“คณะก้าวหน้า” รุดให้กำลังใจ ผู้ได้รับผลกระทบเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู

“คณะก้าวหน้า” รุดให้กำลังใจ ผู้ได้รับผลกระทบเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู

“ช่อ” นำทีม “คณะก้าวหน้า” รุดเยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบเหตุกราดยิง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก หนองบัวลำภู พบผลกระทบทางจิตใจต่อคนยังมีมหาศาล บุคลากรเสียขวัญหนัก เผยทั่วประเทศขาดแคลนโครงสร้างที่จำเป็นต่อความปลอดภัย เตรียมหารือจัดอบรมครูรับมือเหตุไม่คาดฝัน

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2565 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู คณะก้าวหน้า นำโดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และนายไกลก้อง ไวทยการ ผู้อำนวยการนโยบายท้องถิ่น คณะก้าวหน้า เดินทางจาก กทม.ร่วมให้กำลังใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิงเด็กและประชาชน ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ พร้อมประสานความร่วมมือกับ เทศบาลตำบลเก่ากลอย อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ที่ทำงานร่วมอยู่กับคณะก้าวหน้า ให้สนับสนุนการช่วยเหลือและเยียวยาจิตใจกันและกัน

โดยคณะก้าวหน้าได้เดินทางมายังที่ทำการ อบต.อุทัยสวรรค์ และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ปัจจุบันเป็นกองอำนวยการประสานงานความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อพูดคุยและให้กำลังใจบุคลากรของ อบต.อุทัยสวรรค์ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ ทั้ง ผอ.กองการศึกษา อบต.อุทัยสวรรค์ หัวหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ พร้อมพูดคุยกับ จิรศักดิ์ วิชัย นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเก่ากลอย ซึ่งเป็นเทศบาลที่อยู่ในพื้นที่ติดกัน เพื่อประสานความช่วยเหลือและการเยียวยาจิตใจซึ่งกันและกัน

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ความสูญเสียในเหตุการณ์เมื่อวานนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้า และสิ่งที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กันคือสภาพจิตใจของผู้สูญเสียและผู้ที่ผ่านเหตุการณ์นี้มา ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ดังนั้น ในระยะเฉพาะหน้านี้ การดูแลเยียวยาจิตใจผู้สูญเสียจึงสำคัญที่สุด และตรงนี้ต้องชื่นชมหน่วยงานรัฐเช่นกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ที่เริ่มกระบวนการเข้ามาเยียวยาผู้สูญเสียแล้วอย่างรวดเร็ว

ในส่วนของคณะก้าวหน้าเอง มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่ทำงานร่วมกันกับคณะก้าวหน้า อยู่ในอำเภอเดียวกัน นั่นคือเทศบาลตำบลเก่ากลอย ซึ่งแม้จะไม่ได้รับผลโดยตรง แต่ก็มีผลกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง จากที่ได้พูดคุยกับทั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเก่ากลอย และผู้ประสานงานของคณะก้าวหน้าในจังหวัดหนองบัวลำภู พบว่าบุคลากรศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในจังหวัดหนองบัวลำภูทั้งหมดตอนนี้ต่างอยู่ในสภาพขวัญเสียจนต้องปิดทำการชั่วคราว ทำให้การเยียวยาจิตใจของบุคลากรศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัด อปท. เป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นกัน

“คณะก้าวหน้า” รุดให้กำลังใจ ผู้ได้รับผลกระทบเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า ได้มีการพูดคุยกับนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเก่ากลอยไปเมื่อครู่นี้ และทางนายกฯ ก็พร้อมเป็นตัวกลางประสานความช่วยเหลือให้กับบุคลากรของ อบต.อุทัยสวรรค์ และ อปท. อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ และอาจจะยังขาดการสนับสนุนในด้านใดก็ตามที่คณะก้าวหน้าสามารถเข้าไปให้การช่วยเหลือได้ ให้ประสานความช่วยเหลือมาได้เต็มที่

สำหรับแนวทางในระยะยาว พรรณิการ์ระบุว่าสิ่งที่ต้องยอมรับ คือข้อเท็จจริงที่ว่า 95% ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในสังกัด อปท. ทั่วประเทศ ขาดการดูแลเอาใจใส่และงบประมาณที่มากพอ แม้แต่โครงสร้างอาคารและวัสดุอุปกรณ์ขั้นพื้นฐานต่างๆ ยังชำรุดทรุดโทรมและมีไม่เพียงพอด้วยซ้ำ ความปลอดภัยและศักยภาพในการรับมือกับเหตุฉุกเฉินยิ่งไม่ต้องพูดถึง 

คณะก้าวหน้า ซึ่งทำงานร่วมกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กมากกว่า 100 แห่งในสังกัด อปท. ทั่วประเทศ ก็กำลังอยู่ระหว่างการหารือในประเด็นนี้ ว่าอาจจะต้องมีการสนับสนุนเพิ่มในด้านนี้ให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ทำงานอยู่กับคณะก้าวหน้า ซึ่งที่ใดก็ตามที่มีสภาพคล่องด้านงบประมาณมากพอ ก็อาจจะตัองพิจารณาปรับปรุงโครงสร้างอาคาร ให้มีห้องนิรภัย และมีหลักสูตรอบรมให้ครูสามารถเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือเหตุฉุกเฉินในลักษณะนี้ได้ รวมถึงมีปุ่มกดฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ

“การอบรมครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เป็นขั้นต่ำที่สุดที่ทุก อปท. สามารถดำเนินการได้ทันที ใช้งบประมาณไม่มากแต่คุ้มค่าที่จะทำ ซึ่งแน่นอนว่าการรับมือกับสถานการณ์คนร้ายถืออาวุธปืนกราดยิงอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้อาจเป็นเรื่องยากที่จะรับมือได้ร้อยเปอเซ็นต์ แต่การมีหลักสูตรอบรมและซ้อมหนีภัย ก็ยังจะเป็นประโยชน์ในสถานการณ์แบบนี้หรือในสถานการณ์อื่นที่รุนแรงน้อยกว่า ให้สามารถรับมือได้ดีขึ้นได้” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

“คณะก้าวหน้า” รุดให้กำลังใจ ผู้ได้รับผลกระทบเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่กระแสสังคมกำลังพาไปในขณะนี้เน้นไปที่เรื่องของยาเสพติดเสียมาก ซึ่งมีส่วนเป็นปัจจัยของเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่ก็จริง แต่ต้องไม่ลืมว่าในเหตุการณ์กราดยิงที่ผ่านมาทั้งสี่ครั้งในรอบสองปีที่ผ่านมา มีเพียงกรณีล่าสุดเท่านั้นที่เกี่ยวกับยาเสพติด แต่ทั้งสี่ครั้งผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจทหารชั้นผู้น้อย นั่นแสดงว่าปัจจัยหลักของเหตุกราดยิงที่มีมากขึ้นในสังคมไทย คือปัญหาอื่นๆ มากกว่า เช่น ปัญหาโครงสร้างของหน่วยงาน การคัดกรองคน และปัญหาสุขภาพจิตของเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย ทั้งตำรวจและทหาร ที่ขาดความรัดกุมและการดูแลที่เพียงพอมากกว่า

“สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ คือเรากำลังมีคนอยู่จำนวนหนึ่ง ที่มีสภาวะเป็นผู้ป่วยทางจิตขั้นรุนแรงด้วยปัจจัยต่างๆ และยังเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่สามารถเข้าถึง ครอบครอง และมีทักษะในการใช้อาวุธปืนอย่างดีด้วย จนนำมาสู่เหตุการณ์เช่นนี้ถึงสี่ครั้งแล้วในรอบสองปีที่ผ่านมา นำมาสู่คำถามว่าถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่จะต้องมีการทบทวนทั้งการคัดกรองคนที่จะมาเป็นเจ้าหน้าที่ โครงสร้างการบริหารภายในหน่วยงาน และการดูแลสุขภาพจิตของเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจ เพื่อแยกเอาบุคคลเหล่านี้เข้าสู่การรักษา ก่อนที่พวกเขาจะลุกขึ้นมาทำร้ายใครได้อีกในอนาคต” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว