นคนที่มีจิตใจภายใน ข้างในที่ผิดปกติ ต้องหามาตรการที่จะควบคุมให้ได้ ที่สำคัญลองคิดดูว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้ใช้อาวุธปืนอย่างเดียว แต่มีการใช้มีดด้วย แล้วอย่างนี้จะต้องให้เราห้ามใช้มีดด้วยหรือ อย่าลืมว่าครั้งนี้เขาใช้มีดทำร้ายเด็ก

“ถ้าเรามองผลที่เกิดขึ้นในขณะนี้มันไม่ใช่ไปดูเรื่องปืนเพียงอย่างเดียว จะต้องดูว่าทำไมคนถึงมีจิตใจข้างในอย่างนี้ได้ สังคมเราจะต้องทำให้ไม่มีคนเป็นแบบนี้ เพราะเขาไม่รู้จักความมีเมตตาปราณี ไม่รู้ในเรื่องจิตใจของคน ซึ่งเขาไม่มีสิทธิ์จะไปทำร้ายใคร ผมคิดว่าน่าจะเป็นพื้นฐานในตัวของผู้ที่ก่อเหตุ” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจะต้องมีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นกว่านี้หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถ้าพูดไปเดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็น เอาเป็นว่าจะไปทำอย่างนั้นไม่ได้ พออีกวันก็ต้องไปดูที่โรงเรียนมัธยมอีก มันเป็นไปไม่ได้ เขามีครูที่คอยดูแล แล้วจะต้องให้ครูเขามีปืนหรือถึงจะหยุดได้ อย่าลืมว่าเขามีครูคอยดูแล และครั้งนี้ครูก็เสียชีวิตด้วย เพราะฉะนั้นจะให้ไปเพิ่มเติมอย่างไร มันไม่ได้ คุณไปแก้ตรงนี้แล้วโรงเรียนมัธยมล่ะ อย่าให้พูดเลยดีกว่าเดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็น อย่างไรก็ตามทุกสถานที่เขามีมาตรการดูแลอยู่แล้ว